10 พ.ย. เวลา 12:51 • ข่าว

กมลา แฮริส เจ๊งยับ ติดหนี้กว่า 20 ล้านเหรียญหลังลงทุนหาเสียงหนักใน 7 รัฐสมรภูมิ

การเลือกตั้งใหญ่ 2024 ของสหรัฐจบลงแล้ว ด้วยชัยชนะม้วนเดียวจบ แบบถล่มทลายของโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่กวาดคะแนนเสียงคณะเลือกตั้งไปได้ถึง 312 เสียง จากทั้งหมด 29 รัฐ กับคะแนน Popular vote มากกว่า 74 ล้านเสียง คิดเป็น 50.5%
2
ในขณะที่กมลา แฮริส สามารถคว้าชัยได้เพียง 18 รัฐ + กรุงวอชิงตัน ดีซี ได้คะแนนเสียงคณะเลือกตั้งไป 226 เสียง กับคะแนน Popular Vote 70 ล้านเสียง คิดเป็น 47.9%
เป็นความพ่ายแพ้ของเดโมแครต ยิ่งกว่าการเลือกตั้งในปี 2016 ที่ ฮิลลารี คลินตัน เจอ กับโดนัลด์ ทรัมพ์ที่ลงเลือกตั้งเป็นครั้งแรกเสียอีก เพราะถึงคราวนั้น เดโมแครตจะแพ้ แต่อย่างน้อย ฮิลลารี ก็ยังชนะทรัมพ์ในส่วนของคะแนน Popular Vote ที่ 48.2% ต่อ 46.1%
แต่ความพ่ายแพ้ของกมลา แฮริส ยังไม่จบแค่หลังปิดหีบนับคะแนน แต่เธอยังต้องเจอปัญหาใหญ่ที่ต้องสะสาง เป็นหนี้ก้อนโตถึง 20 ล้านเหรียญ โดยเฉพาะงานอีเว้นท์คอนเสิร์ตใหญ่รัฐสมรภูมิ ก่อนวันเลือกตั้ง ที่เดโมแครตหมายมั่นจะกวาดคะแนนเสียงกลุ่มชนชั้นแรงงานให้ได้ แต่สุดท้าย กลับเป็นทรัมพ์ ที่กวาดชัยชนะหมดทั้ง 7 รัฐ โดยไม่แบ่งให้แฮริสเลยแม้แต่รัฐเดียว
มีการเปิดเผยข้อมูลกับสื่ออเมริกันว่า แค่ในคืนวันจันทร์ วันก่อนเปิดหีบเลือกตั้ง ทีมแฮริสได้ใช้งบกว่า 20 ล้านเหรียญลงทุนจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในรัฐ
swing-state โดยหนึ่งในนั้น มีการแสดงของนักร้องระดับตำนาน บอง โจวี่ ที่เมืองดีทรอยท์ คริสตินา อากิเลรา ที่ลาส เวกัส แคที แพร์รี ที่พิตต์สเบิร์ค และ เลดี้ กาก้า ที่ ฟิลาเดลเฟีย ด้วย
4
แต่ทว่า จนถึงตอนนี้ออแกไนเซอร์ยังไม่ได้รับเงินค่าจัดงานคอนเสิร์ตเลย แล้วเมื่อผลเลือกตั้งออกมาว่า กมลา แฮริส พ่ายแพ้ในรัฐสมรภูมิที่จัดงานด้วยแล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าทางผู้จัดจะได้เงินค่าจัดงานหรือเปล่า
3
ส่วนทีมหาเสียงของแฮริส กล่าวกับสื่อว่า ตอนนี้พวกเขาก็กำลังรอเงินจากกองทุนแคมเปญของแฮริสอยู่เหมือนกัน และยอมรับว่ากลยุทธการละลายเงินกับคอนเสิร์ตของบรรดาเซเลปนักร้องดังๆ ที่ประกาศตัวว่าสนับสนุนแฮริส นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังกลายเป็นหายนะของ
กองทุนพรรคเดโมแครตด้วยซ้ำไป
4
ข่าวนี้สร้างความแปลกใจให้กับผู้ที่ติดตามข่าวการเลือกตั้งสหรัฐฯ ทั้งใน และ ต่างประเทศ พอสมควร เพราะหากย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ประกาศว่า กมลา แฮริส ได้เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐอย่างเป็นทางการ ก็มียอดเงินบริจาคหลั่งไหลเข้ามาสนับสนุน กมลา แฮริส อย่างล้นหลาม
1
จนถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ทีมแฮริส สามารถระดมทุนหาเสียงได้มากถึง 1 พันล้านเหรียญ มากกว่าทีมหาเสียงของทรัมพ์ที่มียอดเงินบริจาคเพียง 375 ล้านเหรียญ ถึง 3 เท่า
3
ซึ่งยอดเงินบริจาคจำนวนมหาศาล เป็นสิ่งที่ทีมหาเสียงของแฮริสภูมิใจเสมอมา ที่เอาไว้ใช้ขิงทีมทรัมพ์ออกสื่ออยู่บ่อยๆ
1
แต่การได้เงินไม่สำคัญเท่ากับการใช้เงินอย่างฉลาด เพราะในขณะที่ทีมทรัมพ์ ใช้งบหาเสียงที่มีอยู่อย่างจำกัดด้วยการเน้นการเข้าถึงชาวบ้าน และใช้สื่อนำเสนอนโยบายอย่างตรงประเด็น ในขณะที่ทีมแฮริส เน้นการสร้างกระแสในสื่อออนไลน์ เอาใจกลุ่ม Young voter จ้างเซเลป ดารา คนดังมาช่วยหาเสียงและจัดงานอีเว้นท์ที่ใช้งบประมาณสูง
1
และมีอยู่สิ่งหนึ่งที่ ทีมฮิลลารี คลินตัน เคยพลาดมาก่อน และทีมแฮริส ก็ซ้ำรอยช้ำเดียวกัน คือการเอางบไปสนับสนุนการทำโพลที่แสดงผลว่าแฮริส มีคะแนนนำเหนือคู่แข่ง กับละลายเงินไปกับสื่อให้ออกข่าวถล่มทรัมพ์ จนหน้าสื่อมีแต่ชื่อทรัมพ์ จนลืมไปว่าควรให้ความสำคัญกับการแย่งพื้นที่ข่าวให้กับแฮริสมากกว่า
5
แล้วผลการเลือกตั้ง ก็เผยให้เห็นว่า กลยุทธที่ผ่านมาของของทีมแฮริส และพรรคเดโมแครต เหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ที่นอกจากจะจ่ายหมดจนไม่เหลืออะไรแล้ว ยังติดหนี้อีก
4
และเป็นงานที่ กมลา แฮริส ต้องสะสางให้เรียบร้อยก่อนลาทำเนียบไปพร้อมกับโจ ไบเดน จะแกล้งทำเป็นแพ้แล้วไม่มีแรงจ่ายไม่ได้
1
นับเป็นบทเรียนสำคัญอีกครั้งของพรรคเดโมแครต สำหรับการลงสนามครั้งต่อไปว่า เราต้องการหาเสียงเพื่อใคร? เพื่อดารา หรือ เพื่อประชาชน
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา