11 พ.ย. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

"โปรตีนจากพืช" โอกาสพาไทย สู่ ครัวแห่งอนาคต สร้างงาน 1.15 ล้านตำแหน่ง

โอกาสทอง ปั้นประเทศไทย สู่ ครัวแห่งอนาคต เมื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ "โปรตีนจากพืช" สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 1.3 ล้านล้านบาท สร้างงานสูงสุด 1.15 ล้านตำแหน่ง
หากประเทศไทยคือครัวของโลก ก็คงไม่ยากนักที่จะก้าวต่อไปเป็น ครัวแห่งอนาคต ด้วยเช่นกัน เพราะงานวิจัยล่าสุดจาก Madre Brava เรื่อง “ครัวแห่งอนาคต: ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ Asia Research and Engagement พบว่า หากประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางโปรตีนที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเปลี่ยนจากการผลิตโปรตีนจากสัตว์ไปสู่โปรตีนจากพืช การเปลี่ยนผ่านนี้จะสามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก
“ครัวแห่งอนาคต : ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์ ผู้อำนวยการ Madre Brava ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตโปรตีนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นผู้ส่งออกโปรตีนสุทธิเพียงรายเดียวในทวีปเอเชีย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่เดิม ความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหาร และชื่อเสียงในฐานะ “ครัวของโลก” ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางโปรตีนที่ยั่งยืนของโลกในอนาคต
ในขณะนี้ ประเทศไทยยังคงพึ่งพาการนำเข้าสัตว์และวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในด้านราคาและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืชอาจลดการพึ่งพาวัตถุดิบที่นำเข้า ลดการตัดไม้ทำลายป่า และบรรเทาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยการศึกษานี้จำลองสถานการณ์สามแบบ ได้แก่ การดำเนินการตามปกติ การใช้โปรตีนจากพืชแทนโปรตีนจากสัตว์ร้อยละ 30 และร้อยละ 50 ภายในปี 2050 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่สามารถเกิดขึ้นในด้านสภาพภูมิอากาศ การใช้ที่ดิน และการสร้างงาน
โอกาสในการสร้างงานกว่า 1 ล้านตำแหน่ง
สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.3 ล้านล้านบาท สร้างงานสูงสุด 1.15 ล้านตำแหน่ง
เป้าหมายเปลี่ยนไปใช้โปรตีนจากพืชแทนโปรตีนจากสัตว์ในประเทศไทยร้อยละ 50 ภายในปี 2050 สามารถนำมาซึ่งประโยชน์หลายด้าน ได้แก่ การสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้ถึง 1.3 ล้านล้านบาทและเพิ่มความพึ่งพาตนเอง
การสร้างงานสูงสุด 1.15 ล้านตำแหน่งในอุตสาหกรรมโปรตีนจากพืช การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 35.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์ 8.45 ล้านคันในสหรัฐอเมริกา และการประหยัดพื้นที่การผลิตถึง 21,700 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับจังหวัดนครราชสีมา
สรุปแล้ว การสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีนนี้มีศักยภาพในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
ทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวสู่ฐานะศูนย์กลางอาหารจากพืชแห่งทวีปเอเชีย เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ฐานะศูนย์กลางอาหารจากพืชแห่งทวีปเอเชีย จำเป็นต้องมีมาตรการเร่งด่วนในการส่งเสริมโปรตีนจากพืชแทนโปรตีนจากสัตว์ร้อยละ 50 ภายในปี 2050
ก้าวสู่ฐานะศูนย์กลางอาหารจากพืชแห่งทวีปเอเชีย
  • สร้างความเท่าเทียมในตลาด : รัฐบาลควรพิจารณานโยบายภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจในการจำหน่ายโปรตีนจากพืช และทำให้อาหารจากพืชเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพื่อสนับสนุนการเลือกอาหารที่มีสุขภาพดีและยั่งยืน
  • การจัดซื้อของภาครัฐ : ส่งเสริมการจัดเมนูอาหารที่เน้นพืชในกิจกรรมของหน่วยงานรัฐบาล และเพิ่มตัวเลือกเมนูอาหารจากพืชในโรงอาหารของรัฐ โรงเรียน และโรงพยาบาล
  • การเปลี่ยนผ่านด้านโปรตีนอย่างเป็นธรรม : พัฒนาแนวทางสนับสนุนทางการเงินและโครงการพัฒนาศักยภาพสำหรับเกษตรกรไทย เพื่อให้สามารถเปลี่ยนมาผลิตพืชผลสำหรับโปรตีนจากพืชได้
การสร้างความหลากหลายของแหล่งโปรตีนนี้มีศักยภาพในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในประเทศไทย” ทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวสู่ฐานะศูนย์กลางอาหารจากพืชแห่งทวีปเอเชีย
โดยการดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของโปรตีนจากพืชในประเทศไทยและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาคอีกด้วย
เราต้องสร้างความหลากหลายในอาหารการกินของเราตอนนี้ พอพูดถึงโปรตีน เราก็จะนึกถึงเนื้อสัตว์ เนื้อปลา แต่จริงๆ แล้ว โปรตีนมาจากหลายแหล่งได้ มาจากพืช มาจากสัตว์ รวมกันได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารก็แนะนำว่าให้หาแหล่งโปรตีนจากพืชมาเสริม และโปรตีนจากพืชควรจะเป็นแหล่งโปรตีนหลักในอาหารของเรา ความหลากหลายก็คือ มาจากพืช มาจากสัตว์ รวมกัน ไม่ใช่โปรตีนจากสัตว์อย่างเดียว
ประหยัดพื้นที่การผลิตถึง 21,700 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับจังหวัดนครราชสีมา
บทบาทของภาครัฐและเอกชนในการเพิ่มการเข้าถึงโปรตีนที่ยั่งยืน
นอกจากนั้น ภาคเอกชนสามารถมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเข้าถึงโปรตีนที่ยั่งยืนสำหรับผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะในกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารขนาดใหญ่ บริการจัดหาอาหาร และผู้ผลิตอาหาร โดยจากงานวิจัยมีข้อเสนอแนะสำหรับแต่ละกลุ่มมีดังนี้
ซูเปอร์มาร์เก็ต: ควรตั้งเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขายโปรตีนที่ยั่งยืน โดยลดราคาผลิตภัณฑ์จากพืชให้เทียบเท่ากับโปรตีนจากสัตว์ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงอาหารสุขภาพ และจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากพืชในตำแหน่งที่เด่นชัด พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเตรียมอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ
ผู้ผลิตอาหาร: ควรปรับใช้กลยุทธ์ความหลากหลายของแหล่งโปรตีนในแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและความยั่งยืน โดยลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกให้มีรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้น พร้อมราคาเหมาะสม
บริษัทให้บริการอาหาร: ควรเพิ่มเมนูที่ทำจากพืชและแสดงให้เห็นควบคู่กับเมนูปกติ โดยควรตั้งราคาเมนูจากพืชให้เทียบเท่ากับเมนูปกติเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเลือกซื้อ
เราอยากจะเห็นอนาคตที่มีพืชมาเป็นทางเลือกให้คนรับประทาน เป็นอนาคตสำหรับคนไทยที่มีโปรตีนจากพืชที่ดีต่อสุขภาพ ที่ยั่งยืนกว่า หาซื้อได้ง่าย ไม่ต้องเสียสละ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เราอยากจะเห็นสภาพแวดล้อมด้านอาหารที่ทุกคนสามารถทำเพื่อสิ่งแวดล้อมได้โดยที่ไม่ลำบากเกินไป
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/sustainability/236367
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา