10 พ.ย. เวลา 12:38 • ท่องเที่ยว
อะแลสกา

รีวิวนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสกับบรรยากาศการเที่ยวอลาสก้าบนเรือสำราญ Discovery Princess Cruise กันค่าา 💙

เราเคยไปเที่ยว Diamond Princess Cruise มาแล้วรอบนึง ติดใจกับความสะดวกสบายของการเที่ยวแบบนี้ เลยแพลนไว้เลยว่าซักวันจะต้องไปลอง Alaska Cruise ให้ได้ แล้ววันนี้ก็มาถึง ทุกอย่างดีกว่าที่จิตนาการไว้เยอะมาก ดียังไงเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังค่ะ
🚢 Discovery Princess Cruise เป็นเรือที่ใหญ่และใหม่ที่สุดใน Royal Class เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2022 เรือนี้ก็จะล่องอยู่ในรูทเริ่มต้นที่ Seattle, Washington, Juneau, Skagway, Glacier Bay National Park, Ketchikan, และที่ Victoria, British Columbia ก่อนกลับเทียบท่าเรือค่ะ
เรือสำราญที่พามาเที่ยวรูทอลาสก้ามีหลายลำ แต่ที่เราเลือกมากับ Princess เพราะว่าเรือลำนี้จะเหมาะกับคนที่มาเพื่อพักผ่อน ชอบนอนโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไป ไม่เน้นความหวือหวา เน้นประสบการณ์ความสะดวกสบาย
Ocean Medallion ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนประทับใจกับความสะดวกสบายที่ได้รับ เป็นเหรียญที่เอาติดตัวไว้ตอนอยู่บนเรือ ช่วยให้ทุกอย่างง่ายขั้นสุด ถึงหน้าห้องประตูปลดล๊อคให้เองเลย ไม่ต้องแตะการ์ด อยู่ที่ไหนบนเรือแค่กดสั่งอาหารจาก App พนักงานก็มาเสิร์ฟให้ ตามหาเพื่อนร่วมทริปว่าอยู่ส่วนไหนบนเรือก็ได้ ใช้เหรียญนี้จ่ายแทนเงินสดได้หมด เหมือนเป็นบัตรเครดิตที่ใช้บนเรือแทนบัตรจริงค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือนี้ก็มีพร้อม ทั้ง Fitness / สระว่ายน้ำ / สปา / ห้องนอนเตียงนอนดูดวิญญาณ😆 / ร้านอาหารและบาร์ / Treater / ร้านค้า / คาสิโน / ห้องสำหรับเด็ก และยังมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก รวมถึงมีโชว์เลิศๆทุกคืน มี Buffet ให้ทานทุกมื้อ ที่ชอบสุดคือ ห้องอาหาร The Catch by Rudi มื้อพิเศษที่เราทานบนเรือ อาหารอร่อยรสชาติดีทุกจานเลยค่ะ
วันที่เรือจอดเราก็จะได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศ มี Shore Excursion ให้เลือกตามสไตล์ที่ชอบได้เลย ที่เราเลือกไปคือ Whale Watching กับ White Pass Scenic Railway ได้ประสบการณ์ที่ดีมาก เป็นอีกหนึ่ง Memory ของทริปครั้งนี้เลยค่ะ พอกลับมานั่งดูรูปแล้วก็ยังยิ้ม คิดถึงช่วงเวลาตอนนั้น 😌
ใครสนใจ แนะนำให้จองทริปของปีหน้าไว้ก่อนจะเต็มนะคะ
โทรจองได้ที่ 092-6997999
FB : Princess Cruises Thailand
Line : Princess Cruises Thailand
Alaska เป็นทริปในฝันของใครหลายๆคนเลยใช่ม๊า เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่คิดว่าซักครั้งต้องมาที่นี่ให้ได้ หาข้อมูลพักใหญ่เลยว่า Cruise ที่ไหนที่จะตอบโจทย์ในการเดินทางของทริปนี้บ้าง และสถานที่ที่ไปมีที่ไหนบ้าง เลยตกลงว่าเลือก Discovery Princess Cruise 🚢 สำหรับทริปนี้ค่ะ
