หินสามวาฬ
หินสามวาฬ อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู และที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ก็เพราะหินทรายที่เป็นสันยาวขนาดใหญ่ยื่นออกไปในหน้าผาเป็น 3 สัน ถ้ามองจากด้านบนจะเหมือนปลาวาฬ 3 ตัว คือ พ่อ แม่ ลูก กำลังว่ายน้ำอยู่ อีกทั้งถ้ามาช่วงเช้าหรือเย็นก็จะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยมากทีเดียว
หินสามวาฬ ตั้งอยู่บนภูสิงห์ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา พอขับรถเข้ามาในเขตพื้นที่ ก็จะมีป้ายบอกชัดเจน เราเดินไปซื้อตั๋วกันที่ "จุดลงทะเบียนขึ้นหินสามวาฬ" กัน
เราซื้อแบบบัตรเหมา ซึ่งจะมีแค่กลุ่มเราเท่านั้น ไม่ต้องรวมกับใคร ซื้อบัตรกันแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะบอกว่าเป็นรถคันไหน พอรู้แล้วว่ารถคันไหน ก็ขึ้นรถกันเลย อ้อ!! พี่คนขับรถ นอกจากจะเป็นคนขับรถแล้ว ยังเป็นไกด์ให้เราได้ด้วย
ขึ้นรถเรียบร้อยเราไปกันที่จุดแรกกันก่อน ซึ่งเรามีจุดหมายกันทั้งหมด 6 จุด
📌 จุดแรก แวะไหว้พระกันก่อน ที่ "ลานธรรมภูสิงห์" เป็นลานกว้าง และมีหินคล้ายสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศใต้ และมีหลวงพ่อพระสิงห์ประดิษฐานอยู่ที่ลานนี้ด้วย
📌 จุดที่ 2: "จุดชมวิวถ้ำฤาษี" อยู่ใกล้ๆกับทางเดินไปหินสามวาฬ เราแวะที่จุดนี้ก่อน ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงและลาวได้อย่างชัดเจนจากจุดนี้
📌 จุดที่ 3: "หินสามวาฬ" เดินไปอีกฝั่งของจุดชมวิวถ้ำฤาษี ก็จะเป็นทางเดินไปที่หินสามวาฬ
เดินไปประมาณ 100 เมตร ก็จะเป็นทางแแยกเพื่อไปวาฬพ่อ และวาฬแม่
เราเดินมาที่วาฬแม่ก่อน แต่ถ้าใครอยากถ่ายรูปสวยๆ ตากล้องก็ตั้งกล้องที่วาฬแม่เลย ส่วนนางแบบ นายแบบ ไปที่วาฬพ่อ ตั้งท่่าถ่ายรูปกันได้เลย
📌 จุดที่ 4: "จุดชมวิวหินหัวช้าง" เป็นก้อนหินลักษณะคล้ายหัวหน้าที่โผล่อยู่กลางป่า (อาจจะต้องใช้จินตนาการกันนิดนึงนะ)
📌 จุดที่ 5: "ส้างร้อยบ่อ" เดินขึ้นเนินไปนิดนึง พอได้ให้ขาของเราได้ออกกำลังบ้าง
📌 จุดที่ 6: "ประตูภูสิงห์" เป็นก้อนหิน 2 ก้อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ลักษณะคล้ายช่องเขา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยอีกจุดหนึ่งด้วย
การเที่ยวป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์และป่าดงสีชมพู และขึ้นไปชมจุดต่างๆ ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
และพี่ๆที่ขับรถพาเราเที่ยวก็เป็นไกด์ที่ดี และน่ารักมากๆ
⭐️ ถ้าชอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
