Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
THEE PLANS 🦌 Financial Solutions
•
ติดตาม
12 พ.ย. เวลา 01:30 • สุขภาพ
เชื่อว่าบรรดาคนรักสุขภาพ ต้องไม่อยากกินหวานเพราะกลัวอ้วน
พยายามหาทุกวิธีที่จะลดน้ำตาล ลดแคลอรี่ แม้จะยังตัดใจจากความหอมหวานอร่อยไม่ได้ 🍭🍩🍦🍧🧋🍮🍬🎂🍪🍨🍡
“แอสปาร์แตม” หรือสารสังเคราะห์เพื่อให้ความหวาน จึงถือกำเนิดขึ้น และทราบไหมครับว่ามันแถมมะเร็งให้ด้วย
สะเทือนวงการสายรักสุขภาพกันเลยสำหรับเรื่อง Sugar-Free หรือรักของหวานแต่ต้องการน้ำตาลเป็น 0% เมื่อองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ “แอสปาร์แตม” (Aspartame) หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลซึ่งถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องดื่มน้ำตาล 0% ยี่ห้อต่าง ๆ เป็นสารที่มีแนวโน้มก่อให้เกิดโรคมะเร็ง 😱
โดยธรรมชาติ น้ำตาล (Sugar) เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน ที่เราคุ้นเคยกันดีก็อย่างเช่น น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊ป น้ำตาลมะพร้าว ไซรัปต่างๆ เป็นต้น
ส่วนน้ำตาลเทียม (Artificial Sweetener) เป็นสารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเติมแต่งรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่ม ใช้ทดแทนน้ำตาลธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่าสารให้ความหวานนั่นเอง โดยมาก นิยมใช้ในผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและแคลอรี่ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก โดยสารให้ความหวานที่นิยมใช้กัน ได้แก่ แซ็กคาริน (Saccharin) แอซีซัลเฟม โพแทสเซียม (Acesulfame potassium) นีโอแทม (Neotame) และแอสปาร์แตม (Aspartame)
“แอสปาร์แตม” เป็นสารที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลธรรมชาติสูงถึง 200 เท่า ถูกใช้แพร่หลายในเครื่องดื่มน้ำตาล 0% แทบทุกยี่ห้อรวมถึงขนม ลูกอม หมากฝรั่ง ยาสีฟัน ไอศกรีม โยเกิร์ต ซอส และผลิตภัณฑ์อีกหลายชนิด เรียกได้ว่าทุกคนน่าจะเคยลิ้มรสอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอสปาร์แตมมาแล้วแน่นอน
แอสปาร์แตมถูกประกาศให้เป็นสารก่อมะเร็งในระดับ 2B หมายถึงมีความเป็นไปได้ที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง โดยมีหลักฐานข้อบ่งชี้ในระดับจำกัด ซึ่งระดับของความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั้นมีอยู่ด้วยกัน 4 ระดับ ได้แก่
💛 ระดับ 1 : เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
🧡 ระดับ 2A : อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
🩷 ระดับ 2B : เป็นไปได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
❤️ ระดับ 3 : ไม่จัดว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์
แม้จะแค่ “มีความเป็นไปได้” แต่ชีวิตจริงในทุกๆ วันก็ยังมีสารอีกหลายชนิดที่ถูกจัดอยู่ในระดับความเสี่ยง 2B ซึ่งเราอาจได้รับมันทุกวันโดยไม่รู้ตัว อาทิ กรดคาเฟอิก (Caffeic Acid) ซึ่งพบในกาแฟ สารสกัดจากแปะก๊วย ซึ่งอยู่ในอาหารเสริมทั่วไป หรือผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าว
หรือแม้แต่สัตว์จำพวกเนื้อแดงที่เรากินกันทุกวัน ก็ยังถูกจัดอยู่ในระดับ 2A ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าแอสปาร์แตมเพียงแต่ไม่ได้สนใจมันมากไปกว่าความอร่อย 😋
นอกจากความเสี่ยงโรคมะเร็งแล้ว การกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานมากๆ ยังส่งผลเสียอื่นได้ นอกจากจะไม่มีประโยชน์ในการช่วยลดไขมันในระยะยาวแล้ว ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะน้ำหนักเกิน โรคอ้วน และอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้อีกด้วย
คำแนะนำที่ดีที่สุด ควรบริโภคน้ำตาลอย่างเหมาะสมและพอดี ไม่ว่าจะน้ำตาลธรรมชาติ น้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานอื่นๆ โดยสำหรับน้ำตาลธรรมชาติไม่ควรบริโภคเกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ร่างกายได้รับต่อวัน หรือคิดคร่าวๆ คือประมาณ 6 ช้อนชา รวมถึงลดการบริโภคอาหารที่มีรสหวานจัด และออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยครับ 💋
สนใจอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมและพอดแคสท์การเงินดีๆ มาร่วมเป็นเพื่อนบ้านกับ THEE PLANS 🦌 กันครับ
https://thee.pw/LinkTree
#รักษาแต่ละทีมีแต่ค่าใช้จ่าย
#สายหวาน #น้ำตาล #เบาหวาน
#เจ็บป่วย #ค่ารักษา #โรคร้ายแรง
#ประกันสุขภาพ #ประกันโรคร้ายแรง
#วางแผนชีวิต #วางแผนการเงิน
#THEEPLANS
#FinancialSolutions
#STANDbyYOU
แนวคิด
สุขภาพ
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย