10 พ.ย. เวลา 00:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เลือกลดหย่อนด้วย TESG SSF หรือ RMF ยังไงดี มาอ่านกัน

เริ่มจาก อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษีไหม??
ปี 67 นี้ ถ้ารายได้ที่เป็นเงินเดือน ไม่เกิน 26,583 บ. (ไม่เกิน 319,000 บ./ปี) และมีแค่ลดหย่อนประสังคม ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ซึ่งไม่ได้ประโยชน์จากกองประหยัดภาษี ถ้าอยากลงทุนให้ลงทุนกองทุนรวมทั่วไป
ตัวเลข 319,000 บ. คิดจากรายได้ที่เป็น 40(1),(2) หักค่าใช้จ่ายได้ 100,000 บ. ลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บ. ลดหย่อนประกันสังคมปี 67 นี้สูงสุด 9,000 บ. และเงินได้สุทธิ 150,000 บ. แรกไม่เสียภาษี
เป้าหมายของการลงทุน?? ดูเป้าหมายและควรพิจารณาสภาพคล่องด้วยว่าเงินนั้นจะต้องอยู่ในนั้นเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่
- TESG เป้าหมายเก็บเงินเพื่อใช้ในอีก 5 ปี ข้างหน้า
– SSF เป้าหมายเก็บเงินเพื่อใช้ในอีก 10 ปี ข้างหน้า
– RMF เป้าหมายเพื่อเกษียณ และยิ่งถ้าที่ทำงานไม่มี PVD/กบข. ค่อยๆ เก็บ และใช้เวลา เพื่อให้โตพอสำหรับเกษียณ
ระยะเวลาการถือครองเพื่อครบเงื่อนไข??
- TESG นับ 5 ปี แบบวันชนวัน ปีชนปี ของเงินแต่ละก้อนที่ลงทุน
– SSF นับ 10 ปี แบบวันชนวัน ปีชนปี ของเงินแต่ละก้อนที่ลงทุน
– RMF อายุตั้งแต่ 55 ปี ขึ้นไป และลงทุนมาอย่างน้อย 5 ปี โดยนับการลงทุนครั้งแรก ดังนั้นถ้าอายุ เกิน 45 ปี ปีหลังๆ ที่ซื้อจะถือไม่กี่ก็ขายได้ อาจทำให้คล่องตัวในการบริหารเงินหลังเกษียณ
สินทรัพย์ลงทุน
- TESG จำกัดเฉพาะสินทรัพย์ในประเทศ (ถ้าใไม่อยากลงทุนหุ้นไทย ก็อาจเลือกกองตราสารหนี้ได้)
- SSF RMF มีให้เลือกหลากหลายสินทรัพย์ลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ
รายได้ในปีถัดๆไปเป็นยังไงบ้าง??
– TESG SSF ไม่มีข้อผูกผันที่ต้องซื้อทุกปี แต่ปี 67 นี้ ใช้ SSF ลดหย่อนได้ปีสุดท้าย ถ้าไม่ต่ออายุ ดังนั้นอาจต้องดูด้วยว่า เราจะไม่สามารถเติมเงินในกอง SSF ที่เราซื้อได้ ตั้งแต่ปี 68 ไป
– RMF ต้องซื้อทุกปี ขาดได้ไม่เกิน 1 ปี ติดต่อกัน แต่ก็ยืดหยุ่นที่ไม่มีกำหนดการซื้อขั้นต่ำ
ต้องการเงินระหว่างทาง??
– TESG SSF มีทั้งแบบปันผล และไม่ปันผล ให้เลือก
– RMF ทุกกองไม่ปันผล
เพดานการซื้อ??
- TESG ซื้อลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และไม่เกิน 300,000 บ. เพดานแยกต่างหากไม่รวมอย่างอื่น
SSF ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และไม่เกิน 200,000 บ.
RMF ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ และ SSF + RMF + ประกันบำนาญ + PVD/กบข/กอช/กองทุนสงเคราห์ครูเอกชน ไม่เกิน 500,000 บ.
เงินที่เราลงทุนจะไปช่วยลดหย่อนภาษี ซึ่งจะลดภาษ๊ได้มากน้อยขึ้นกับฐานอัตราภาษีที่เราเสีย เช่น เราลงทุนกองประหยัดภาษี 100,000 บ. และเราเสียอยู่ที่อัตราภาษี 10% เราจะลดภาษีได้ 10,000 บ. ก็ต้องดูว่า แบบนี้เราโอเคไหม และดูสภาพคล่องของเราด้วย
การลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีช่วยให้เราสามารถวางแผนทางการเงินและมีประโยชน์ทางภาษีเป็นของแถม แต่ก็มีเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อจะได้ไม่มีความยุ่งยากตามมา ดังนั้นจึงควรศึกษาเงื่อนไข และวางแผนการเงินให้พร้อมในการที่จะทำตามเงื่อนไขนะ
และที่เพิ่มเติมต้องแจ้งความประสงค์ในการใช้เพื่อลดหย่อนภาษีกับทาง บลจ. และทาง บลจ. ก็จะส่งข้อมูลของเราไปที่กรมสรรพากร เพื่อทำขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยนะ จึงจะนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้
#ภาษี #วางแผนภาษี #มนุษย์เงินเดือน #คิดภาษี #หมอยุ่งอยากมีเวลา #กองทุนรวม #SSF #RMF #TESG
โฆษณา