11 พ.ย. เวลา 09:56 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 4 – 8 พ.ย. 2567

ภาพรวม
  • นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำ All Time High ทั้ง Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq
  • Fed ลดดอกเบี้ย 25 Basis Points (bps.) ตามคาด แต่การชนะการเลือกตั้งของทรัมป์อาจส่งผลต่อการลดดอกเบี้ยในอนาคต
  • จีนประกาศโครงการ Debt Swap แก้ไขวิกฤติหนี้รัฐบาลท้องถิ่น
  • ตลาดคาดหวังมาตรการเพิ่มเติมสำหรับการบริโภคในประเทศและภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งส่งผลต่อทิศทางการลงทุนทั่วโลก ประกอบด้วยการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ของจีน
  • ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรคริพับลิกันชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ได้คะแนนเสียงจาก 312 เสียง โดยทรัมป์มีโอกาสครองเสียงข้างมากทั้งในสภาสูง และสภาล่าง โดยผลการเลือกตั้งวุฒิสภา พรรคริพับลิกันครองเสียงข้างมาก 53 ที่นั่ง ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรพรรคริพับลิกันได้ไป 213 ที่นั่ง ซึ่งขาดเพียง 5 ที่นั่ง ก็จะทำให้สามารถครองเสียงข้างมากในสภานี้ด้วยเช่นกัน
1
  • หลังทราบผลการเลือกตั้งตลาดมีปฏิกิริยาในลักษณะ "Trump Trade" คือหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า บิตคอยน์ และ Bond Yield ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น
o Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ โดย Dow Jones และ S&P 500 เพิ่มขึ้นประมาณ 4.6% Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.7% และ Russell 2000 เพิ่มขึ้น 8.5% ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของทรัมป์ เช่น การลด Corporate Tax จาก 21% เหลือ 15% และลดกฎระเบียบที่เข้มงวดของภาคธุรกิจ ทำให้ตลาดตอบรับในเชิงบวก
o ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ทำให้ราคาทองคำถูกกดดัน และหุ้น Emerging Market ปรับลดลงในวันแรก แต่ฟื้นตัวกลับมาได้
o บิตคอยน์ปรับขึ้นจากการสนับสนุนคริปโตของทรัมป์
o อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี เพิ่มขึ้นจาก 3.6% ในช่วงเดือน ก.ย. เป็น 4.4% และปรับตัวลดลงอยู่ที่ 4.3% หลังการประชุม Fed
  • การประชุม Fed และทิศทางดอกเบี้ย
o Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 Basis Points (bps) มาอยู่ที่ 4.5 - 4.75% ตามคาด
o ประธาน Fed ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง และการเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่มีผลต่อการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น โดยนโยบายดอกเบี้ยจะขึ้นกับข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต
o ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือน ธ.ค. แต่การชนะการเลือกตั้งของทรัมป์ที่มีแนวโน้นว่าจะมีอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ อาจลดโอกาสการลดดอกเบี้ยในอนาคต
  • ตลาดจีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
o ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนส่งสัญญาณฟื้นตัว ตัวเลขการส่งออกเดือน ต.ค. +12.7% YoY มากกว่าคาดที่ 5.2% และ +2.4% MoM สูงสุดในรอบ 19 เดือน รวมไปถึงตัวเลข PMI ภาคบริการเดือน ต.ค. ฟื้นตัวมาอยู่ที่ 52 ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน
o ตลาดจีนปรับลดลงในวันแรกของการเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่ฟื้นตัวได้หลังการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ที่มีการประกาศมาตรการแก้ไขวิกฤติหนี้รัฐบาลท้องถิ่น 10 ล้านล้านหยวน ผ่านโครงการ Debt Swap
o แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ตลาดยังคาดหวังมาตรการเพิ่มเติมสำหรับการบริโภคในประเทศและภาคอสังหาริมทรัพย์
o Goldman Sachs คาดการณ์ว่าการขาดดุลการคลังของจีนในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% ของ GDP จาก 3% ในปีนี้ และยังคาดว่าจะยังมีการออกมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังจากนี้
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา