การเลือกตั้งของทรัมป์ทำให้กลุ่มหัวรุนแรงต้องยอมจำนน
ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าไม่มีใครที่จะน่าเชื่อถือได้แม้แต่บทความของผมเอง
เอาล่ะๆๆๆ กลับไปเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2567 ทรัมป์(Trump)ได้รับเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา ต่อจากนี้ไปเราต้องมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นใน 4 ปีข้างหน้า
เป็นที่น่าสังเกตว่า องค์กรก่อการร้ายฮามาสซึ่งฝ่ายบริหารของไบเดนชักชวนมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับการหยุดยิง
จู่ๆ ก็ประกาศในช่วงบ่ายของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งว่าเรียกร้องให้มีการหยุดยิง “ทันที” และให้ยุติสงครามใน "ทันที"
มันเหมือนกับพวกอันธพาลตัวเล็ก ๆ ในมุกของหนังเก่าๆที่ไม่พอใจและโกรธแค้น
ไม่มีใครสามารถควบคุมเขาได้ แต่เมื่อนายอำเภอที่มีอำนาจเข้ามา เขาก็ถูกมองจากระยะไกล แล้วพวกเขาก็ต้องถึงกับ.....ขอยอมแพ้ก่อน
จากนั้นในวันที่ 7 ประเทศกาตาร์ในตะวันออกกลางประกาศว่าได้แจ้งให้กลุ่มฮามาสที่อาศัยอยู่ในกาตาร์มาเป็นเวลานานว่าพวกเขาไม่ได้รับการต้อนรับอีกต่อไป
และต้องออกจากกาตาร์ในทันที
แม้แต่ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้นำอาหรับในตะวันออกกลางก็ยังประกาศว่าจะไม่ต้อนรับกลุ่มฮามาสเข้าประเทศอีกต่อไป
คุณยังจำกองกำลังฮูตีที่โจมตีใครก็ตามที่พวกเขาพบเห็น กล้ายิงขีปนาวุธใส่เรือรบสหรัฐฯ และจมเรืออังกฤษในช่องแคบทะเลแดงหรือไม่ล่ะ?
ทั้งหมดนี้คือ "โจรสลัด" ในตะวันออกกลางที่ไม่เคยมีความเกรงกลัวใครและไม่กลัวใครๆเลย
แต่ในวันที่ 6 เมื่อทรัมป์ประกาศว่าเขาชนะการเลือกตั้ง โฆษกของกองทัพฮูตีที่มีชื่อเสียงก็ออกมากล่าวปราศรัยว่า
การกระทำของเราในน่านน้ำสากลมีไว้เพื่อการป้องกันตัวเองเท่านั้น และเราประกาศว่าเราจะหยุดการกระทำของเราไว้
จริงๆ แล้วเราเพียงต้องบอกทรัมป์ว่า เรากำลังต่อสู้กับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เรารู้ว่าคุณคือผู้นำ เข้าใจไหม
เราจะไม่ทำสิ่งที่สร้างปัญหาให้คุณอีกต่อไป คุณคิดว่าทัศนคติของเราโอเคไหม
ไม่ใช่แค่อาบังที่ก่อปัญหาเท่านั้นที่มีสติสัมปชัญญะขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน แม้แต่กลุ่มตอลิบานชาวอัฟกานิสถาน ที่ทุกคนค่อยๆ ลืมไปก็ยังไม่สามารถนั่งและนอนอย่างนิ่งๆ ได้
จู่ๆ พวกเขาก็ออกมาแสดงความตั้งใจที่จะกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและขอร้องให้ สหรัฐฯ ถอนชื่อพวกเขาออกจากรายชื่อผู้ก่อการร้าย
ปัญหาคือทรัมป์ยุ่งอยู่กับการจัดการสมาชิกคณะรัฐมนตรีของเขาและไม่มีเวลาแม้แต่จะทวีตด้วยซ้ำ
นอกจากการคุยโทรศัพท์กับเนทันยาฮูของอิสราเอล และปูติน เป็นเวลาเกือบๆ 20 นาทีแล้ว
เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะพูดคุยกับตะวันออกกลางได้ในแบบทีละคนๆ
อย่างมาก ทรัมป์ก็แค่ให้การรับประกันกับยูเครน และมัสก์ก็ให้สตาร์ลิงค์ในทันที
ทำไมความเคารพเชิงบวกทั้งหมดนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน พวกคุณลืมกินยาอะไร? ทำไมทุกคนถึงประพฤติตัวดีในเวลาเดียวกันเช่นนี้?
บางทีคุณอาจคิดว่า มีสงครามถึงสองแห่งในโลกและไม่ใช่แค่ตะวันออกกลาง ทำไมคุณไม่พูดถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนล่ะ?
คุณสังเกตเห็นปรากฏการณ์นี้หรือไม่
เมื่อทรัมป์ต้องการละทิ้งยูเครน แต่คำกล่าวที่เรียกว่าทรัมป์ต้องการหักหลังยูเครนไม่เคยมีการพูดโดยทรัมป์เองเลย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการตีความในสื่อและอินเทอร์เน็ต ต่างหาก....
ตัวอย่างที่ตรงที่สุดคือครั้งหนึ่งทรัมป์เคยแสดงท่าทีต่อต้านแผนช่วยเหลือของฝ่ายบริหารของไบเดนต่อยูเครน
แต่เมื่อพูดถึงสื่อฝ่ายซ้ายรายใหญ่ กลับกลายเป็นว่า “ทรัมป์ต่อต้านการช่วยเหลือยูเครน”
คำว่า “แผน” ถูกละเว้นโดยเจตนาหลังจากที่ทรัมป์ได้รับเลือก
และ ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดสำหรับหลาย ๆ คนก็คือหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์จะเลิกสนับสนุนยูเครน และปล่อยให้รัสเซียฟื้นความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เอาล่ะๆๆๆ เรามาดูกันว่าทรัมป์ทำอะไรไว้บ้างในวันที่เขาได้รับเลือก....
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่จากทำเนียบของประธานาธิบดียูเครนบอกกับเอเอฟพีว่า...ทรัมป์จัดการประชุมทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเซเลนสกี( Zelensky) ของยูเครน
เมื่อวันพุธ (6 พฤศจิกายน 2567) ซึ่งเป็นวันที่เขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
คุณต้องรู้ว่าทรัมป์และนายกรัฐมนตรีเนตานยาฮูของอิสราเอลพูดคุยกันเพียง 2 คนเท่านั้น เป็นเวลา 20 นาที
แต่การประชุมทางโทรศัพท์กับ Zelensky กินเวลานานหนึ่งชั่วโมง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังแค่ไหน
ขณะนี้มีการเปิดเผยว่า ทรัมป์พูดคำที่สำคัญที่สุดสองคำกับ Zelensky ในระหว่างการประชุม
คำหนึ่งคือ ฉันจะสนับสนุนยูเครน และอีกคำสำคัญกว่าในความคิดของผม
สำหรับทรัมป์ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนบางคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเสียสละผลประโยชน์ของยูเครนเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
แต่ ข้อความหนึ่งที่โพสต์ในบทความของบลูมเบิร์กเมื่อเร็วๆ นี้นั่นน่าสนใจกว่า... ข้อความดังกล่าวกล่าวว่า
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทรัมป์ได้สะท้อนความคิดบางอย่างของเขาเองและได้ตระหนักแล้วว่า ไม่อาจบังคับให้ยูเครนให้สัมปทานกับปูตินโดยที่(สหรัฐ)ไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทน
หากมีหลักฐานสำหรับการกล่าวหา นี้ก็สอดคล้องกับสิ่งที่เขาพูดกับ Zelensky ว่า ฉันรับประกันได้ว่าคุณจะพอใจ(กับฉัน)มาก
และฉันสงสัยว่ามันจะทำให้FCยูเครนหลายคนรู้สึกโล่งใจบ้างไหม?
แน่นอนว่าสิ่งที่กล่าวไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ทำเสร็จแล้ว
มาตรการเฉพาะที่ทรัมป์จะใช้เพื่อ "ตอบสนอง" เซเลนสกี จะเสร็จสิ้นเมื่อเขาและทีมงานเข้ารับตำแหน่งต่างหาก
มีตอนหนึ่งที่น่าสนใจมากในการพบกันระหว่าง Trump และ Zelensky ขณะที่ Trump กำลังพูด
จู่ๆ เขาก็ดึง Musk บุคคลที่รวยที่สุดในโลกที่นั่งอยู่ข้างๆ เข้ามาในการประชุม
ในระหว่างการสนทนากับ Trump Musk Zelensky
Zelensky ก็ได้รับการรับประกันที่ไม่คาดคิด เมื่อ Musk สัญญาเป็นการส่วนตัวต่อหน้า Trump ว่า
เขาจะช่วยยูเครนต่อไปผ่านทาง "Starlink" และจงอย่าประมาทคำสัญญานี้ นะครับ...
คุณต้องรู้ว่าในสนามรบที่เต็มไปด้วยระเบิด
หากไม่มีการระบุตำแหน่งดาวเทียมและการประสานงานเครือข่าย กองทัพและโดรนทั้งหมดที่เป็นกำลังหลักในสนามรบรัสเซีย-ยูเครนจะตาบอด
ด้วยการสนับสนุนของดาวเทียม "Starlink"
หลายร้อยดวงที่กระจัดกระจายอย่างหนาแน่นในสนามรบรัสเซีย-ยูเครน กองทัพยูเครนจึงสามารถแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
และโจมตีได้ทุกที่ที่ต้องการ
ผลกระทบของทรัมป์ยังส่งผลให้ปูตินซึ่งไม่เคยพูดจาอ่อนหวาน
ต้องลดขนาดตัวลง และผลคือ ...ปูตินได้กล่าวหนึ่งวันหลังจากที่ทรัมป์ได้รับเลือกว่า...
เขาพร้อมที่จะกลับมาติดต่อกับเขาอีกครั้งหากฝ่ายบริหารของทรัมป์เต็มใจและพร้อมที่จะหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามกับทรัมป์
ในความคิดของผม นี้เป็นการเปลี่ยนแปลงกะทันหันของปูติน และการแสดงให้เห็นท่าทางที่อ่อนโยนลงอย่างแท้จริง
คุณต้องอย่าลืมว่าในการประชุม BRICS ที่เพิ่งสรุปเสร็จไปในช่วงนั้น ปูตินเพิ่งสัญญากับสี จิ้นผิง ที่จะละทิ้งเงินดอลลาร์สหรัฐ
และปล่อยให้ทุกคน "ลดค่าเงินดอลลาร์" ไปด้วยกัน ผลก็คือ ทันทีที่ทรัมป์ได้รับเลือก ปูตินก็เปลี่ยนใจ ฮาาาาา..
เกิดการอวยเป็นเหตุสังเกตได้...เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เขาก็ยกย่องทรัมป์ สำหรับความกล้าหาญของเขาเมื่อมือปืนลอบสังหารเขาแต่ไม่สำเร็จว่า ....
"เชี๊ยเอ๊ยยยย! เขาแม่งงงงงดูเหมือนลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง"
ขณะเดียวกันก็ตบหน้าชายอีกคนหนึ่งที่เอาแต่ "บรรทุกข้าวสาลีหนัก 200 ปอนด์ และเดินไปตามเส้นทางบนภูเขาเป็นระยะทาง 10 ไมล์โดยไม่ยอมเปลี่ยนเส้นทาง"
และเขาก็ประกาศต่อสาธารณชนว่า รัสเซียจะไม่เปลี่ยนไป มันเป็นดอลลาร์แล้ว กลับมาทำธุรกรรมน้ำมันต่อในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกันเถอะ
....ต่อไปนี้ อารยธรรมตะวันตกจะไม่ได้เป็นศัตรูกับรัสเซียอีกแล้ว...
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
