9 พ.ย. เวลา 15:04 • ข่าวรอบโลก

ผลกระทบจากการเปิดห้าง Wal-Mart

สำหรับการเปิดห้างใหญ่ๆ หลายๆ คนคิดว่าจะนำมาสู่ความเจริญ ทำให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้น มีการจ้างงานสูงขึ้น แต่ผลการศึกษานี้กลับสะท้อนภาพที่ต่างกันออกไป โดยพบว่า
1. การเปิด Walmart Supercenter ทำให้อัตราความยากจนในพื้นที่เพิ่มขึ้น 2% (เพิ่มขึ้น 16% จากเดิม)
2. ผลกระทบนี้ยังคงอยู่และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนานถึง 10 ปี
3. กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนหนุ่มสาว แรงงานที่มีการศึกษาน้อย คนว่างงาน และผู้มีรายได้ต่ำกว่าค่ามัธยฐาน
4. ผลกระทบต่อตลาดแรงงาน:
* รายได้ครัวเรือนลดลง $4,230 (6%) ต่อปี
* การจ้างงานในภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.3%
* การจ้างงานโดยรวมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
5. ผลกระทบต่อการคลัง:
* รัฐต้องจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้น $200 (16%) ต่อครัวเรือนต่อปี
* รายได้ภาษีลดลง $920 (5%) ต่อครัวเรือนต่อปี
* ประมาณการต้นทุนทางการคลังรวม $3 พันล้านต่อปี
* ผลกระทบเหล่านี้คงอยู่อย่างน้อย 10 ปี
นั่นคือ การเปิดห้างที่ใหญ่มาก ๆ ทำให้เกิดการผูกขาดในการจ้างงานในท้องถิ่นนั้นๆ และมีผลทำให้การกระจายรายได้แย่ลง รวมไปถึงเกิดการกดค่าแรงในพื้นที่นั้นๆ อีกด้วย ถึงแม้ว่าห้าง Wal-Mart ขายสินค้าในราคาถูกเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น ซึ่งควรจะทำให้ค่าครองชีพลดต่ำลง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะชดเชยผลลบที่เกิดขึ้นได้
งานวิจัยดังกล่าวจึงกำลังเป็นที่ถกเถียงกันพอควร เนื่องจากมันขัดกับสามัญสำนึกของการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่ควรจะมีผลกระทบเชิงบวกกับท้องถิ่น
เห็นอย่างนี้แล้วอยากเห็นการศึกษาแบบนี้เหมือนกันในเมืองไทยนะครับ
ป.ล.​ คำว่า Monopsony ที่ใช้ในหัวข้อเปเปอร์นี้แปลว่า ตลาดที่มีผู้ซื้อรายเดียว เรามักจะเคยชินกับคำว่า Monopoly ที่แปลว่า ตลาดที่มีผู้ขายรายเดียวเสียมากกว่าครับ
โฆษณา