Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไฉไลเป็นบ้า
•
ติดตาม
11 พ.ย. เวลา 09:14 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ฟาดกลับ #แม่หยัว
เป็นที่ทราบกันดีว่าข้อควรระวังในการสร้างละครหรือภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์คือการต่อเสริมเติมแต่งในเรื่องราวที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจนผู้ชมสับสนระหว่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงกับเรื่องแต่งที่ทีมงานทำขึ้นมาใหม่
และถ้าใส่อะไรที่ไม่ได้อยู่ในประวัติศาสตร์ลงไปจนเกินพอดี ละครหรือภาพยนตร์นั้นจะไม่ใช่อิง แต่กลายเป็น “อ้างประวัติศาสตร์” หรือ อ้างบุคคลที่มีตัวตนจริงๆในประวัติศาสตร์มาสร้างละคร
นี่คือ 10 ประเด็น ชำแหละละครซีรีย์ #แม่หยัว ในทุกประเด็นที่คนไทยควรทราบ
1. ท้าวศรีสุดาจันทร์ในบันทึกพระราชพงศาวดาร มีเขียนถึงเพียงสั้นๆ ซึ่งตีความได้ 2 ประเด็นหลักๆ คือสังคมสมัยโบราณยังคงไม่ยอมรับการขึ้นครองอำนาจของสตรี และ การพยายามลบขุนวรวงศาธิราชออกจากพระมหากษัตริย์ไทย ในฐานะผู้เขียนจึงเข้าใจว่าบันทึกข้อความเพียง 2 บรรทัดครึ่งไม่สามารถนำมาผลิตซีรีย์ 10 ตอนได้อย่างแน่นอน ดังนั้นกระแสตอบรับจากคนดูเมื่อละครออนแอร์จะเป็นคำตอบว่าผู้จัดและทีมงานผู้สร้างเลือกจะให้แม่หยัวออกมาสู่สายตาผู้ชมอย่างไร
2. และดูเหมือนว่าแม่หยัว เวอร์ชั่นซีรีย์ครั้งนี้ไม่ได้ถูกตีความทางประวัติศาสตร์ด้วยความเคารพ เนื่องจากเป็นการเอาเรื่องที่เคยถูกพูดถึงซ้ำๆจนช้ำ ยกเอาบันทึกประวัติศาสตร์ที่มาจาก “ปากคำชาวกรุงเก่า” ซึ่งห่างจากเหตุการณ์จริงกว่า 200 ปี หรือเปรียบเทียบง่ายๆคือท้าวศรีสุดาจันทร์มีชีวิตอยู่ก่อนเสียกรุงครั้งที่ 1 แต่คนบันทึกอยู่หลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ทำให้ท้าวศรีสุดาจันทร์มีภาพให้มองเพียงด้านเดียวคือคบชู้สู่ชายกระหายอำนาจ ซึ่งอาจจะทำให้การสร้างดราม่าหรืออีโรติคเพิ่มลงไปในละครได้ง่าย
3. สำหรับแง่มุมของท้าวศรีสุดาจันทร์ที่นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์พยายามสร้างความเชื่อมโยงให้เห็นถึงแรงขับเพื่อก้าวขึ้นครองอำนาจคือตำแหน่งชายา 4 ทิศ กับการสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์อู่ทอง ดังนั้นการเริ่มต้นเล่าเรื่องจากรัชสมัยพระไชยราชา จึงไม่มีทางจะย้อนให้เห็นว่าทำไมชายาตำแหน่งท้าวศรีสุดาจันทร์จึงต้องคลั่งเชื้อสายราชวงศ์จนถึงกับต้องเป็นพันบุตรศรีเทพเพียงคนเดียวเท่านั้น
4. แต่เชื้อสายอู่ทองนั้นก็เป็นเพียงการคาดเดาจากตำแหน่งท้าวศรีสุดาจันทร์เท่านั้น ไม่มีใครทราบว่าจริงๆแล้วหญิงสาวสามัญชนที่ถวายตัวจนได้เป็นชายาองค์นี้มาจากราชวงศ์อู่ทองจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้เขียนบทละครจะทิ้งไว้เป็นปริศนาให้ผู้ชมได้คิดก็จะทำให้เนื้อเรื่องมีความลึกมากขึ้น
5. เพราะในสมัยกรุงศรีอยุธยาไม่พบว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดคลั่งราชวงศ์ มีแต่การสืบสันตติวงศ์ในราชวงศ์กันมาเรื่อยๆ หรือแล้วแต่โอกาส มักเกี่ยวดองกันทางสายเลือดเครือญาติ และหากมีการยึดอำนาจ หรือสำเร็จโทษพระเจ้าแผ่นดินซึ่งทรงพระเยาว์ เมื่อผ่านพิธีปราบดาภิเษกแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องกับสายราชวงศ์ที่ผ่านมา ก็มักจะสถาปนาตั้งราชวงศ์ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นเคล็ด “ผลัดแผ่นดิน” อย่างเช่น พระเจ้าปราสาททอง ที่ตั้งราชวงศ์ปราสาททองขึ้นเองใหม่ เป็นต้น
