12 พ.ย. เวลา 12:49 • นิยาย เรื่องสั้น

รักย้อนอดีตภาค5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์

.
บทที่ 7 GPS
คืนนั้นพันอาสาอยู่ยามให้จนถึงเที่ยงคืนเพื่อหาโอกาสติดต่อแอชมัท ยิ่งดึกก็ยิ่งเงียบที่คืนนั้นปราศจากเสียงใดๆทั้งสื้น
ภายในเต็นท์พักของทุกคนเงียบสงัดเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ส่วนพันยังตื่นอยู่เธอนั่งเงียบๆจนกระทั่งก็ได้ยินเสียงสัญญาณจึงหยิบมือถือขึ้นมา มีเสียงของแอชมัทที่ปลายสาย "ว่าไงPN -10 ข้ารอข่าวจากเจ้าหลายวันแล้ว"
.
PN -10 "ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆทั้งสิ้น แล้วทางท่านมีอะไรคืบหน้าบ้าง"
.
แอชมัท ""ทางข้าก็ไม่มีอะไรเช่นกัน เพราะกำลังยุ่งกับการหาสิ่งประดิษฐ์ใหม่ล่าสุดที่หายไป"
.
PN -10 "มันคืออะไร และใช้ทำอะไร"
.
แอชมัท "ไว้หาเจอจะบอก อ้อ พาราด็อกซ์ฝากให้มาเตือนว่าระวังเรื่องของมิติด้วย"
.
พัน "หมายความว่าอะไร แอชมัท"
.
"เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าก็จะเข้าใจ ส่วนตอนนี้เอ้ารับGPSตัวใหม่ไปแทนตัวเก่า"
.
พัน "เปลี่ยนทำไม ตัวเก่าก็ดีอยู่แล้ว"
.
แอชมัท "ตัวเก่าได้แค่เป็นตัวเซ็นเซอร์เท่านั้น ตัวใหม่นี้เป็นวิทยาการในอีกหลายสิบปีข้างหน้า"
.
กล่าวจบแอชมัทก็เลิกติดต่อดื้อๆเสียอย่างนั้น พันยิ้มรับมือถือตัวใหม่ที่จู่ๆก็มาอยู่ในมือเหมือนปาฏิหารย์เข้าในอกเสื้อ ตัวเก่าก็โยนเข้ารกเข้าพงไป
แล้วเขี่ยไฟในกองให้สว่างขึ้น ตอนนั้นเองที่มีเสียงพรึ่บพรั่บและค้างคาว 2 ตัวบินฉวัดเฉวียนจนเธอรำคาญจึงชักดาบเลเซอร์ออกฟันเจ้า 2 ตัวนั้นขาดเป็นท่อนๆ
แล้วก็จัดการโยนทุกท่อนของมันไปตกในป่าทึบฝั่งตรงข้ามของลำธารด้วยพละกำ
ลังมหาศาล โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาลึกลับคู่หนึ่งจับจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้ง
แต่ต้น
 
