14 พ.ย. เวลา 10:52 • สิ่งแวดล้อม

โฟม พระเอกที่ถูกทำให้เป็นผู้ร้าย…

ลอยกระทงอีกแล้ว เรื่องโฟม หรือวัสดุธรรมชาติ
อาจหมดไปในปัจจุบัน เพราะกระแสไม่ลอยอะไรเลย
นั้นดูจะมีมากกว่า
และปัจจุบันคนไทย ถูกภาครัฐไทยยัดเยียดให้ชาวบ้าน
ทราบไปแล้วล่ะ ว่าควรใช้วัสดุธรรมชาติมากกว่าโฟม
ก็จริงแหละ ถ้าบริหารจัดการกัน แบบไทยๆ
แต่ถ้าพูดกันในแง่ว่า มีการบริหารจัดการที่ดี มันผิดนะ
…เชื่อหรือไม่ ว่าในความเป็นจริงแล้ว การใช้กระทงโฟม
แล้วมีการบริหารจัดการที่ดี มันดีกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า…
“โฟมคือผู้ร้ายของคนขี้เกียจ …”
ผมอยากพูดแบบนี้จริงๆ ไม่ว่าเราจะใช้โฟมทำอะไรก็ตาม
และในความเป็นจริง ต่อให้เราไม่ใช้โฟมในกิจกรรมต่างๆ
มันก็จะมีขยะ ที่เป็นที่มาของโฟมมากขึ้นทุกวันๆ ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดีนั่นเอง
เพราะ โฟมนั้นมีที่มาจากอุตสาหกรรมปริโตรเลียม
เหมือนเป็นผลพลอยได้
หมายถึงว่า ตราบใดก็ตาม ที่เรายังกลั่นน้ำมัน
มันก็จะต้องมีสารตกค้างเหล่านี้หลงเหลือในโลก
เพราะงั้นแล้ว เมื่อไงก็ต้องมี ก็เอามันมาใช้แทนที่
ของจากธรรมชาติ มันไม่ดีกว่าเหรอ
ปัญหาอย่างเดียวจริงๆของโฟมและพลาสติกนั้น
คือความขี้เกียจ หรือความชุ่ยของมนุษย์ ที่ใช้งาน
ไม่ใช่เพราะตัวมันเอง
การบอกว่าไม่ใช้พวกมัน แล้วกลับไปทำลายธรรมชาติ
ด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติมากขึ้น มันถูกต้องงั้นเหรอ…
ปัญหามันอยู่ที่การใช้ ที่ขาดความรับผิดชอบ ขี้เกียจ
ทิ้งไม่เลือกที่ ชุ่ยในการจัดเก็บมากกว่า…
สิ่งที่ฝังหัวผู้คนมากที่สุด คือ โฟม และพลาสติกนั้น
ย่อยสลายยาก หรือในทางเทคนิคคือไม่ได้เลย
เราเชื่อว่าด้วยคุณสมบัติข้อนี้ของมัน
เป็นข้อเสียที่สุด กับสิ่งแวดล้อม
แต่ ในความเป็นจริง มนุษย์มีความต้องการถาวรวัตถุ
หรือสิ่งก่อสร้างตลอดเวลา
ไอ้ความย่อยสลายหมดสภาพยาก
ของพวกมันนี่แหละ จึงเหมาะมาก สำหรับงานก่อสร้างต่างๆ
และสามารถช่วยรักษาธรรมชาติได้
มากกว่าที่เราจะไปใช้วัสดุธรรมชาติ
แล้วสร้างมาทดแทนเสียอีก
ตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ก็คือ การใช้โฟมแทนคอนกรีต
ในงานก่อสร้างต่างๆ มันคือการเซฟธรรมชาติโดยตรง
อย่างในรูปหัวโพสต์ นั่นคือการใช้โฟมช่วยปรับระดับ
การเทพื้นคอนกรีต ซึ่งการทำแบบนี้ จะลดปริมาณการใช้
วัสดุตามธรรมชาติ ได้มากทีเดียว
เราลองคิดดูสิ ว่าเราต้องใช้วัสดุธรรมชาติอย่างคอนกรีต
ผสม ถึง 2.4 ตัน ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร
แต่โฟมเหลือใช้ อัดขึ้นรูปแทนปริมาณตรงนี้ไปได้
มากกว่า 3/4 ที่พื้นที่เท่ากัน
หมายความว่า ถ้าจากเดิม คุณต้องเทพื้นหนา 20 เซนติเมตร
แต่แทนที่ด้วยโฟมปรับระดับ 10 เซนติเมตร ปริมาณการใช้
ปูนมันหายไปเท่าไหร่ล่ะ
แล้วทั้งอาคารมันเท่าไหร่ ?
