11 พ.ย. เวลา 10:46 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

สวัสดิภาพสัตว์ มุมมืดในสื่อบันเทิง

ในบ้านเราตอนนี้ กระแสแอนตี้ซีรี่ย์แม่หยัว
จากการวางยาสลบแมว กำลังดังเลยขอเขียนหน่อย
จะว่าไป มันไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนัก
เกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ ที่มักมีเครื่องหมายคำถามเสมอ
ในสื่อบันเทิงทั่วโลก
แม่หยัว อาจเป็นหนังไทยเรื่องแรก
ที่ถูกตั้งคำถามแบบนี้ แต่ถ้าย้อนอดีตไป
มันก็คงมีอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะหนังสงครามโบราณ
ซึ่งสำหรับหนังไทยแล้ว สังคมคงไม่สะดวกที่จะพูดได้
จึงไม่มีการวิจารณ์มากนัก ทั้งที่นั่นเป็นสัตว์ใหญ่
ที่ต้องเข้าฉากสงคราม มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่สัตว์
จะไม่บาดเจ็บเลย โดยเฉพาะม้า
ก็ขอยกตัวอย่างในต่างประเทศ คงสะดวกกว่า
Braveheart หนังระดับตำนาน ของ เมล กิ๊บสัน
กับ 5 รางวัลออสการ์ ก็เคยโดนประเด็นนี้อย่างหนักมาแล้ว
มันมีการตั้งข้อสงสัยว่า ม้าจำนวนมากที่ใช้
ในการถ่ายทำนั้น มีการบาดเจ็บหรือไม่
โดยเฉพาะฉากที่ม้าต้องตกหล่มลงไปในหลุมกับดัก
และอีกหลายฉาก เข่น ม้าคงต้องชนเครื่องกีดขวางแน่
เพราะมันมีลักษณะการใช้อาวุธโบราณจริงๆมาประกอบฉาก
คือ สำหรับคนที่มีความรู้เรื่องม้า
เขามองว่ายากมาก ที่ม้าตกหล่มแล้วจะไม่บาดเจ็บ
เพราะมันไม่ใช่คน คงยั้งตัวไม่ได้จากความไม่รู้
และมีน้ำหนักมาก มันไม่มีทางที่คนควบคุมม้าจะหยุดมันได้
และสำหรับม้า ถ้าถึงขั้นขาหัก นั่นหมายถึง
เราอาจต้องฉีดยาให้มันตายเลยทีเดียว
หนังโดนด่าเละ ในโลกตะวันตก
จนถึงขั้นอยากให้มีการริบออสการ์
จนทางทีมงานผู้สร้าง ของเมล กิ๊บสัน
ต้องออกมาพูดประโยคอมตะว่า
“ ไม่มีม้าตาย ในหนังเรื่องนี้ “
แต่ถึงแบบนั้น ก็ดูไม่มีใครเชื่อนัก
และยังคงมีข่าวเล็ดลอดออกมา จากผู้อ้างว่าเป็น
ทีมงาน ว่าที่จริงแล้ว มีม้าบาดเจ็บเยอะมาก ….
