12 พ.ย. เวลา 03:17 • ความคิดเห็น

ความลับของฟ้า

“ความลับของฟ้า” เป็นคำที่พี่เล้ง ศิริวัฒน์ วงจารุกร แห่งบริษัท mfec ใช้บ่อยๆ เวลาเล่าเรื่องปรัชญาโบราณและวิธีคิดในการดำเนินชีวิต โดยหมายถึงว่าใครรู้และเข้าใจถึงความลับบางอย่าง ก็จะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จหรือยิ่งใหญ่ในชีวิตได้ พี่เล้งเองก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จจากความลับนี้ในสายตาของผมและเป็นที่เคารพนับถือของคนที่ได้รู้จักพี่เล้งอย่างมาก
3
มีความลับข้อหนึ่งที่พี่เล้งเคยเล่าซึ่งน่าจะมาจากการอ่านมากวิเคราะห์มากของพี่เล้ง น่าจะมาจากหนังสือ give and take ของ adam grant พี่เล้งอธิบายว่า ในสังคมปกติจะมีคนอยู่สามกลุ่ม กลุ่มแรกเรียกว่า ผู้ให้ (giver) กลุ่มที่สองเรียกว่าผู้เอา (taker) อีกกลุ่มคือ ผู้ที่ให้มาก็รับ รับมาก็ให้ (Transactor) พี่เล้งบอกว่าถ้าไปลองวาดกราฟดู คนที่ประสบความสำเร็จมากๆในสังคมกับคนที่ล้มเหลวมากๆในสังคมมักจะเป็นผู้ให้ (giver) ทั้งสิ้น ส่วนอีกสองประเภทก็อยู่ได้ในสังคม จะดีบ้างแย่บ้างก็มีปะปนกันไป
ที่ล้มเหลวเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะถ้าผู้ให้ (giver) ไปอยู่ในดงของคนเอาแต่ได้แล้ว ก็คงจะรอดออกมายาก แต่ผู้ให้ที่อยู่ในฝั่งที่ประสบความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร…
พอฟังเรื่องนี้จบ ผมเลยนึกถึงเรื่องสามเรื่องที่เคยได้ยินขึ้นมา
เรื่องแรกเป็นเรื่องของคุณอนันต์ อัศวโภคิน มหาเศรษฐีเจ้าของแลนด์แอนด์เฮาส์ terminal 21 และ homepro..
 
คุณอนันต์เคยเล่าถึงการได้เช่าระยะยาวของที่ดินผืนงามในราคาที่ไม่แพงที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ terminal 21 ว่าเกิดจากเมื่อก่อนหน้าจะได้ที่ดินผืนนี้หลายปี คุณอนันต์ได้ไปติดต่อซื้อที่ดินผืนหนึ่งจากเจ้าของคนหนึ่งแถวสีลม และได้บอกปากเปล่าว่าที่ดินสีลมนี้มีอัตราส่วนการสร้างที่ 4:1 จากความเป็นจริงในตอนนั้นแล้วก็เสนอราคาตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย
เวลาผ่านไปไม่นาน มีการอนุมัติใหม่ให้ที่ดินผืนดังกล่าวมีอัตราส่วนใหม่ที่ 6:1 ทำให้คุณอนันต์ได้ประโยชน์มากขึ้นและคุณอนันต์เองก็ได้ซื้อที่ดินมาเรียบร้อยโดยไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรอื่นอีก แต่ด้วยความเป็นคุณอนันต์ คุณอนันต์ก็ถือเงินสดส่วนหนึ่งที่ได้จากกำไรที่เพิ่มขึ้น เอาไปให้เจ้าของที่ดินเดิม ซึ่งเจ้าของที่ก็งงๆ เพราะได้ขายขาดไปแล้วและก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนนั้น แต่ก็คงประทับใจในความแฟร์ของคุณอนันต์
อีกหลายปีต่อมา เจ้าของที่ดินคนเดิมซึ่งมีที่อยู่อีก 10 ไร่ตรงอโศก ก็ประกาศให้เช่าที่ระยะยาวโดยมีราคาเริ่มต้นในการประมูลไม่แพงมากและมีคนสนใจมาร่วมประมูลมากมาย แต่พอคุณอนันต์แสดงความสนใจในที่ดินผืนนั้น เจ้าของที่ก็ไม่ลังเลที่จะให้คุณอนันต์ในราคาตั้งต้นโดยที่ไม่ต้องประมูลแข่งกับคนอื่นอีก คุณอนันต์ก็เลยได้ที่ดินผืนงามมาทำ terminal 21 ในปัจจุบัน เป็นอานิสงส์จากการกระทำในอดีตโดยแท้
เรื่องที่สองเป็นเรื่องของคุณตัน ภาสกรนที..
 
คุณตันเล่าเรื่องหนึ่งถึงสมัยที่ขายของเบ็ดเตล็ด เทปคาสเซ็ท หนังสือ นิตยสารอยู่แถวท่ารถที่ชลบุรี ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่มาขึ้นรถที่แถวร้านคุณตันเพื่อไปกรุงเทพ
ปกติก็จะมีผู้ชายคนนึงชอบเดินเข้ามาเดินเล่นดูเทป ดูหนังสือฆ่าเวลาก่อนขึ้นรถไปทำงานที่กรุงเทพแล้วก็กลับมาตอนเย็นๆ เดินดูอีกรอบแล้วก็กลับบ้าน ไม่เคยซื้ออะไรในร้านเลยเพราะราคาเทปสมัยนั้นไปซื้อที่กรุงเทพถูกกว่า
จนวันหนึ่งฝนตกหนัก ชายคนนี้เดินเข้ามาในร้านด้วยสภาพเปียกปอน ในมือถือเอกสารอยู่ปึกหนึ่ง คุณตันสังเกตุเห็น ไม่ได้พูดอะไรแล้วก็ยื่นถุงพลาสติกลายการ์ตูนที่วางขายอยู่ให้ถุงนึงไว้ใส่กันเปียก ผู้ชายคนนั้นก็ขอบคุณแล้วก็เดินออกไป
หลังจากนั้นคุณตันบอกว่า ชายคนนั้นกลับมาและซื้อเทปซื้อหนังสือจากร้านคุณตันทุกครั้ง ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าที่กรุงเทพฯ จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด
เรื่องที่สามเป็นเรื่องของ พี่สุรชัย พุฒิกุลางกูร มือ illustrator อันดับหนึ่งของโลก
 
พี่สุรชัยเคยเล่าเรื่องสมัยที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วไปรับงานเป็นล่ามในงานแสดงสินค้าศิลปะหัตถกรรมไทยที่นั่น พี่สุรชัยบอกว่าแกมีหน้าที่คอยอธิบาย (แบบงูๆปลาๆ) ให้คนญี่ปุ่นฟังถึงที่มาที่ไปของหัตถกรรมที่นำไปแสดงโชว์
1
ในงานนั้นพี่สุรชัยสังเกตุเห็นชายญี่ปุ่นแก่ๆคนหนึ่งมาด้อมๆมองๆเดินดูงานแกะสลักช้างอยู่หลายวันและในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ พี่สุรชัยก็เลยไปถามว่าทำไมถึงสนใจและซื้องานชิ้นนั้น ชายญี่ปุ่นคนนั้นซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นคุณครูโรงเรียน บอกพี่สุรชัยว่าที่ซื้อเพราะมาอยู่หลายวันและสังเกตุคุณลุงคนไทยที่แกะสลักงานชิ้นนั้น แล้วรู้สึกว่าคุณลุงเป็นคนดีก็เลยคิดว่างานจะต้องดี ก็เลยซื้อ
พี่สุรชัยบอกว่า การมองงานศิลปะของคุณครูญี่ปุ่นนั้นเปลี่ยนโลกของพี่สุรชัยไปเลย คุณครูคนนั้นเชื่อว่า คนดีก็จะย่อมทำงานที่ดี เป็นวิธีคิดที่พี่สุรชัยคาดไม่ถึง และทำให้วิธีคิดนั้นติดอยู่ในหัวของพี่เขา จนไปประทับใจกับครีเอทีฟนิสัยดีคนหนึ่งแล้วยอมทำงานให้แบบแทบไม่คิดสตางค์เพราะอยากทำงานกับคนนั้น จนได้เป็นผลงานระดับสุดยอดของโลก (งาน Samsonite : heaven&hell) ที่ทำให้พี่สุรชัยแจ้งเกิดในเวทีระดับโลกได้อย่างงดงาม
ด้วยความคิดที่ว่า คนดีย่อมทำงานที่ดี โดยแท้
1
ความลับของฟ้าที่พี่เล้งบอก ก็คือว่า ถ้าผู้ให้ (giver) ไม่ไปอยู่กับพวก taker หรือ transac แต่กลับอยู่ท่ามกลางพวก giver ด้วยกัน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จหรือทำอะไรได้เจริญรุ่งเรืองจะมีสูงมาก เพราะพวก giver ไม่ได้คิดแบบ zero sum game ไม่ต้องมีเราชนะเขาแพ้ มีแต่ถ้าได้ต้องได้ด้วยกัน รวยด้วยกัน มีอะไรก็แบ่งปันกัน ยิ่งมียิ่งอยากแบ่ง กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จสูงในสังคม เป็นกลุ่มที่ส่งเสริมเกื้อหนุนกัน ยิ่งให้ยิ่งได้กลับมาก
 
เป็นความลับของฟ้าที่อยากแอบมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ครับ
1
โฆษณา