11 พ.ย. เวลา 03:38 • ความคิดเห็น
1. คำว่า "คนตื่นธรรม" คือการสื่อสารแบรนด์อย่างหนึ่ง ผู้ที่ริเริ่มคำนี้ คงจะอยู่ในแวดวงนิเทศศาสตร์ เอกสื่อสารแบรนด์ คำว่า "ตื่น" เข้าใจว่าถอดแปลมาจากศัพท์ฝรั่ง "awake" ห้วงเวลานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก "อาจารย์เบียร์" นั้นชัดเจนอยู่แล้ว เพราะมีการเดินแผนการสร้างแบรนด์ "อาจารย์เบียร์" มาอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้เราเข้าใจว่า คุณเบียร์เอง ก็คงกล้าที่จะยอมรับอย่างตรงไปตรงมาด้วย ไม่อาจกระมิดกระเมี้ยนได้
2. คุณเบียร์ นำคำสอนและพระวินัยพระพุทธเจ้ามาพูดคุยถกเถียง ด้วยบุคลิกท่าทางที่ดุดัน ตรงไปตรงมา ไม่เกรงกลัวใคร มีการบอกเล่าประวัติส่วนตัวเอาไว้ว่า เดิมทีเป็นพนักงานประจำ เมื่อมีรายได้มาก ก็เสเพล เพลย์บอย แล้วก็หมดตัว จนต้องเข้าหาทางธรรม ตรงนี้เราเข้าใจว่าผู้คนส่วนมากคงจะทึกทักว่า คุณเบียร์ คงจะมีหมุดหมายเพื่อพระศาสนาอย่างบริสุทธ์ผุดผ่อง ซึ่งหากเป็นดังว่านี้ เราขอโมทนาบุญกับคุณเบียร์ด้วย
3. คนที่จะลึกซึ้งธรรมะแท้จริง ต้องมีครบทั้ง 3 องค์ คือปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ คุณเบียร์ หรืออาจารย์เบีย ก็คือคนธรมดาที่ยังมี "เรา" เหมือนกันกับพวกเรา แต่ในส่วนของปริยัติ ยังมีผู้ที่เหนือกว่าคุณเบียร์มากมายนัก เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ได้รับถวายตำแหน่งจากสถาบันนวนาลันทา ประเทศอินเดีย ให้เป็น "ตรีปิฎกาจารย์" คือ ผู้รู้แตกฉานในพระไตรปิฎก มีศิษยานุศิษย์กล่าวว่า ท่านรู้จนถึงขนาดวรรคตอน
ในส่วนปฏิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านได้รับยกย่องจากผู้ศรัทธาให้เป็นพระอาจารย์ใหญ่แห่งวงศ์พระกรรมฐานวัดป่า ลูกศิษย์ท่านหลายคน ล้วนมีจริยาวัตรเรียบง่ายและงดงาม ออกเผยแพร่พระธรรมคำสอนทั้งในและต่างประเทศ หนึ่งในนั้นมีหลวงปู่ชา สุภัทโท ที่ต่างชาติหลั่งไหลให้ความสนใจกันมาก
ขณะที่ในส่วนของปฏิเวธ หรือการแทงตลอด รู้แจ้งอริยสัจ จนบรรุลมรรคผลนิพพาน เป็นเรื่องที่รู้ได้ยาก จักรู้ได้เฉพาะตน
คุณเบียร์ ยังไม่มีบารมีในระดับเผยแผ่
สิ่งที่คุณเบียร์ทำ คือการเผยแพร่ตัวตนเท่านั้น
คุณเบียร์จะสามารถมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
ไม่ต่างจากพระสงฆ์ที่มีแฟนคลับเช่นกัน
พระพุทธองค์ทรงย้ำนักหนาให้ยึดในคำสอน
อย่ายึดที่ตัวบุคคล เพราะมันตรงตามกฎไตรลักษณ์ทุกประการ
แบรนด์ "อาจารย์เบียร์"
จะต้องเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แฟนคลับโปรดติดตามดูกันไปยาวๆ
1
โฆษณา