15 พ.ย. เวลา 02:00 • ธุรกิจ

รวมเทคนิค ออกแบบ “โลโก้” จดลิขสิทธิ์ได้แน่!

"เครื่องหมายการค้า" และ "โลโก้" มีข้อแตกต่าง คือ #เครื่องหมายการค้า สามารถเป็นได้ทั้ง ข้อความ รูปภาพ ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ แต่ #โลโก้ มักเป็นภาพกราฟิก ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ ตัวอักษร หรือภาพประกอบ
ทั้งโลโก้และเครื่องหมายการค้า หากมีการจดลิขสิทธิ์จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายป้องกันการโดนลอกเลียนแบบได้ และการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมายอย่างถูกต้อง ยังได้สิทธิ์ควบคุม ดูแลการใช้งาน เครื่องหมายการค้าและโลโก้ดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว คนอื่นจะไม่สามารถนำไปดัดแปลง ก็อปปี้ใดๆ ได้อีก ยกเว้นได้รับอนุญาตจากเจ้าของโลโก้เท่านั้น
3 ประเภทของโลโก้ที่ต้องจดทะเบียน
1. โลโก้บริษัท ที่ไม่มีของขาย มีแต่บริการ
✅ถ้าเป็นการใช้โลโก้อย่างเครื่องหมายการค้า หมายถึงใช้เพื่อสื่อให้เห็นถึงว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ทำอะไร ขายอะไร หวังผลทางการค้าก็ต้องจดทะเบียนโลโก้เป็นเครื่องหมายการค้า เช่นร้านซ่อมรถ , ร้านตัดผม หรือโลโก้บริษัท เป็นต้น
2. โลโก้บริษัท ที่มีของขายและใช้ชื่อตรงกัน
✅สินค้าบางประเภทใช้ชื่อสินค้าและโลโก้แบบเดียวกัน ก็จำเป็นต้องจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้า เพราะเราใช้อย่างเครื่องหมายการค้า เช่น pepsi
3. โลโก้บริษัท ที่มีของขายและใช้ชื่อไม่ตรงกัน
✅ในกรณีที่สินค้าและชื่อบริษัทไม่ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนโลโก้ก็ได้เพราะเราไม่ได้ใช้อย่างเครื่องหมายการค้า แต่แนะนำให้ยื่นจดทะเบียนไว้เพื่อป้องกันคนอื่นนำไปใช้ เช่น บริษัทยูนิลิเวอร์ ที่มีสินค้าหลายอย่าง เป็นต้น
3 เทคนิคออกแบบโลโก้ “จดทะเบียนได้แน่”
1. มีลักษณะเป็นคำบ่งเฉพาะไม่มีความหมายใดๆ
✅โลโก้ต้องเป็นเครื่องหมายที่ทำให้มีลักษณะพิเศษ แต่ต้องไม่สื่อความหมายโดยตรงเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ว่าสินค้าหรือบริการนี้แตกต่างจากสินค้าหรือบริการจากแบรนด์อื่น เช่น เป็นคำประดิษฐ์ที่ไม่มีความหมายตามพจนานุกรม ไม่มีลายมือชื่อ หรือภาพเจ้าของโลโก้ เช่น Kodak , Google , WEDRINK , BING CHUN , Ikea เป็นต้น
2. ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย
✅คำว่าลักษณะที่ผิดกฎหมาย เช่น ไม่เป็นเครื่องหมายเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ , ธงส่วนพระองค์ , ธงประจำชาติ , เครื่องหมายของหน่วยงาน เป็นต้น
.
3. ไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของบุคคลอื่น
✅ถ้าจะให้โลโก้ที่ออกแบบผ่านฉลุยสำคัญคือต้องไม่ไปเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้ว เพื่อป้องกันความสับสนที่ทำให้ผู้คนจำผิดในแหล่งกำเนิดหรือความเป็นเจ้าของสินค้าและบริการได้
ขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
✅ขั้นแรกต้องตรวจค้นฐานข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อดูว่ามีโลโก้หรือเครื่องหมายการค้าซ้ำหรือคล้ายกันหรือไม่ โดยสามารถขอตรวจค้นข้อมูลดังกล่าวได้ทางอินเทอร์เน็ต (ไม่เสียค่าธรรมเนียม) แต่หากไปที่ศูนย์บริการทรัพย์สินทางปัญญาจะมีค่าธรรมเนียมรายชั่วโมง (ประมาณ 200 บาท)
✅นอกจากนี้ควรมีเอกสารพร้อม เช่น หนังสือรับรองนิติบุคคล , เอกสารขอจดทะเบียนโดยภาพเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้ที่ต้องการจด , เอกสารบรรยายรูปร่างเครื่องหมายการค้า , หากเป็นการจดทะเบียนเครื่องหมายร่วม ต้องเตรียมบัญชีรายชื่อ ผู้มีสิทธิใช้ และเอกสารหลักฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้มีสิทธิใช้เครื่องหมายร่วม
✅ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมรายการสินค้าสำหรับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย แบบไม่เกิน 5 รายการ ยื่นจดทะเบียนชำระ 5,000 บาท อนุมัติรับจดทะเบียนชำระ 3,000 บาท แต่ถ้าเป็นแบบเกิน 5 รายการขึ้นไปไม่จำกัด (ไม่ควรเกิน 30-100 รายการ )ยื่นจดทะเบียนชำระ 9,000 บาท อนุมัติรับจดทะเบียนชำระ 5,400 บาท
สังเกตได้ว่าหลายๆ ธุรกิจพยายามสร้างโลโก้ของตนเองออกมาเพื่อหวังกลายเป็นภาพจำของผู้บริโภคทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม ซึ่งโลโก้เหล่านี้สามารถออกแบบได้อย่างหลากหลายทั้งการใช้ภาพถ่าย ภาพวาด ตัวอักษร ตัวเลข สีสัน ลายมือชื่อ ฯลฯ ยิ่งมีจุดเด่นหรือลูกเล่นสะดุดตา ช่วยสร้างการเติบโตและการจดจำได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ผู้ประกอบการก็ต้องรู้จักคุ้มครองสิทธิของตัวเองตามกฏหมายด้วย
#แฟรนไชส์ #การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า #จดลิขสิทธิ์ #Logo #Trademark #ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์
โฆษณา