บริษัท Princess จะมีเรือที่ล่องในเส้นทางอลาสก้าในปี 2024-2025 ประมาณ 10 ลำค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่พาคนมาเที่ยว Alaska เยอะที่สุดในน่านน้ำนี้ มีความเชี่ยวชาญ ความชำนาญจริงๆที่จะพาเราไปถึงจุดหมายปลายทาง
Discovery Princess Cruise 🚢 เป็นเรือที่เพิ่งถูกสร้างมาใหม่ในระดับ Royal Class จากที่เคยได้สัมผัสมาแล้วคิดว่า Diamond Princess Cruise ใหญ่แล้วนะ มาเจอลำนี้คือแบบ ต้องเรียกว่าใหญ่มว๊ากกกจริงๆ
ไฮไลท์เด่นของ Route นี้คือ Glacier Bay ค่ะ เป็นสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในอลาสก้า เราจะไปดูความมหัสจรรย์ความสวยงามของธารน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติกัน
ก่อนที่จะขึ้นเรือเราต้องบินไปลงที่เมือง Seattle, USA ก่อน ใช้เวลาประมาณ 1-2 วันถึง จากนั้น Check-in เข้าพักโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือมากนะ (ในส่วนนี้ทางเอเจนซี่จะเป็นคนจัดการให้เองค่ะ)
วันนั้นไกด์ให้กลุ่มพวกเรา Check-out เร็วหน่อย จะได้มีเวลาแวะเที่ยวกันที่ตลาด Pike Place Market ก่อนขึ้นเรือ 😌 ที่นี่เป็นตลาดสด มีขายของ Local เยอะแยะไปหมด บรรยากาศคึกคักเลยทีเดียว
จากนั้นก็เดินทางไปยังท่าเรือ Pier 91 Smith Cove Cruise Terminal Check-in ขึ้นเรือ โหลดกระเป๋า
เดี๋ยวเราไปดูกันว่าใน 7 วันบนเรือมีอะไรน่าสนใจบ้าง แวะเที่ยวที่ไหน อาหาร ห้องนอน กิจกรรมเป็นยังไงไปดูกันค่า (ด้านล่างเป็น list สถานที่ที่เรือแวะพาเราเที่ยวนะคะ)
- Seattle 🇺🇸
- Juneau 🐳
- Skagway 🚂
- Glacier Bay 🧊
- Ketchikan 🐟
- Victoria 🇨🇦
เรือจะมีทั้งหมด 19 ชั้น นะคะ ในรูปคือชั้นที่ 5 เป็นโซนที่รวมกิจกรรม บาร์ ร้านอาหาร และจุดนัดรวมพลเวลาไกด์ของเราเรียกเจอ
เหรียญ Ocean Medallion มีความสำคัญมากสำหรับลูกทริปทุกคนบนเรือ เราจะได้เหรียญนี้ก็ต่อเมื่อเรา Check-in โหลดสัมภาระเรียบร้อยแล้วตอนอยู่ที่ท่าเรือ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราได้ประสบการณ์การพักที่สะดวกและง่ายมากขึ้นในการใช้ชีวิตบนเรือ เป็นที่เก็บข้อมูลประจำตัวดิจิทัลของเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไร เช่น
เข้าถึงห้องพักได้สะดวกขึ้น แค่เดินห่างจากระยะประตูประมาณ 1 เมตร ประตูก็จะปลดล็อกให้อัตโนมัติ สามารถเป็นกุญแจห้องพักอัจฉริยะ ทำให้เราไม่ต้องพกกุญแจหรือบัตรเข้าออกห้อง แค่แตะเหรียญกับประตู
บริการสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้ทุกที่ สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแอป Princess Medallion Class และให้พนักงานมาส่งถึงตำแหน่งที่เรานั่งอยู่ได้เลย
ช่วยค้นหาครอบครัวและเพื่อนๆบนเรือ
มีแผนที่และข้อมูลการเดินเรือ Ocean Madallion เชื่อมต่อกับจอ Interactive บนเรือ ทำให้เข้าถึงข้อมูลในเรนื่องของกิจกรรมต่างๆที่มีบนเรือ ตารางเวลา และแผนที่เรือได้ง่าย
เปิดประตูเข้ามาในห้องก็จะเห็นหน้าจอ Welcome แบบนี้ค่ะ
เราเลือกนอนเป็นแบบ Balcony Type แบบ Twin Bed มีระเบียง นอนได้ 2 คน ห้องนี้จะอยู่ชั้นที่ 10 หรือ Deck 10 Stateroom : C231 เตียงดีงามและนิ่มมากกก หลับสบายสุดๆ ดีจนรู้สึกว่าเวลาเรือเจอคลื่นแรงๆ แทบไม่รู้สึกถึงความโคลงเคลง หลับสนิทตลอดคืนค่ะ 😌มีอุปกรณ์ต่างๆครบเหมือนอยู่โรงแรม มีสบู่ แชมพู ไดร์เป่าผม ตู้เย็น ตู้เซฟ แต่ไม่มีรองเท้าเดินในห้องนะคะ ต้องเตรียมมาเอง
ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลา Type ห้องและแพคเกจที่เราเลือกซื้อเพิ่มเติม ราคาขึ้นลงตลอดเวลาคล้ายๆราคาตั๋วเครื่องบิน
หน้าตาห้องน้ำค่า ที่อาบน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือมีม่านกั้น มีอ่างล้างหน้า พนักงานดูแลดีมาก ทุกครั้งที่เราไม่อยู่ห้องจะมีพนักงานดูแลความสะอาดเข้ามาทำความสะอาดให้ทุกครั้งเลย
หลังจากที่ Check-in เข้าห้องพักแล้ว สิ่งที่ต้องทำเลยคือ ดูคลิปวีดีโอซ้อมหนีไฟในห้องค่ะ เป็นการเตรียมตัวให้พร้อมถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไร จะได้รู้ว่าเจ้าหน้านัดเจอกันที่ไหน ต้องทำอะไรบ้าง
นอกจากจะมีวีดีโอ information ต่างๆแล้ว ก็มีหนังสนุกๆให้เราเลือกดูได้ตลอด
จุดหมายปลายทางแรก เรือจะพาเราไป Juneau (จูโน่) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐอลาสก้า ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาและมหาสมุทรแปซิฟิค เป็นเมืองที่เข้าถึงได้ยากในการเดินทางโดยรถ เราใช้เวลาในการเดินทางประมาณหนึ่งวันครึ่งถึงที่นั่น ที่นี่จะมีกิจกรรมดูวาฬกับทานปูอลาสก้าและเดินช้อปปิ้งกันค่ะ ช่วงที่ไปเป็นช่วงที่วาฬหลังค่อมมาอาศัยกันในอ่าวอ็อกช่วงฤดูร้อน 🐋 พอหมดช่วงฤดูร้อนวาฬก็จะย้ายไปอยู่ที่ฮาวายกัน
ในส่วนนี้เราสามารถซื้อกิจกรรมหรือที่เรียกว่า Shore : Whale Watching & Wildlife Quest Created by The Allen Family กับทางบริษัทเอเจนซี่ได้เลยตั้งแต่จองทริป สะดวกสบายมาก ทำเราไม่ต้องกังวลในเรื่องของภาษาที่จะสื่อสารกับพนักงาน การเข้าใจไม่ตรงกัน ที่อาจเกิดความผิดพลาดได้
ด้านล่างเป็นลิงก์รีวิวต่างๆที่เราแวะค่ะ
รีวิวดูวาฬที่อ่าวอ็อก
รีวิวเที่ยวจูโน่
รีวิว Tracy’s king 🦀 Crab
ระหว่างเดินทาง เวลาว่างเราชอบมาสูดอากาศกันบนดาดฟ้าของเรือ เห็นวิวทะเลที่กว้างใหญ่ไกลสุดลูกตา สองข้างทางโอบล้อมไปด้วยมหาสมุทร ชิลมากๆๆ ตรงนี้จะอยู่ที่ชั้น 16 ของเรือ นอกจากวิวมหาสมุทรแล้ว ชั้นนี้ยังมีบาร์ ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ ร้านพิซซ่า ฮอทดอก สระว่ายน้ำ อ่างน้ำร้อนจากุซซี่ และ Movie under the Star ด้วยค่ะ คือไม่ต้องกลัวเบื่อเลย บนเรือมีอะไรให้ทำตลอดเวลา
เวลาที่อากาศดีๆมีแสงแดด Sky pool จะเป็นจุดที่ผู้โดยสารมากันที่นี่มากที่สุด ทุกคนดูเอ็นจอยกันมาก
การมานั่งแช่น้ำอุ่นๆในอ่างจากุซซี่ท่ามกลางอากาศหนาวและเพลิดเพลินกับวิวสองข้างทางไปด้วยคือ A must!
มุมนี้อยู่ชั้น 16 ค่ะ มองเห็นวิวด้านล่างด้วย แอบตื่นเต้นเบาๆตอนเดินผ่าน
ในส่วนชั้น 17 ของเรือก็จะมีห้อง Fitness Center, Retreat Pool, Retreat Bar, Photo Studio, Youth and Teen Center
อากาศที่นี่ค่อนข้างสวิง เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย บางวันแดดดีมาก บางวันก็ครึ้มมาเชียว บางวันก็หนาวแถมลมแรงสุดๆ บางวันมีฝนตกปรอยๆ แต่นี่ก็คือเสน่ห์ของการเดินทางอะเนอะ 🙂 แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้ามาให้พร้อมทุกสถานการณ์นะคะ
สิ่งที่ชอบมากเลยคือ วิวและบรรยากาศที่เปลี่ยนไปทุกวัน มันเพลินมากๆ ได้อยู่กลางมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ เหมือนได้เอาตัวเองออกมาจากชีวิตประจำวันเดิมๆแล้วได้พักผ่อนแบบเต็มที่
ช่วงเวลาที่หนังฉาย มีบริการป็อปคอร์นกับไอศครีมให้ด้วย ชิลมากกกตอนนี้ ชอบมาก
อีกอย่างที่พลาดไม่ได้เลย คือการดูโชว์บนเรือ
ในแต่ละวันก็จะมีการจัดแสดงโชว์ต่างๆ ในรอบเวลาที่ต่างกันไป โชว์ไหนที่น่าสนใจที่นั่งจะเต็มเร็วมาก โชว์ของ Whitney Houston เป็นโชว์ที่เราประทับใจสุด นักร้องเสียงเพราะสะกดใจ
อีกหนึ่งการแสดงที่สนุก แล้วได้เสียงหัวเราะกันก่อนเข้านอนคือมายากลค่ะ ห้ามพลาดเลย จริงๆก็มีอีกหลายการแสดงที่น่าสนใจมากๆ ต้องจัดเวลาให้ดีตอนอยู่บนเรือ เพราะมีกิจกรรมหลายอย่างที่อยากทำ
ห้อง Youth and Teen Centers จะมีเครื่องเล่นเด็ก ยิงปืน แข่งรถ ตู้คีบตุ๊กตา ใครมาเป็นครอบครัว มีเด็กๆมาเล่นโซนนี้น่าจะถูกใจ
ในส่วนของ Casino จะอยู่ชั้นที่ 6 มีให้เลือกหลากหลายใครชอบเสี่ยงโชคไปลองเล่นได้ค่ะ
วันไหนที่มีงาน Formal Night ไม่ต้องกลัวว่าเสื้อผ้าจะไม่เนี๊ยบ เดินมารีดได้เลยที่ห้อง Laundry จะมีให้ทุกๆชั้นที่มีห้องพักค่ะ
ช่วงเวลาบนเรือเป็นช่วงเวลาที่ได้ปล่อยใจล่องลอยไปกับเสียงคลื่นและลม คิดถึงตอนนั้นจัง
ตอนแรกนึกว่าพระอาทิตย์ อ้าวปรากฏว่าเป็นพระจันทร์ พระอาทิตย์อยู่รูปถัดไปค่ะ
แสงแรกของวันกลางมหาสมุทรแฟซิฟิก
บางวันอยากออกกำลังกายตอนเช้า เราก็จะมาโซนกิจกรรมกลางแจ้งที่อยู่บนดาดฟ้าชั้น 18 ของเรือค่ะ จะมีสนามบาส แบด ฟุตบอล ปิงปอง ลานวิ่งจ็อกกิ้ง