ข้ามมาฝั่งเอเชียบ้าง อันนี้อาจเป็นข่าวน้อยหน่อย
นั่นคือ ซีรี่ย์จากจีนแผ่นดินใหญ่ ชุด “สามก๊ก”
ที่นำออกฉายในปี 1994 (2537)
อันนี้คือคนไทยหลายคน โดยเฉพาะหมู่บ้าน BD เรานี่
คงเคยดูกันเป็นส่วนมาก
ที่โดนด่าน้อย เพราะทางเอเชียนั้น ไม่ค่อยจะอะไร
เท่าไหร่กับเรื่องเหล่านี้ ตอนนั้นจีนเองก็ยังไม่มีกระแสรักสัตว์
อะไรมากนัก
จะมีก็ฝรั่งที่เคยดู พวกญี่ปุ่น หรือไต้หวันนี่แหละ
ที่โจมตี คือ บางทีก็คงมีการเมืองเกี่ยวข้องด้วย
แต่เรื่องนี้คือมีการยืนยัน ว่าในการถ่ายทำม้าตายเกลื่อน
เจ็บเพียบ เพราะพวกเล่นของจริงหมด ไม่เอา CG เลย
ฉากสงครามทหารม้าโบราณ ที่ตะลุมบอนกันแบบนั้น
มันก็แน่นอนแหละ ว่าม้าเจ็บตายเยอะแน่ๆ
เพราะในซีรี่ย์ก็เห็น ว่ามันล้มทับ เหยียบกันเละ
แทบไม่ต่างกับสนามรบจริง
สมัยหนังออกฉายก็ไม่เท่าไหร่
แต่ปัจจุบัน มันไม่ผ่านมาตรฐานยูทูป
หรือแม้กระทั่ง Tiktok ในหลายฉาก
จีนเองก็พยายามลบภาพลักษณ์ว่าโหดร้ายต่อสัตว์
ก็เลยพยายามลบๆเรื่องพวกนี้ออกไป
และคนจีนเองปัจจุบัน คนรักสัตว์ก็เยอะขึ้นมาก
จีนคือตลาดสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
สามก๊กชุดนี้ แม้จะขึ้นชื่อว่าทำได้ละเอียด
ตรงกับนิยายมากที่สุด ก็เลยถูกลืมๆไปบ้างในยุคหลัง
แล้วทางจีนก็ทำเวอร์ชั่นที่ดีกว่าขึ้นมาแทน
เพื่อให้มีภาพจำใหม่ๆ ซึ่งมันก็คือ ซีรี่ย์ชุดปี 2010 นั่นเอง
แต่มันก็เหมือนตราบาปของวงการบันเทิงจีนไม่น้อยเลย
สามก๊ก 1994 (2537) ตำนานม้าตายจริงๆเกลื่อน
เรื่องสวัสดิภาพสัตว์ในสื่อบันเทิงนั้น
มันเพิ่งมาถูกพูดถึงกันมากในยุคหลังนี่แหละ
แต่ถ้าย้อนอดีตไปนานๆ ภาพยนตร์ในตำนานต่างๆ
มันก็มีเรื่องไม่งามให้เห็นมากมาย ทั้งจากฮอลิวูด
จีน ฮ่องกง รวมถึง bollywood ของอินเดีย
หนังในตำนานฮอลิวูด อย่าง Ben-Hur ถ้ามาฉายทุกวันนี้
คงโดนด่ายับ และไม่มีทางได้ออสการ์แม้แต่ตัวเดียว
เพราะฉากรถม้าคว่ำนั่น ยังไงม้าก็ไม่รอด และจะแก้ตัว
ว่าใช้เทคนิคอะไรก็ไม่ได้ เพราะสมัยนั้น ไม่มี CG
ม้า ดูจะเป็นสัตว์ที่เดือดร้อนที่สุด ในแง่นี้
และหนังสงคราม ก็คืออะไรที่น่าจะทำร้ายสัตว์มากที่สุด
แต่ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่หนังที่แสดงออกถึง
ความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ อย่าง Free Willy
ก็โดนวิจารณ์อย่างมาก
กับการเอาวาฬเพชรฆาต
มาขังไว้เพื่อรอเข้าฉากตลอดการถ่ายทำกลายปี
จนมันมีลักษณะครีบที่เหมือนจะพิการ และมีภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ
หรือเอาแบบไม่เป็นสาระเลย อย่างฉากนกบินเท่ๆ
ในหนังฮ่องกง ก็ว่ากันว่า การเอานกมายัดในกรงรอเข้าฉาก
ทำให้นกตายไปเป็นจำนวนมากในหลายเรื่อง
…ด้วยว่าสมัยนั้น ทั้งกฎหมายและกระแสสังคม
มันไม่ได้ซีเรียสกับสวัสดิภาพสัตว์เท่าทุกวันนี้
ใครออกมาพูดก็มักโดนด่า มันจึงผ่านมาได้
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น …
…แต่แน่นอน เราทำแบบนี้กับสัตว์ไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบัน…
กับกรณีที่เกิดขึ้นกับซีรี่ย์แม่หยัว
ถ้าถามผมในฐานะคนรักแมว เลี้ยงแมว
ผมพูดตรงๆ ว่าไม่โอเค และไม่เชื่อนักว่าแมวมีเจ้าของ
เพราะถ้าเป็นแมวผม ให้ผมเท่าไหร่ผมก็คงไม่อนุญาตแน่
และผมเชื่อว่าคงไม่มีเจ้าของสัตว์ที่ไหนหิวเงินขนาดนั้น
…ซึ่งถ้ามี ผมก็ขอประนามนะ…
แมวเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าหมามาก
ในกรณีที่ต้องวางยาสลบ จากระบบร่างกายของมันเอง
ที่ต่างออกไป การวางยาสลบทำหมัน ยังถือว่าเสี่ยงเลย
ในอีกทาง เท่าที่ทราบ สัตวแพทย์เอง
ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนั้น จากจรรยาบรรณวิชาชีพ
มันจึงแทบไม่ต้องสงสัยเลย ว่าการทำแบบนั้นได้
อย่างน้อยที่สุด มันต้องไม่ได้เกิดจากสัตว์แพทย์
คงไม่มีใครเอาใบวิชาชีพไปเสี่ยงแบบนั้น
แล้วเมื่อไม่ใช่สัตว์แพทย์ แล้วใครล่ะ ? หมอเถื่อนเหรอ ?
