EP : 392 ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ ... repost
ต่างโลกอีกแล้วครับ คงต้องเกริ่นให้ทราบกันแบบนี้ ช่วงที่ผ่านมายอมรับว่าผมก็เป็นคนอ่านอีกคนที่ชอบหยิบจับการ์ตูนแนวต่างโลกมาอ่าน เพราะมันเป็นยุคของการ์ตูนแนวนี้จริงๆ โดยมีหลายๆเรื่องที่นำเสนอและพยายามนำเสนอเนื้อหาตัวละคร ให้มีความต่างกันไปเรื่อยๆ ซึ่งตัวผมเองก็ได้เคยรีวิวเรื่องแนวนี้ไว้หลายเรื่องเหมือนกันครับ อย่างที่บอกครับเรื่องนี้เกี่ยวกับต่างโลกแต่มีการผสมกับเนื้อเรื่องอีกแนวนึงที่ได้รับความนิยมควบคู่มากับต่างโลกไม่แพ้กันในยุคนี้นั่นคือแนว survivor ครับ
การ์ตูนแนว survivor หรือแนวเอาตัวรอดเป็นการ์ตูนอีกแนวนึงที่เราจะเห็นได้ไม่แพ้กับต่างโลกในยุคนี้นะครับ การที่พาตัวละครไปเจอสถานการณ์แบบปุ๊ปปั๊ปรับโชค(ร้าย)โดยไม่ทันตั้งตัวและต้องมึนงงกับเหตุการณ์จะตายแหล่ไม่ตายแหล่อยู่ตรงข้างหน้า โดยต้องหาทางรอดชีวิตออกมาจากเกมส์หรือเหตุการณ์ทัวร์ยมโลกนั้นได้รับความนิยมอย่างมากนะครับ การ์ตูนแนวเอาตัวรอดแบบนี้ผมก็เคยอ่านและรีวิวเอาไว้อยู่บ้างนะครับ
เพราะผมก็ชอบเนื้อเรื่องแนวนี้เหมือนกันนะครับ การที่ได้เห็นความหายนะของตัวละครที่อยู่ๆต้องมาเจออะไรแบบนี้ อยากจะบอกว่ามันดูน่าลุ้นดีครับ คราวนี้ก็แล้วแต่แต่ละเรื่องว่าจะสร้างและผูกเรื่องให้เรื่องแนวนี้มันมันต่างและโดดเด่นขึ้นมาได้อย่างไรในแผงหนังสือแหล่ะครับ
ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ ผมมองว่าเป็นการผสมผสานเนื้อเรื่องแนวยอดนิยมทั้งต่างโลกและเอาชีวิตรอดให้รวมอยู่ในเรื่องเดียวกันครับ แต่เรื่องนี้ต้องยอมรับว่ามีการนำเอาจุดเด่นของแต่ละแนว รวมถึงใช้วิธีการเล่าเรื่องที่เรียลมากกว่าหลายๆเรื่องที่นิยมแนวตัวเอกเทพๆยัดมาให้ตั้งแต่ต้นๆ ซึ่งเลยได้งานที่ออกมาอ่านแล้วสนุกเรื่องนึงเลยนะครับ
ยตสึยะ หนุ่ม ม.3 ผู้โดนส่งไปต่างโลกและได้เจอกับเพื่อน สาว 2 คนที่มีความต่างกันอย่างมาก อย่าง ชินโด สาวสวยประจำชั้นปีที่น่าตาน่ารัก มีแต่คนรักเธอ กับ ฮาโกะซากิ สาวเก็บตัวที่ต้องเรียกว่าเรตติ้งไม่ดีในห้องเรียน และขณะที่ ยตสึยะ กำลังงงกับเรื่องที่ตัวเอกกำลังเจอ อยู่ๆก็มี สิ่งมีชีวิตที่มีหัวแค่ครึ่งเดียว
แต่ตัวยังอยู่เต็มๆเพิ่มเติมคือ นมและจุดสองห้อยโผล่ออกมาเต็มๆ มาพูดคุยกับทั้ง 3 คน พร้อมอธิบายเกมส์เอาตัวรอดนี้ให้กับ ยตสึยะ และนี่คือจุดเปลี่ยนของเขา และเพื่อนอีก 2 คน ในเกมส์ที่พวกเขาไม่เคยขอมาเล่นและในโลกที่พวกเขาไม่เคยต้องการมาเลย.
ต้องบอกตรงๆว่าทีแรกเลยผมคิดว่าเรื่องนี้ก็คงเหมือนแนวต่างโลกทั่วไป แต่พอได้อ่านดูก็รู้สึกว่าเฮ้ย นี้มันผสมแนวเอาตัวรอดนี้หว๋า และด้วยการนำพล็อตเรื่อง 2 แนวทางนี้มาผสมกัน เรื่องนี้เลยมีสิ่งที่แตกต่างและน่าสนใจ รวมถึงทำออกมาได้ดีกว่าแนวต่างโลกหลายๆเรื่องที่ผมได้อ่านครับ และถ้าถามว่าไอ้ที่บอกว่าเรื่องนี้ทำได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆนะมันมีอะไรบ้าง ผมก็ขอแยกย่อยออกมาดังนี้ครับ
อย่างแรกที่ต้องบอกว่าเรื่องนี้นำเสนอได้ดีและน่าสนใจก็คือ การใส่เงื่อนไขให้กับเหล่าตัวเอกของเรื่องที่ต้องเรียกว่าอย่างเยอะเลยครับ คือเราอาจจะคุ้นเคยในโลกของการ์ตูนต่างโลกว่า การ์ตูนแนวนี้ตัวเอกมักเป็นผู้รับที่ได้พลังหรือพร มาอย่างง่ายๆ จากพระเจ้าหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เรียกหรือพาพวกเขามา
แต่เรื่องนี้กลับเอาเงื่อนไขซึ่งมักจะมีในส่วนของการ์ตูนแนวเอาตัวรอดมาให้แทนครับ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดอาชีพโดยการหมุนวงล้อซึ่งมันก็ดูเป็นตลกร้ายดีเอามากๆ การกำหนดเวลาในการเคลียร์แต่ละหัวข้อเอาไว้ซึ่งหากใช้เกินก็คือตาย
การตั้งเงื่อนไขให้กลับมายังโลกปกติได้หลังเคลียร์แต่ลเควสจบ โดยไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างโลกตลอดเวลา คือไม่มีอะไรที่จะให้เปล่ากับเหล่าตัวเอกเลยจะต้องมีเงื่อนไขพ่วงมาเสมอ แม้กระทั่งความสามารถในการตายแล้วฟื้นขึ้นมา
เพื่อทดแทนพลังและประสบการณ์ที่แต่ละคนมีน้อยนั้นก็ยังตั้งเงื่อนไขแบบ จะฟื้นมาภายใน วินาที หรือคนในปาร์ตี้ต้องรอดอยู่ถึงจะฟื้นได้ ห้ามตายพร้อมกัน เหล่านี้ทำให้การทำภารกิจยากมากขึ้น นั่นหมายถึงเราคนอ่านก็ลุ้นมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งการตั้งเงื่อนไขทำนองนี้เห็นอยู่เยอะมากในการ์ตูนแนวเอาตัวรอด แต่เอามาใช้ได้ดีมากในการ์ตูนผสมแบบนี้
เด็กแต่ละคนที่เข้ามาเล่นเป็นเด็กธรรมดาเอามากๆ หลายเรื่องมักจะเลือกตัวเอกที่มีความสามารถพิเศษมาอยู่ในกลุ่มเสมอ เพราะเรามักสนุกเวลาได้เห็นตัวเอกที่มีอะไรเหนือกว่าคนธรรมดา แต่เรื่องนี้ต้องบอกว่าแต่ละคนธรรมดามากๆ ซึ่งทำให้การทำเควสแต่ละเควสต้องบอกว่าลุ้นกันหนักเลย
ตายกันเป็นว่าเล่นเพราะพวกนี้มันก็เด็กธรรมดาทั่วไป ที่ดันถูกพามาต่างโลก แม้จะมีพลังตามอาชีพแต่พลังพวกนี้ก็ตามระดับของ level ที่ตัวเองมีอยู่ ไม่ได้มีพลังมากมายอะไร หลายสกิลแทบจะใช้งานจริงไม่ได้ ต้องอัพ level ก่อนและ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ตัวละครในเรื่องต้องมาเร่งการพัฒนาความสามารถทางร่างกายและความคิดเอาแทน เพื่อที่จะทำให้ตัวเองเอาชีวิตรอดในแต่ละเควสไปได้
เรียกว่าเด็กแต่ละคนที่รู้ว่าพลังช่วยอะไรมากไม่ได้ ก็เริ่มใช้ความสามารถในการเข้าใจสถานะการณ์หรือมองสถานะการณ์ให้มันแตกว่าแท้จริงต้องทำอย่างไรเพื่อให้จบเควสได้ก่อนเวลาที่กำหนด นั่นทำให้เรื่องนี้ดูมีขั้นตอนที่สมจริงมากขึ้น มากกว่าหลายเรื่องที่เน้นให้ตัวเอกมีพลังและเทพครับ
อีกหนึ่งที่ชอบมากที่เรื่องนี้นำเสนอตรงนี้ก็การที่เรื่องนี้ตั้งโบนัสในการทำเควสแต่ละเควสไว้คือการที่หนึ่งในทีมจะสามารถถามคำถามอะไรก็ได้แล้วไอ้โรคจิตนี่จะตอบคำถามโดยไม่โกหก ซึ่งเรื่องก็ฉลาดมากที่จะให้ตัวเอกยิงคำถามที่คนอ่านต้องการจะรู้อย่าง โลกนี้เป็นโลกเสมือนหรือเปล่า หรือหลังจากเคลียร์เควสครั้งที่ 10 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายได้เสร็จพวกเขาจะต้องทำอะไรต่อ
ซึ่งคำตอบที่ได้มาของแต่ละคำถามสร้างความน่าสนุกและทำให้หัวเราคิดต่างๆนาๆไปได้อีกหลายเรื่องไกลๆเลยครับ คือไม่เปิดเผยส่วนที่สำคัญเพื่อสร้างความสนุกและลุ้นมากขึ้นกว่าการเก็บเอาไว้เปิดท้ายๆ การใช้จังหวะแบบนี้ในการเล่าทำให้เรื่องนี้น่าอ่านอยู่เสมอครับ
และจุดที่ผมชอบที่สุดที่เรื่องนี้นำเสนอใส่เข้ามาก็คือ เรื่องการใส่ศีลธรรมและมนุษยธรรม หรือคุณธรรมแบบย้อนกลับมาให้เราอ่านในหลายๆตอนครับ คือแม้เราเป็นคนอ่านที่กำลังดูสิ่งที่ตัวเอกฝั่งพระเอกทำอยู่และเราก็รู้ว่าอีกฝั่งคือตัวร้ายด้วย บท ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว แต่หลายๆครั้งตัวเอกก็มีการพูดหรือระบายสิ่งที่พวกเขากำลังทำว่าหากมองในแง่ฝั่งตรงข้ามแล้ว ความถูกผิดมันจะเพี้ยนไปทันที
นั่นก็ทำให้เรื่องนี้เรารู้สึกว่า ใช่ ในความเป็นจริง มันไม่มี ขาว ดำ ชัดเจน ถูกผิดมันอยู่ที่มุมมองหรือใครจะหยิบยกเอามาใช้งาน ทำให้เรื่องนี้มีบทที่ดราม่าเข้ามาผสมในช่วงจังหวะที่ลงตัวในหลายๆครั้งครับ คือไม่ใช่มาปราบปีศาจ ฆ่าจอมมารอย่างเดียว บททดสอบและเควสมันหลากหลายมาก และพอใส่เนื้อหาแนวดราม่าอย่างนี้เข้าไป บทมันเลยดูหนักขึ้น ไม่ดูง่อยหรือให้มันออกมาแค่สนุกหรือรวดเร็วเท่านั้นครับ ยอมรับว่าชอบในหลายๆเควสที่นำเรื่องพวกนี้ใส่มาครับ
ด้วยการผสมจุดเด่นของทั้งต่างโลกและเอาตัวรอด เรื่องนี้จึงออกมาในแบบที่สนุกและน่าอ่านครับ ผมว่ามันมีความแตกต่างจากการ์ตูนแนวนี้หลายๆเรื่องนะครับมันดูมีความเป็นไปได้ในความไม่น่าจะเป็นไปได้อยู่หลายๆครั้ง ดูสมจริงมากกว่าหลายๆเรื่อง นำเสนอพร้อมทั้งเนื้อหา ให้มีหลายมิติครับ ไม่ใช่แบนๆ ง่ายๆ มาหล่อๆ เท่ๆ แล้วพลังตูม ๆ จบ อะไรแบบนั้นเรื่องนี้ใส่และผสมอะไรหลายๆอย่างออกมาได้อย่างลงตัวดีครับ
แต่พูดซะอย่างนี้ก็ไม่ได้หมายถึงว่ามันจะไม่มีข้อตำหนินะครับ ขุดด้อยของเรื่องนี้ในสายตาผมอย่างแรกคือเรื่องลายเส้น จะบอกว่ามันแย่ก็ไม่ใช่ครับ เพียงแต่เนื้อหาครบอย่างนี้ ดราม่ามีให้อ่านทุกจังหวะแบบนี้ผมว่าถ้าได้ลายเส้นสวยๆกว่านี้มามันจะดีกว่านี้ครับ ครั้งนี้ผมว่าพลังในการเล่าเรื่องที่อาศัยจากภาพวาดยังไม่แรงพอครับ ไม่ได้แย่ แต่พลังภาพอ่อนไปหน่อยครับ
และอีกเรื่องที่เจอเลยคือ ด้วยเหล่าตัวเอกต้องใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหาแทนพลังซึ่งง่อยกันมากๆ ทำให้มีการอธิบายอะไรหลายๆอย่างในการฝ่าปัญหา ณ จุดๆนั้น ซึ่งอธิบายแต่ละที เนื้อหาโครตเยอะเลยครับ อ่านแล้วปวดหัว คือจังหวะแบบนี้ผมแทบเปิดผ่าน แม้จะมองได้อีกแง่ว่าในด้านของข้อมูลเขาใส่มาครบรอบด้านดูน่าเชื่อถือ แต่หลายๆครั้งผมไม่พร้อมมานั่งไล่อ่านแบบลำดับเหตุการณ์หรือไล่เช็คความถูกต้องของสิ่งที่ยกมาให้อ่านกันนะครับ แต่จุดนี้ท่านที่ชอบแนวอธิบายเยอะๆน่าจะชอบกันนะครับ
ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ ภาพวาดโดย อ. อากินาริ นาโอะ เรื่องโดย อ.นาโอกิ ยามาคาวะ ในไทย LC โดย สนพ รักพิมพ์ครับ ซึ่งเรื่องนี้เสียวแพมาก ไม่รู้ไม่ค่อยได้รับความนิยมหรืออย่างไร เพราะเล่มสุดท้ายพิมพ์มาในปี 2018 ครับ โดยปัจจุบัน ออกมาถึงเล่ม 6 ซึ่งผมรออ่านเล่ม 7 อย่างใจจดใจจ่อครับ รบกวนออกมาให้อ่านหน่อยนะครับ ไหว้ละ
สรุปก่อนจากอย่างที่บอกครับเรื่องนี้เป็นการรวมสูตรของ 2 แนวที่ว่า ทำให้ได้เนื้อเรื่องที่สมจริงมากกว่าปกติ ครบทุกอารมณ์มากๆ เนื้อหาไม่ได้เบา หรือง่ายๆอย่างหลายๆเรื่อง การเอาตัวรอดในเรื่องก็ดูจะน่าเชื่อถือด้วยการนำเสนอและการแก้ปัญหาครับ สเกลพลังไม่ได้เวอร์นักแม้จะเป็นต่างโลกด้วยกัน
เล่าเรื่องก็ทำออกมาได้น่าสนใจ ยิ่งถ้าชอบอ่านเนื้อความเยอะๆ เรื่องนี้หลายๆตอนก็มีมาให้อ่านเยอะๆ ไล่อ่านกันเอาเองได้เลยครับ โดยส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากกว่าแนวต่างโลกหลายๆเรื่องครับ เพราะมีดีเทล์ที่ต่างจากหลายๆเรื่องและผสมส่วนออกมาได้ดีครับ ลองหาอ่านอีกซักเรื่องสิครับ หากชอบการเอาตัวรอดในต่างโลก แต่จะว่าไป ... ก็กลับโลกเรามาเรียนต่อได้นี่หว๋า...
ภาพ 7/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 8.8/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ #LuckPim #การ์ตูนแนวเอาชีวิตรอด #การ์ตูนแนวระทึกขวัญ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #8คะแนน #ข้าก้าวผ่าน 1 ล้านชีวิตเพื่อพิชิตเกมมรณะ #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