มีที่พัตกอล์ฟให้ด้วยน๊า
O'Malley's Irish Pub อีกหนึ่งโซนที่หลายๆคนในเรือ ชอบมานั่งจิบไวน์ชิลๆกัน ตรงนี้บรรยากาศดีมาก มองเห็นทะเลนอกหน้าต่างด้วย
มาเรือสำราญแบบนี้ แนะนำให้ซื้อ Package Plus นะคะ จะคุ้มกว่ามากๆ แพคเกจนี้จะรวมค่า Wifi บนเรือ รวมค่าทิป (ปกติเที่ยวเรือสำราญจะต้องมีค่า Gratuities หรือทิปพนักงานด้วยค่ะ) รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่รวมไวน์ เบียร์ ค็อกเทล น้ำอัดลม ไปเลยค่ะคุ้มมาก แบบใครสายดื่ม แอลกอฮอล์ได้วันละ 15 แก้วต่อวัน
อาหารบนเรือมีให้เลือกเยอะมาก มีบริการทั้ง เช้า กลางวัน เย็น สั่งได้ตลอดเวลา อย่างเวลาที่ดูโชว์อยู่อยากสั่งเครื่องดื่มหรือพิซซ่า เค้าก็มาเสิร์ฟให้ถึงที่ สั่งได้ไม่อั้น ฟินน มีทั้งห้องบุฟเฟ่ต์และห้องอาหารปกติที่รวมอยู่ในแพคเกจ และห้องอาหารแบบพิเศษที่ต้องจ่ายเพิ่ม สำหรับเราอาหารที่เค้าเสิร์ฟปกติก็เลิศมากอยู่แล้ว จะมีเมนูที่มีให้สั่งแบบเดิมทุกวัน และเมนูใหม่ที่ไม่ซ้ำกันซักวัน เมนูที่ชอบมากที่สุดเลยคือที่ห้องอาหาร The Catch by Rudi เลิศ อาหารรสชาติดีสุดๆ กุ้ง Lobster เนื้อสดเด้ง หวาน ฉ่ำ
มาต่อกันที่ห้องอาหารบุฟเฟต์หรือ Horizon Bistro บ้าง โซนนี้จะเปิดให้บริการเช้า กลางวันและเย็นจนถึง 5 ทุ่ม เข้ามานั่งทานได้ตลอด วันละกี่รอบก็ได้ อาหารจะเปลี่ยนไปตามวัน
อันนี้กรี๊ดมากตอนเจอ เชอรี่สดๆ ตักได้ไม่อั้น
The Catch by Rudi เป็นร้านอาหารที่อยู่บนเรือสำราญ Princess Cruise ดูแลโดยเชฟ Rudi Sodamin เชฟที่มีชื่อเสียงในการทำอาหารทะเลและเป็นที่รู้จักในวงการการทำอาหารนานาชาติมายาวนานกว่า 30 ปี
.
เมนูส่วนใหญ่ของร้านจะเน้นอาหารทะเลสดใหม่ เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจากทั่วโลก เชฟจะเป็นคนครีเอทเมนูอาหารทั้งหมด รสชาติดีทุกจาน เป็นอีกมื้อที่ประทับใจมากเลยทั้งอาหารและบรรยากาศ ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวเรือ Discovery Princess แนะนำให้มาลองร้านนี้ด้วยค่ะ คิวแน่นทุกวัน จองล่วงหน้านานๆเลยน๊า
พิซซ่ากับเฟรนฟรายบนเรือคือดีย์เว่อร์ แป้งบางกรอบ อร่อยยยย เฟรนฟรายทอดมากรอบนอกนุ่มใน เป็นทริปเพิ่มน้ำหนักที่แท้!