.
การเดินทางในวันรุ่งขึ้นเป็นการเดินทางขึ้นที่สูง ทางเดินมีช่วงที่เป็นทางแคบอยู่ช่วงหนึ่งยาวไม่เกิน 120 เมตรเท่านั้น แต่หมิ่นเหม่น่าหวาดเสียวมาก
น่าแปลกที่พวกลูกหาบทั้ง 4 คือสกอ ส่างคำ ลำบง และ มะทอนั้นพากันแบกของข้ามทางนั้นไปอย่างง่ายดาย
.
ไหล่เขาด้านหน้าที่เวียนอ้อมหน้าผาเป็นรูปโค้ง มองไม่เห็นตลอดเนื่องจากหักโค้งข้อศอก ระยะทางที่อ้อมยาว 100 หลาเศษเป็นทางเดินที่แคบแค่ 2.5-3 ฟุตเท่านั้น ซ้ายมือเป็นเหวลึก 200 หลา ขวามือเป็นหน้าผาภูเขา
.
แสนสุริยาบอกให้ทุกคนพยายามมองผนังหน้าผาทางขวามือ อย่ามองทางซ้ายซึ่งเป็นเหว ถ้าทางเดินแคบลงกว่าเดิมให้หันหน้าเข้าหาหน้าผา เกาะหินค่อยๆเดินทีละก้าว ใครรู้สึกผิดปกติให้บอกทันที จะได้ช่วยแก้ไขทัน
.
คนอื่นนั้นเขาไม่ห่วงที่เขาเป็นห่วงคือพันเจ้าหนุ่มแปลกๆคนนั้น แม้จะรู้ว่าพันถูกฝึกเรื่องการต่อสู้มาโดยตรง แต่การเข้าป่าทึบและไต่หน้าผาชันเป็นหลักสูตรด้วยหรือไม่
.
เพื่อความปลอดภัยของพันผู้มาพร้อมความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่และนำไปสู่การค้นหาที่แสนมืดมน
ความปลอดภัยของพันจึงเป็นสิ่งจำเป็น เขาจึงคอยประกบพันไว้ไม่ห่าง ซึ่งสำหรับพันแล้วเรื่องแค่นี้หมูมาก แต่ไหนๆแสนสุริยาห่วงใยทั้งที ก็ต้องทำตัวเป็นปัญหาเสียหน่อย ด้วยการปล่อยให้เขาช่วยแบกของบางส่วนและจูงมือเธอเดินตลอด โดยที่แสนสุริยาไม่สังเกตว่าผู้กองมานพและคนอื่นๆแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่
.
ชั่วไม่นานนักทั้งคณะก็ลงจากเขาสู่ที่ราบ ซึ่งมีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามจับตาในแสงสนธยาที่อ่อนเรืองก่อนเวลาย่ำค่ำ พวกเขาตั้งแค้มป์กันที่นั่น หลังอาหารเย็นจึงมีการพูดคุยพร้อมกันหมดรวมลูกหาบด้วย
.
พระจันทร์ข้างแรมประมาณ 5 ค่ำลอยคว้างอยู่กลางท้องฟ้าที่ปราศจากกิ่งไม้บังส่องแสงสลัวไปทั่วบริเวณ ผู้กองมานพมองไปที่พันอย่างใคร่ครวญสักครู่แล้วถาม
"เครื่องตรวจจับของคุณได้พบอะไรบ้างไหม"
.
พัน "เสียใจครับ ผู้กอง เครื่องยังไม่ส่งสัญญาณสักนิด(ความจริงคือพันลืมเปิดเครื่องตัวใหม่) เจ้ายานลำนั้นคงจะอยู่อีกไกล แต่โอกาสพบยังมี ต่อให้มีเพียง 1 ใน 1,000 เท่านั้น ก็ต้องตามต่อไป"
.
ผู้กอง "ถามเรื่องส่วนตัวได้ไหม พัน"
.
พัน "ยินดีครับ"
.
ผู้กอง "คุณเป็นคนไทยหรือพม่า และไปทำงานระดับ inter ได้อย่างไร"
.
พัน "ผมเป็นคนไทยครับ เรียนจบจากมหาลัยฯต่างจังหวัด เกรดเฉลี่ยไม่ได้หรูมาก
แต่เก่งภาษาอังกฤษ
เผอิญมีศาสตราจารย์ต่างประเทศมาทำวิจัยและผมไปเป็นผู้ช่วย เมื่อเรียนจบท่านจึงแนะนำให้ไปสมัครงานกับหน่วยงานของอเมริกาน่ะครับ"
.
ผู้กอง "CIA กระมัง"
.
พัน "ละไว้ในฐานที่เข้าใจครับ"
.
ผู้กอง "ศาสตราจารย์ต่างประเทศที่ว่ามาทำวิจัยเรื่องอะไรครับ"
.
พัน "ธาตุหายากที่ให้พลังงานสูง ครับ"
.
ผู้กองมานพและแสนสุริยาสบตากันเงียบๆโดยไม่พูดอะไร พันเหลียวไปรอบๆท่าทางสบายใจ "พรุ่งนี้เราจะเข้าสู่ดินแดนแห่งความลึกลับที่ยังไม่เคยมีใครรอดกลับมา"
.
ผู้กอง "แล้วพันไม่กลัวหรือ"
.
"กลัวซิครับผมยังไม่ได้แต่งงานเสียชาติเกิดแย่ ครูสุรพลยังเคยร้องเพลงว่า เป็นโสดทำไมตายไปเจอะยมบาล ท่านรู้ว่าไม่แต่งงานเดี๋ยวจะพาลไม่ให้มาเกิด...ใหม่ครับ"
.
แล้วพันก็ลุกขึ้นเต้นเบรกแด๊นซ์ซึ่งเป็นการเต้นที่ใช้เท้าและการเคลื่อนไหวร่างกายแบบหนึ่ง ผู้กองมานพและแสนสุริยาฮาครืน พลันความรู้สึกหวาดระแวงก็หายไป เหลือเพียงความรู้สึกลางๆที่คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
.
เช้าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าโปร่งแสงแดดส่องสว่าง หลังจากกินอาหารอย่างเร่งรีบแล้วพวกเขาก็เร่งออกเดินทางโดยพันเดินนำหน้าไปก่อน
ในมือถือเครื่องGPSซึ่งเป็นมือถือแห่งอนาคตมีเสียงชายวัยกลางคนพูดจายียวนคอยพากษ์
.
"อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพัน วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะได้นำทางอย่างเป็นทางการเสียทีร้องเพลงรอจนเบื่อแล้ว"
.
พัน "GPSรุ่นล่าทำไมช่างจ้ออย่างนี้"
.
GPS "อ้าว...ก็ผมชื่อ ฝอย นี่ครับคุณพัน จะให้อยู่เงียบๆใครทนได้ก็ทนไป แต่...ฝอยทนไม่ได้ย่ะ"
.
จบบทที่ 7 ภาพปกจาก The Master Coach โดยโค้ชสถิตธรรม เพ็ญสุข Amazing iceberg ภาพภูเขาน้ำแข็งที่จมอยู่ในความลึกลับ
โฆษณา