ยังไม่พอนะ เมื่อน้ำหนักโครงสร้างอย่างพื้นและผนังลดลงมาก
ความจำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างหลักอย่างเสา คาน
ขนาดใหญ่ มันก็จะลดลงมากตามไปด้วย
ซึ่งถ้าไม่นับประเภทพื้น post tension ที่มักใช้ในอาคารใหญ่ๆแล้ว การใช้โฟมสำหรับงานก่อสร้างทั่วไปนั้น ให้ผลดีค่อนข้าง
มาก ทั้งกับตัวอาคาร และผู้รับเหมา รวมถึงผู้อาศัย
กับตัวอาคาร เราอย่ามองว่าโฟมเป็นวัสดุเปราะบางนะครับ
ที่จริงมันมีคุณสมบัติปอนด์ต่อปอนด์ ที่ดีกว่าไม้ หรือซีเมนต์
เสียอีก มันไม่ใช่โฟมกันกระแทกในบรรจุภัณฑ์
ปัญหาที่เคยมีในอดีต มันได้รับการแก้ไขแทบหมดแล้วในปัจจุบัน และมีการใช้แบบผสมผสาน กับวัสดุดั้งเดิม
เพื่อแก้ปัญหา เช่น กรณีของผนังสำเร็จ ที่ใช้ซีเมนต์ประกบ
โฟมไว้ อย่างพวก Contel wall
ผนังจำพวกนี้ แข็งแรงมาก มากกว่าอิฐบล็อกเสียอีก
สามารถเจาะพุกยึดรับชั้นต่างๆ ได้น้ำหนักมากแทบไม่ต่าง
กับผนังก่ออิฐมวลเบา (คือ ไงก็ไม่เท่ากับอิฐแดงครับ)
ด้วยความที่พวกมันน้ำหนักน้อย ติดตั้งง่าย
จึงดีกับคนทำงานไปด้วย เพราะมันเร็ว จึงลดค่าใช้จ่ายได้
ทั้งในส่วนของผู้รับเหมา และเจ้าของบ้าน
และคุณสมบัติการไม่ส่งผ่านความร้อนจากนอกอาคาร
เข้ามา ก็ช่วยให้ในอาคารนั้นเย็น ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มาก
ถือเป็นการกลับไปเซฟสิ่งแวดล้อมอีกทอด
ส่วนเรื่องที่หลายคนกลัวที่สุด คือการติดไฟ
อันนี้เลิกคิดเลยครับ โฟมพวกนี้ไม่ลามไฟ และทนอุณหภูมิ
ได้สูงมาก แถมมีวัสดุปิดทับช่วยอีก มันปลอดภัยกว่าไม้
หรือยิปซีบอร์ดมาก ในแง่นี้ แทบไม่ต่างจากผนังปูนเลย
( ผมใช้ทำผนังครัวโรงแรมมาแล้ว การันตีได้ครับ )
จะเห็นได้ชัดนะครับ ว่าโฟมในงานก่อสร้างนั้น
ค่อนข้างมีข้อดีมากๆ และปัจจุบันประเทศที่พัฒนาแล้วเขาก็
ใช้กันเป็นปกติ และถูกจัดว่าเป็นพวกวัสดุรักษ์โลก
มากกว่าการใช้วัสดุธรรมชาติ
จีนนี่คือตัวอย่างที่ดีเลย ใช้เยอะกว่าฝรั่งอีก
เพราะเขาต้องจัดการกับขยะจากคนจำนวนมหาศาลของเขา
จีนคือประเทศที่ใช้วัสดุจำพวกโฟมก่อสร้างมากที่สุด
ในโลกครับ ก็เอาขยะนั่นแหละ เวียนมาสร้างบ้านคน
คอนโดในจีนส่วนมาก ผนังพวกนี้ทั้งนั้น
ในถนนหนทางต่างๆ ก็ใช้กันมาก
และนี่คือเคล็ดลับในการสร้างสิ่งต่างๆของพวกเขา
ได้อย่างรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ฉุกเฉินเสมอ
1
ถ้าจำกันได้ โรงพยาบาลสนาม จำนวนมหาศาล
ในจีนที่ถูกสร้างอย่างรวดเร็วช่วงโควิด ที่ดูสะอาดสะอ้านนั้น
ก็ล้วนเป็นผนังโฟม แบบที่คนไทยเรียกว่าผนังแซนด์วิช
ทั้งนั้นแหละครับ