คำถามคือหากจับพลัดจับผลูเป็นท้าวศรีสุดาจันทร์ไม่ได้มาจากสายอู่ทอง การยกแผ่นดินให้ขุนวรวงศาธิราชขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จะมีเหตุผลอะไรได้บ้าง
6. ที่อธิบายมาคือการละเมียดในขั้นตอนสร้างละครให้ความเคารพกับประวัติศาสตร์ ไม่ใช่อ้างบุคคลในประวัติศาสตร์เพื่อมาแต่งเติมเนื้อหาการกระทำที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงสร้างความเสื่อมเสียต่อทั้งบุคคลที่ถูกอ้างและทำลายความน่าเชื่อถือของพงศาวดาร ตัวอย่างการสร้างละครที่ดีค้นคว้าข้อมูลอย่าง “บุพเพสันนิวาส” มีให้เดินตามกลับไม่ทำ
7. การสร้างละครเน้นเอาใจตลาด เพิ่มเสริมเติมแต่งโดยไม่เคารพประวัติศาสตร์จึงกลายเป็นถูกประวัติศาสตร์ฟาดกลับ นอกจากจะไม่ได้รับการยอมรับจากนักประวัติศาสตร์แล้ว ยังไปนำเอาสัตว์มาเข้าฉากซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดตาม พรบ.คุ้มครองสัตว์ หรือชื่อเต็มๆคือ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 อีกด้วย เรื่องดราม่าคนพูดไปเยอะแล้ว ในที่นี้อยากสะท้อนชีวิตจริงของคนให้ชัดเจนขึ้น
8. นักแสดงถูกจ้างให้มาแสดงตามบทบาทที่ได้รับ แม้ทาสแมวจะเรียกร้องให้ดาราดังออกมาปกป้องสัตว์และผิดหวังกับการชี้แจง แต่ในวงการบันเทิงแบบไทยๆ มีกฎที่ชัดเจนมากๆและศิลปินนักแสดงทุกคนพึงปฏิบัติคือ “อย่าแหลม” ถึงคุณไม่เห็นด้วยกับการใช้สัตว์มาเข้าฉากดังกล่าว แต่ถ้าคุณมีคำคมๆวาทะแหลมๆกระทบไปยังผู้จัดละครและผู้กำกับ คุณอาจจะถูกแบนแทน #แบนแม่หยัว ละครเรื่องนี้ก็เป็นได้ ดังนั้นการสวมบทเหยื่อผู้ถูกโซเชียลกระทำย่อมได้รับความเอ็นดูจากผู้จัดละครมากกว่า มีโอกาสได้รับบทละครให้แสดงมากกว่า
9. ในขณะที่ชาวเน็ตอยากเห็นดารานักแสดงออกมาเรียกร้องปกป้องสัตว์มากเกินเบอร์ หน้ามืดตามัวโดยไม่คิดว่าคนที่ควรรับผิดชอบจริงๆคือใคร ผู้จัดละคร ,ผู้อำนวยการสร้าง ,ผู้เขียนบท ,ผู้กำกับ นี่คือกลุ่มคนที่ควรถูกไล่ล่าหาความรับผิดชอบ แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า “ก็วงการบันเทิงสินะ” หากพิจารณากันว่าผู้เขียนบทละครเอาสมองส่วนไหนคิดฉากนี้ขึ้นมา ชาวเน็ตจะไม่ตามล่า “ใหม่ ดาวิกา” นักแสดงนำ เลยด้วยซ้ำ
แฮชแท็ก #แบนแม่หยัว จึงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักแสดงเลยเพราะอาชีพของพวกเขาคือแสดงตามบทที่ได้รับ ตีบทให้แตก แสดงให้ดี แอคติ้งเป็นธรรมชาติ ก็ยากมากแล้ว ชาวเน็ตกลับตะโกนว่า “ไอจะขยี้ยูว์ให้แหลกคึ”
10. เพราะฉะนั้นคำถามว่ากระแสตอบรับละครเรื่องแม่หยัวเป็นอย่างไร จาก #แบนแม่หยัว ก็คงสะท้อนการทำงานเปรียบเหมือนเชฟที่ประกาศว่าจะทำแกงกะหรี่ แต่พอลงมือทำวัตถุดิบกลับไม่ได้คุณภาพ เครื่องปรุงไม่ครบ ได้แต่ภาพที่โพสต์ลงดูน่ากินแต่รสชาติก็แล้วแต่ลิ้นใครลิ้นมัน ผู้กำกับละครให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ขาดความเคารพในเรื่อวราวที่เกิดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งใจจะโชว์ “พับเป็ด” ทั้งๆที่ไม่มีใครยืนยันเลยว่าท่านี้ได้แต่ใดมา ประวัติศาสตร์ไม่มีจารึกไว้ด้วยซ้ำ
บทสรุปจาก #แบนแม่หยัว คือสร้างละครเอาใจตลาด จนโดนประวัติศาสตร์ฟาดกลับ ผู้สร้าง ผู้เขียนบท ผู้กำกับคิดน้อยไป กลายเป็นละครอ้างประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย