10 พ.ย. เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Flash : Weekly Economic Highlights – ตัวเลขเศรษฐกิจน่าสนใจ มีอะไรบ้าง ? (11 พ.ย. 2024)

สวัสดีวันที่ 11/11 นะครับ เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคน เริ่มช้อปปิ้งกันไปแล้ว หรือกำลังจะไปช้อปปิ้ง ผมยังไม่รู้จะซื้ออะไรเลยฮะ :] Mr. ขอสรุปภาวะตลาดในสัปดาห์นี้ให้อ่านกันเหมือนเดิมครับ
สรุปสภาวะตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ?
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยตลาดสหรัฐฯปรับตัวขึ้น 4-5% ทำจุดสูงสุดใหม่ หลังจากการเลือกตั้งสหรัฐฯเป็นไปตามคาด นาย Donald Trump ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ปธน. จากพรรค Republican ได้รับเลือกตั้งเป็น ปธน.สหรัฐฯสมัยที่ 2 (สรุปในลิงค์ด้านล่าง) ทำให้ตลาดคาดหวังการลดภาษี, ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ควบคุมบริษัทต่างๆเพิ่มขึ้น รวมทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบาย -0.25% สู่ระดับ 4.50%-4.75% ตามคาด และประธาน Fed แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ายังขยายตัวแข็งแกร่ง
นาย Donald Trump – ภาพจาก www.npr.org/2024/11/06/nx-s1-5180057/donald-trump-wins-2024-election
Fed ลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ในการประชุม 7 พ.ย. ที่ผ่านมา - ภาพจาก CNBC.com
ขณะที่การเมืองยุโรปเริ่มไม่แน่นอน นาย Olaf Scholz ผู้นำเยอรมนี ถอดถอนนาย Christian Lindner รมต.คลัง ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีความเห็นด้านนโยบายที่แตกต่างกัน ทำให้พรรค Free Democratic Party (FDP) ของนาย Lindnerซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจ และนาย Scholz ยังกล่าวว่าจะเปิดโหวตไม่ไว้วางใจในวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งอาจทำให้เยอรมนีต้องจัดการเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่จะจัดขึ้นในเดือน มี.ค.
นาย Olaf Scholz (ซ้าย) ผู้นำเยอรมนี และนาย Christian Lindner อดีต รมต. คลังของเยอรมนี (ขวา) - ภาพจาก www.thetimes.com/world/europe/article/time-is-almost-up-for-olaf-scholz-after-germany-coalition-chaos-g2dxp29tm
ด้านจีน ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน (Standing Committee of the National People's Congress) อัดฉีดสภาพคล่อง 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ เพื่อบรรเทาภาระหนี้รัฐบาลท้องถิ่น แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก ทำให้ตลาดค่อนข้างผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า จีนตั้งใจที่จะเก็บกระสุนไว้ใช้หลังจากที่นาย Trump ประกาศเข้ารับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐฯในปีหน้า ขณะที่เงินเฟ้อจีน เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 4 เดือน สะท้อนว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนยังต้องใช้เวลาส่งผ่านไปสู่เศรษฐกิจจริง
การประชุม Standing Committee of the National People's Congress รอบล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีอัดฉีดสภาพคล่อง 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อช่วยเหลือหนี้รัฐบาลท้องถิ่น - ภาพจาก www.myanmaritv.com/news/14th-national-people%E2%80%99s-congress-standing-committee
ตัวเลขเศรษฐกิจ และเหตุการณ์ที่น่าติดตาม
12 พ.ย. : เงินเฟ้อ (CPI) เยอรมนี เดือน ต.ค. คาดว่าจะทรงตัวที่ +0.4%MoM
13 พ.ย. : เงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาดว่าจะทรงตัวที่ +0.2%MoM และ +2.4%YoY เท่ากับเดือนก่อน
14 พ.ย. : การแถลงมุมมองด้านเศรษฐกิจของนาย Jerome Powell ประธาน Fed + ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น +0.2%MoM + ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ + GDP ญี่ปุ่น ไตรมาส 3 คาดว่าจะชะลอตัวลงเป็น +0.2%QoQ จาก +0.7%QoQ ในไตรมาสก่อน
15 พ.ย. : ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ คาดว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย
นอกจากนี้ ติดตามการแถลงมุมมองของประธาน Fed สาขาต่างๆที่จะทยอยออกมาแสดงมุมมองในสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้จะมีวันหยุด 2 ตลาด ได้แก่ สหรัฐฯ ในวันนี้ (11 พ.ย.) เนื่องในวันทหารผ่านศึก และ อินเดีย ในวันศุกร์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของ Guru Nanak Jayanti หรือคุรุนานัก ศาสดาองค์แรกของศาสนาซิกข์
Mr. เต่า มองว่ายังไง ?