ใช้เสร็จ เก็บได้ เอามาใช้ต่อได้อีกเวลามีภัยธรรมชาติ
แถมใช้สร้างบ้านราคาถูกให้คนจนในชนบทได้อีก
จีนไม่มีปัญหากับโฟม ไม่เชื่อดูบะหมี่กระป๋องพวกเขาได้
พวกเขายังคงใช้โฟมเป็นหลัก ไม่ใช่ถ้วยกระดาษแบบบ้านเรา
มันเกิดจากเขามอง และแก้ปัญหาแบบเป็นระบบ
คนไม่มีวัสดุสร้างบ้านเหรอ ก็จัดไปสิ เอาพวกนี้แหละ
โต๊ะนักเรียน ก็เอาพลาสติกมาอัด ทำหน้าโต๊ะ
ไม่ใช่ไปหาโต๊ะไม้มาใหม่แบบบ้านเรา
ถนนหนทางก็สร้างได้ถูก เร็ว เพราะเอาขยะมาช่วยประหยัด
คือ ของเขามองเป็นระบบ ไม่ใช่ของเรา ที่มองเป็นเรื่องๆ
เราก็เห็นๆ …
ไทยมีถนนห่วยๆมากมาย
มีคนจนเยอะแยะ ที่อยู่ในบ้านผุพัง หรือสังกะสีร้อนๆ
ภัยธรรมชาติทีก็ต้องมานอนเตนท์กัน
ไม่มีวัสดุมาทำที่พักชัวคราว
ก่อสร้างอะไรกันทีก็แพง เพราะจะเอาแต่ของใหม่
ไม่ใช่ของที่มีต้นทุนต่ำ
แน่นอน ว่าเรื่องนี้เราทำแบบจีนได้
มันไม่ได้ยากอะไรเลย มันไม่ใช่เทคโนโลยีชั้นสูง
ผู้ผลิตเจ้าใหญ่เรา ก็ทำของพวกนี้ขายมาพักใหญ่แล้ว
ผมว่า มันคือการมองปัญหาไม่เป็นระบบของเราเองมากกว่า
ที่ทำให้โฟม และอะไรหลายๆอย่างในบ้านเรา มันมีมุมมอง
ที่ค่อนข้างผิดเพี้ยนจากชาวโลก หรือความเป็นจริง
เชื่อไหม กับโฟม และขยะพลาสติกในเมืองไทย
ถ้าจัดการกันเป็นระบบจริงๆ รัฐบาลไทยจะประหยัดไปได้
อีกมากมายมหาศาลในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
1
ซึ่งมันก็แปลกดี ที่เราไม่ทำกัน
เห็นขยันอวยจีน แต่อะไรดีๆ ไม่เห็นจำมาทำบ้างเลย
สุดท้าย มันอาจมีคนแย้งผมว่า
รีไซเคิลโฟม มันก็ต้องใช้พลังงานป่าว ?
ใช่ครับ ตัองใช้
งั้นผมขอถามกลับ ว่าหรือการใช้วัสดุธรรมชาติ
ไม่ต้องใช้พลังงานในการแปรรูป ?
การรีไซเคิลโฟม จะอย่างไรก็ใช้พลังงานและสร้างมลพิษ
น้อยกว่าการทำอุตสาหกรรมคอนกรีตทั้งระบบครับ
ที่สำคัญ ในอุตสาหกรรมคอนกรีต แค่ทำเหมืองหิน
ก็ต้องระเบิดภูเขากันเป็นลูกๆแล้ว ในขณะที่โฟมไม่ต้อง
ระเมื่อคุณระเบิดภูเขา ถางป่า ต่อไปต้นไม้มันจะไปขึ้นที่ไหน
มันชัดเจนครับ ว่าอะไรคุ้มหรือไม่คุ้ม
โฟม พลาสติก ก็เหมือนทุกอย่างในโลกแหละ
มีด้านดี ด้านเสีย
…ซึ่งปัญหามันก็อยู่ที่คนใช้มากกว่า…
…มันไม่ใช่เรื่องถูกต้องเลย ที่เราใช้มันชุ่ยๆ
แต่ดันกรอกใส่หู กันเอง ว่ามันไม่ดี ….
…หรือ ใครมีผลประโยชน์แอบแฝง ก็ไม่รู้ล่ะนะ….
ปล. อันนี้พูดถึงการใช้ประโยชน์ของโฟมนะครับ อย่าอินจนลอยกระทงโฟมล่ะ บ้านเรามันไม่มีใครเก็บมาจัดการให้ถูกหรอก
แล้วปัจจุบัน มันอาจผิดกฎหมายด้วย ดีสุดคือไม่ลอย
แต่ถ้าอยากลอย ผมว่าบึงแบบปิด จะช่วยรักษาพระแม่คงคา
ได้ดีกว่าไปลอยในแม่น้ำลำคลองครับ ….
โฆษณา