เบียร์ Alaska จะรสชาติขมกว่าปกตินิดนึง แต่โดยรวมก็ละมุนอยู่นะ ต้องลองๆ
วันไหนอยากชิลอยู่ในห้องนอน กดสั่งอาหารเครื่องดื่มจาก MedallionClass App มานั่งทานกันในห้องพักได้เลย ไม่ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของเรือสำราญ พนักงานจะมาเสิร์ฟถึงที่เลยค่ะ
และแล้วเรือของเราก็ใกล้ถึงไฮไลท์ของทริปแล้วววว ตื่นเต้นนนน
วันนี้เรือจะล่องเข้าอุทยานแห่งชาติเกลเซอร์เบย์ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงบ่าย 3 โมงค่ะ
บรรยากาศตอนเข้าไปถูกหมอกปกคลุมเต็มไปหมด แทบมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย พร้อมกับเสียง Horn ที่กัปตันกดเป็นระยะๆ ให้ความรู้สึกลึกลับ น่าพิศวงเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในดินแดนอะไรซักอย่าง ชอบบบบบ ตื่นเต้นดี 5555
และแล้วฟ้าก็เป็นใจ แดดออกแล้วววว
Glacier Bay อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ตั้งอยู่ในรัฐอลาสก้า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีบรรยากาศรอบๆสวยงาม มีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ภูเขาสูงๆและอ่าวที่สวยงาม
การเดินทางที่ดีที่สุดที่มาที่นี่ได้คือทางเรือ เพราะไม่มีถนนและรอยต่อ และเครื่องบิน จะเข้าไปได้ต้องรอให้น้ำแข็งละลายก่อนค่ะ ซึ่งจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนเดือน พ.ค - ก.ย เท่านั้น เป็นช่วงที่ป่าสวย สัตว์ต่างๆก็เยอะ หมีจะออกมาจากการจำศีล ปลาโลมา นกอินทรีย์หัวขาว และนาคทะเลเต็มไปหมดเลย
ตอนที่เรือจอดนิ่งๆ กัปตันเรือจะมีการบังคับเรือให้หมุนไปรอบๆ เพื่อที่ทุกคนๆจะได้ดื่มด่ำกับสิ่งมหัสจรรย์ที่อยู่ตรงหน้า เป็นโมเม้นต์ในความทรงจำเลย
ถ้าจังหวะโชคดีเราจะได้เห็นธารน้ำแข็งที่เกาะตัวอยู่ถล่มลงมา เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วอ่าว
ที่นี่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกของ UNESCO ด้วยนะคะ ของจริงสวยเกินกว่าบรรยายมากค่ะ อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส
เห็นยิ้มๆแบบนี้คือหนาวมากกกก ตอนแรกเตรียมชุดมาไม่ถูกเลย เห็นว่าเป็นหน้าร้อน วันที่เรือมาที่ Glacier Bay คือหนาวที่สุด เอาเสื้อหนาวมาด้วยค่ะ
ระเบียงในห้องนอนเป็นมุมที่เราสองคนชอบออกมามองวิวทะเลสวยๆและส่องสัตว์ทุกวัน
Cheers!! 🥂
ร้าน Tracy's King Crab Shack ร้านขายปูอลาสก้าชื่อดังในเมืองจูโน่ เชี่ยวชาญในการเสริ์ฟปูยักษ์ โดยเฉพาะปู King Crab เป็นอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงในพื้นที่นี้ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของการเดินทางมาท่องเที่ยวที่อลาสก้า รับรองว่าสด ราคาดีงามมจับต้องได้
ชิ้นใหญ่มาก ใครตั้งใจจะไปทานร้านนี้อยู่แล้วถ้าอยากแซ่บๆก็พกน้ำจิ้มซีฟู้ดติดตัวไปด้วยนะคะ ส่วนตัวคิดว่าทานตามสูตรของร้านก็อร่อยแล้วค่ะ ไม่ต้องจิ้มอะไรเลยก็ได้
อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่าเรามีแวะเที่ยวด้วยกัน 5 สถานที่เที่ยวใช่มั๊ยค่ะ ในส่วนรีวิวอื่นๆ เดี๋ยวแปะลิงก์ไว้ให้นะคะ
คลิปนั่งรถไฟ White Pass Scenic Railway, Skagway
รีวิวเมือง Victoria, Canada
และแล้วทริปนี้ก็จบลงอย่าง Happy ending 🥳
ใครที่อ่านจนจบแล้วรู้สึกว่า ซักครั้งต้องพาตัวเองมาเที่ยวเรือสำราญชมวิวธรรมชาติสวยๆแบบนี้ให้ได้ แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าประมาณ 1 ปีนะคะ เรือสำราญยิ่งจองก่อนนานๆยิ่งดี เพราะบางเส้นทางเต็มเร็วมาก จองช้าบางทีห้องที่เราเลือกจะเต็มแล้ว
สอบถามรายละเอียดเพื่มเติมได้ที่ 092-6997999
FB : Princess Cruises Thailand
Line : @princesscruisesth
โฆษณา