ผมมองว่า ตลาดสัปดาห์นี้มีโอกาส “ย่อตัว” หลังสะท้อนปัจจัยบวกเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการลดดอกเบี้ย Fed ไปแล้ว รวมทั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาก็เป็นตัวเดิมอย่าง เงินเฟ้อผู้บริโภคและผู้ผลิตซึ่งเป็นทิศทางขาลงไม่น่าจะมีอะไรผิดคาด
อีกสิ่งที่น่าสนใจ หลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ ผมมองยังงี้ครับว่า ถึงแม้นโยบายของ Trump จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ “ใช่ว่าจะดีทั้งหมด” เพราะนโยบายอื่น เช่น เรื่องการขับไล่ผู้อพยพ และการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ล้วนเป็นนโยบายที่จะทำให้เงินเฟ้อเร่งตัว และอาจทำให้ Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการลดแรงสนับสนุนสภาพคล่องในตลาดด้วยเช่นกัน ยังไงคงต้องรอดูกันต่อไป
จากสถิติในอดีตตั้งแต่ปี 1980 ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักปรับตัวลงหลังการเลือกตั้ง ปธน. แต่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมา หลังเลือกตั้งไปแล้วประมาณ 1 เดือน - ข้อมูลจาก CNBC.com และเพจเต่าน้อยลงทุน
สิ่งหนึ่งที่น่าจะเห็นได้จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็คือ “ตลาดหุ้นมักปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเลือกตั้ง” โดยเมื่อย้อนดูการเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักเคลื่อนไหวผันผวนในช่วง 1 เดือนแรก แต่จะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปถึงช่วงสิ้นปีครับ (ตามภาพ) บอกได้ว่า เราน่าจะเห็น “ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี”
แนะนำ “รอดูสถานการณ์” ในสัปดาห์นี้ เพื่อนๆที่รอซื้ออยู่ ผมคิดว่ารอจังหวะได้นะ “ตลาดย่อค่อยซื้อ” ส่วนตลาดที่น่าสนใจ ยังเป็น “สหรัฐฯและอินเดีย” ที่มีแนวโน้มได้แรงหนุน และตลาดย่อลงมาพอสมควร ตามลำดับครับ
โชคดีในการลงทุนนะครับ
Mr. เต่า
ปล. อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ สรุปการเลือกตั้งสหรัฐฯ “Advanced Reading : สรุปการเลือกตั้งสหรัฐฯ in bullets (ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 7 พ.ย.2024)” คลิกเลย - www.facebook.com/share/p/hB1Hp8JSdni6AE46/
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ “Easy Reading : ตลาดหุ้นสหรัฐฯมักปรับตัวขึ้นหลังเลือกตั้ง 1 เดือน !!!” คลิกเลย - www.facebook.com/share/p/o2ftKXCMzqbfMKdG/
ค้นหาบทความเต่าน้อยลงทุนผ่าน Facebook ได้อีกช่องทางที่
#อัพเดตการลงทุน #เต่าน้อยลงทุน #ลงทุน #การลงทุน #กองทุนรวม #ข่าวต่างประเทศ #หุ้น #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนรวม #ข่าวการลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
ติดตามเพจ “เต่าน้อยลงทุน” ได้ที่
Source : “China consumer prices rise slowest in 4 months, despite stimulus” – CNBC.com
“Federal Reserve cuts interest rates by a quarter point” – CNBC.com
“Germany’s ruling coalition collapses as Chancellor Scholz fires finance minister” – CNBC.com
ภาพจาก Investing.com
โฆษณา