12 พ.ย. 2024 เวลา 02:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Magic Formula: แนวทางการลงทุนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง

Magic Formula เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ริเริ่มโดย Joel Greenblatt นักลงทุนที่มีชื่อเสียงและผู้เขียน The Little Book That Beats the Market โดยที่สูตรมหัศจรรย์นี้ได้รับความชื่นชมจากนักลงทุนที่แสวงหาวิธีการลงทุนที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จริงในการเลือกหุ้นสำหรับการลงทุนในระยะยาวโดยไม่ต้องการการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน
แนวคิดพื้นฐานของ Magic Formula คือการเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตโดยพิจารณาจากสองปัจจัยหลักคือ:
Return on Capital (ROC): อัตราผลตอบแทนจากทุน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถของบริษัทในการประยุกต์ใช้ทุนเพื่อสร้างกำไรสูงสุด ช่วยให้เห็นว่าบริษัทใช้ทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด
Earnings Yield (EY): อัตราผลตอบแทนจากกำไร โดยพิจารณาจากการใช้กระบวนการหารกำไรจากการดำเนินงานด้วยมูลค่าตลาด ซึ่งหากสูงก็จะบ่งบอกว่าหุ้นนั้นน่าสนใจเพราะราคาหุ้นต่ำเมื่อเทียบกับกำไรที่ทำได้
สูตรมหัศจรรย์นี้จะจัดอันดับบริษัทตาม ROC และ EY โดยให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีค่าสูงของทั้งสองปัจจัยในการตัดสินใจลงทุน
วิธีการเลือกหุ้นด้วย Magic Formula:
คำนวณ Return on Capital (ROC) ผ่านสูตร ROC = EBIT / (Net Working Capital + Net Fixed Assets) เพื่อตรวจสอบการใช้ทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
คำนวณ Earnings Yield (EY) จากสูตร EY = EBIT / Enterprise Value (EV) เพื่อค้นหาหุ้นที่ราคาถูกเมื่อเทียบกับกำไร
จัดอันดับหุ้นตามค่า ROC และ EY และเลือกหุ้นอันดับสูงในกลุ่ม
สร้างพอร์ตการลงทุนจากหุ้นที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด โดยถือครองหุ้นเหล่านี้ในช่วงเวลาหนึ่งปีและประเมินผลการลงทุนเป็นประจำ
ข้อดีของ Magic Formula คือวิธีการที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว โดยเน้นเลือกหุ้นคุณภาพดีราคาย่อมเยา ทั้งยังสามารถใช้ได้ทั่วโลก
ข้อควรระวังคือสูตรนี้อาจไม่เหมาะกับหุ้นที่มีการเติบโตเร็วในระยะสั้นและต้องให้เวลากับกระบวนการเลือกและจัดอันดับ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถรับประกันผลกำไรแน่นอนแม้จะมีผลลัพธ์ที่ดีในอดีต
โดยสรุป Magic Formula นับเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่มีคุณค่า สำหรับผู้ที่มองหากระบวนการเลือกหุ้นแบบยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ การใช้ตัวชี้วัด ROC และ EY จะช่วยคัดกรองบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตและราคาที่เหมาะสม เหมาะกับนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ในระยะยาว
โฆษณา