13 พ.ย. เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Q3/67 MGI รายได้ลดลง 4.58% กำไรสุทธิลดลง 67.96% และมีอัตรากำไรลดลง มีข้อน่าสนใจอะไรบ้าง มาอ่านกัน

MGI บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัทประกอบธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามและอาหาร และเป็นตัวแทนนายหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับศิลปิน เข้ามาจดทะเบียนในตลาดเมื่อ 14 ธ.ค. 66
และ 31 มี.ค 67 บริษัทได้ซื้อหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) 30 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 4.5 บาท คิดเป็นเงิน 135 ลบ.
MGI มี 5 ธุรกิจ 1. ขายสินค้า เช่น น้ำพริก ครีม รายได้ 50% มาจากส่วนนี้ 2. ธุรกิจสื่อและบันเทิง 3.ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 4.ธุรกิจการจัดประกวด 5.ธุรกิจการเชาช่วง MGI Hall
Q3/67 รายได้ 130.58 ลบ. จาก Q3/66 ที่ 136.85 ลบ. ลดลง 4.58% และมีกําไรสุทธิ 8.02 ลบ. จาก Q3/66 ที่25.03 ลบ. ลดลง 67.96%
อัตรากำไรขั้นต้น จาก Q3/66 ที่ 46.75% ลงมาอยู่ที่ 34.09% และอัตรากำไรสุทธิ จาก 18.29% เมื่อ Q3/66 ลงมาอยู่ที่ 6.14% ในไตรมาสนี้
3 อัตราส่วนของอัตรากำไร คิดจากกำไรในแต่ละระดับ
1. อัตรากำไรขั้นต้น คิดจาก กำไรขั้นต้น/ รายได้
2. อัตรากำไรจากการดำเนินงาน คิดจาก กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษี/ รายได้
3. อัตรากำไรสุทธิ คิดจาก กำไรสุทธิ/ รายได้
อัตรากำไรนี้ บอกถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในแต่ละระดับ เช่น ถ้าอัตรากำไรขั้นต้นสูงมาก แต่อัตรากำไรจากการดำเนินงานอออกกมาน้อยมาก แสดงว่า มีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารสูง
การรักษาอัตรากำไรต่างๆ ได้ดีอย่างสม่ำเสมอยังสามารถบอกความสามารถในการแข่งขันของกิจการได้ โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นต้น ถ้ารักษาระดับได้ดีสม่ำเสมอ แสดงว่า กิจการนั้นไม่ต้องลงไปสู้กันด้วยสงครามราคา และส่งผ่านต้นทุนสินค้าได้
MGI อธิบายว่า การขายสินค้าผาน platform มีการแข่งขันทางด้านราคาและคอนเทนต์เพื่อขายสูงขึ้นมาก จึงทําให้ บริษัททํากําไรขั้นต้นได้ลดลง โดยปัจจุบันบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางด้านการขาย และสร้างคอนเทนต์ที่เรียกส่วนแบ่งทางการตลาดกลับมาคืนได้ อัตรากําไรสุทธิลดลง เนื่องจากบริษัทมีการจัดโปรโมชั่นในการลดราคาสินค้า เพื่อให้มีการกระจายสินค้ามากขึ้นและเข้าสู่ท้องตลาดมากขึ้น
และ MGI มีข้อสังเกตตรงส่วนของงบดุล Q3/67 เมื่อดูในส่วนของผู้ถือหุ้น ถึงแม้ไตรมาสนี้จะลดลงแต่ก็ยังมีกำไร ซึ่งเมื่อมีกำไรสะสมเข้ามา ก็จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตขึ้น แต่ส่วนของ MGI ส่วนผู้หุ้นกลับลดลง จาก 454 ลบ. เป็น 426 ลบ. เมื่อสิ้นไตรมาส 3/67
เมื่อเข้าไปดูงบเต็มในส่วนผู้ถือหุ้น จะเห็นว่ามียอด - 84.96 ลบ. องค์ประกอบอื่นของผู้ถือหุ้นเข้ามาหัก จะเห็นยอดนี้ในส่วนของบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ เป็นส่วนต่อจากบรรทัดกำไรสุทธิลงมา เป็นกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น “ รายการที่จะไม่ถูกบันทึกในส่วนกำไรขาดทุนในภายหลัง -กำไร(ขาดทุน) จากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงินลงทุนในตราสารทุนที่กำหนดให้วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น”
ตรงนี้คือที่ MGI ดอยหุ้น SABUY อยู่ เป็น Unrealized loss คือยังไม่ได้ขาย แต่เมื่อคิดมูลค่าตามราคาตลาดแล้วขาดทุน
MGI เลือกบันทึกเงินลงทุนใน SABUY เข้ามาในส่วนนี้ ผลของกำไรขาดทุนของราคาหุ้นที่บริษัทถือที่มีการขึ้นลง จะไม่กระทบกับกำไรสุทธิ และ กำไรต่อหุ้น แต่จะเข้าไปกระทบในส่วนของส่วนของผู้ถือหุ้น
การที่หุ้น SABUY ปรับลดลงมาอย่างมาก จะไม่กระทบกับกำไรสุทธิของ MGI แต่จะกระทบเข้ามาในส่วนของผู้ถือหุ้น
งบ MGI ไตรมาสนี้ รายได้เริ่มลดลง แต่กำไรลดลงมากกว่า และอัตรากำไรที่ปรับตัวลดลงมา คงต้องติดตามคงต้องติดตามว่าการปรับกลยุทธ์แล้วจะเป็นอย่างไร
#หมอยุ่งอยากมีเวลา #งบกำไรขาดทุน #กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น #MGI
โฆษณา