มันไม่แปลกครับที่จะโดนด่า แล้วก็สมควรด้วย….
ผมไม่ได้ดูเนื้อเรื่อง จึงไม่ทราบว่าซีนนี้ มีความจำเป็น
แค่ไหนกับการดำเนินเนื้อเรื่อง
หรือเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เป็นลักษณะ symbolic
ตามปกติแล้ว ผู้กำกับหนังนั้น มักหลีกเลี่ยงฉากที่ต้องมีสัตว์
เพราะสัตว์นั้นควบคุมไม่ได้ นอกจากจำเป็นต่อเนื้อเรื่องจริงๆ
กรณีนี้ ถ้ามันไม่มีความจำเป็น
ก็ต้องถามว่า แล้วจะมีเพื่ออะไร ?
หรือไร้ปัญญา กระทั่งจะสื่อสารถึงยาพิษ
ด้วยวิธีอื่นจริงๆ อย่างนั้นเหรอ ?
ด้วยความที่ผมทำ CG ด้วย ยิ่งทราบดี
ว่าการทำ CG สัตว์นั้นแพง และยากที่จะให้สมจริง
ถ้าอยากประหยัด ก็ใช้วิธีอื่นคงดีกว่านี้
มันคงไม่ใช่ความจำเป็น ขั้นคอขาดบาดตาย
หรือเรื่องเดินต่อไม่ได้ ที่จะต้องเอาแมวมาทำแบบนั้น
…หรือไอเดียมันมีแค่นั้น ผมก็ไม่ทราบได้จริงๆ…
ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน สัตว์ในภาพยนตร์
ทั้งฝั่งเอเชีย ยุโรป อเมริกา ถ้าต้องเสี่ยง
เขาใช้ CG หมดนั่นแหละครับ
ฉากนกบินเท่ๆ อะไรพวกนี้ แม้กระทั่งหนังจีนกำลังภายใน
เดี๋ยวนี้ก็ CG หมดแล้ว
ผมเข้าใจ ในแง่ต้นทุน ความสะดวก ของคนทำหนังนะ
แต่ก็เข้าใจเช่นกัน ว่ามันมีทางเลี่ยง
ตั้งแต่การเขียนบทภาพยนตร์ ไปจนถึงการตัดต่อ
เอาตรงๆนะ
แมวเป็นสัตว์ที่นอนตลอดเวลาอยู่แล้ว
ถ้าคุณถ่ายตอนมันนอน แล้วตัดต่อดีๆ
มีมุมกล้องที่ดี และการแสดงที่ดีของคนช่วย
คุณจะไม่ต้องวางยามันเลย
เพราะคงไม่มีใคร อยากเห็นภาพแมวนอนม่านตาขยาย
จนเหมือนแมวตายแบบนั้นหรอก …
…บางทีการทำงาน มันก็ต้องใช้สมองให้ามากบ้างน่ะนะ…
…ซึ่งมันอาจยากเกินไปสำหรับบางคน …
…ก็โดนด่าไป เพราะสมองน้อยๆนั่นแหละ…
โฆษณา