14 พ.ย. เวลา 10:32 • ข่าว

ประสบการณ์หลอนบน MRT "หูฟังพี่รุ่นอะไรหรอครับ"

เหตุการณ์เกิดขึ้นบนรถ MRT วันที่ 12 พ.ย.2567 ระหว่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนฟังเพลง เธอเล่าว่าคนใส่ชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเดินเข้ามาพูดอะไรบางอย่าง เธอจึงเอาหูฟังออก
“หูฟังพี่รุ่นอะไรหรอครับ”
เมื่อเธอได้ยินคำถามนั้น จึงกดเข้า Google ไปค้นหา แล้วยื่นให้ดู
“ขอผมลองฟังแปปนึงได้มั้ย” นักศึกษาชายคนนั้นถามต่อ
“ตอนนั้นก็คืองง แล้วก็คิดว่า 1.ชั้นไม่ควรให้คนแปลกหน้ายืมมันสกปรก 2.มันจะฟังแล้ววิ่งขโมยไปเลยปะวะ เลยตอบไปว่ามัน personal (ส่วนตัว) อาจจะไม่สะดวก นางก็ตอบว่า ขอผมลองฟังแค่แปปเดียวได้มั้ย อยากรู้ว่าเสียงมันเป็นยังไง ชั้นก็แบบ ไม่สะดวกขอโทษนะคะ นางก็เดินไป”
เรื่องมันควรจบลงที่ตรงนี้ เธออธิบายความรู้สึกว่าตอนนั้นเธอมือสั่น เพราะชายคนนั้นเขามาใกล้มา ลักษณะเป็นผู้ชายผิวขาว หน้าตาเนิร์ดๆแล้วระหว่างที่ถามก็มองลอดแว่นตา
“กลัวมาก กลัวโดนต่อย” เธอโพสต์ข้อความยอมรับตรงๆ
“เสร็จไม่ถึง 30 วินาที ชั้นกำลังจะพิมพ์เล่าให้ตะวัน (เพื่อน) ฟัง มันเดินกลับมาถามว่า พี่ไม่เคยให้ใครยืมหูฟังเลยหรอ”
การถูกคุกคามด้วยท่าทาง คำพูดและพฤติกรรมครั้งที่ 2 แบบไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้เธอตกใจ
“นี่ก็บ้าจี้ตอบมันอีก บอกว่าไม่ แล้วมันก็ถามต่อ กับเพื่อนสนิทพี่ก็ไม่ให้ยืมหรอครับ”
“ไม่ค่ะ เราใช้ออกกำลังกายมันสกปรก”
“นี่คือการปฏิเสธใช้มั้ยครับ” นักศึกษาชายคนนั้นถามอีก
เธอบอกว่าในหัวตอนนั้นคือแบบ สึสสส..hia อะไรวะเนี่ย แต่ก็ตอบไปว่า
“ใช่ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
มาถึงตอนนี้หญิงสาวกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกถามคุกคามความเป็นส่วนตัวว่าจะเกรงใจชายคนนั้นทำไม แต่นักศึกษาคนนั้นก็น่ากลัวมาก เพราะเดินเข้ามาใกล้มากแล้วมองลอดแว่นเหมือนพยายามกดดัน
ก่อนที่ชายคนนั้นจะรุกด้วยคำถามอีกว่า
“ผมขอจับมือพี่ได้ไหม”
เจอคำถามนี้เข้าไปทำให้เธอตกใจมากขึ้นแล้วค่อยๆยื่นมือออกไป เธออธิบายว่าด้วยความที่ปฏิเสธนักศึกษาชายคนนี้มาตลอดจึงกลัวที่จะโดนทำร้าย
“แบบชั้นปฏิเสธมันมาเยอะมากเลยกลัวจะโดนทำอะไรเลยยื่นมือไปนิดนึง คิดตอนนี้ว่ากูบ้าป่ะให้มันจับทำไม” เธอโพสต์ข้อความบอก
“แล้วยังไม่จบ อีกอึดใจจะถึงสถานีรถไฟฟ้าสามย่าน มันถามอีกว่าราคาหูฟังแรงไหม ก็ตอบไปว่าไม่แรงๆๆๆ”
ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เธอเดินออกจากตัวรถไฟฟ้ากำลังจะรีบเดินหนี ชายคนนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า
“ผมเห็นพี่ใส่หูฟังยืนอยู่มันสวยมากครับ และพี่ก็สวยมากเหมือนกัน”
This is the creepiest shit I’ve heard in my -ucking life (นี่คือความน่าขยะแขยงที่สุดที่เคยได้ยินมาในชีวิตบัดซบของฉัน)
“ตอนนั้นคือหันไปยิ้มให้แล้วจ้ำอย่างเดียว ในใจคืออยากโทรหาตะวันมากๆๆๆๆ แบบมือสั่น ใจสั่น น่ากลัวสัสๆ” หญิงสาว โพสต์ข้อความ
เมื่อพูดถึงเหตุการณ์ “ถูกเข้าใกล้” ครั้งนี้เธอ เธอบอกว่า
“ในชีวิตนี้ปากเก่งมาตลอด แต่พอเจอของจริงคือแบบ ทำอะไรไม่ถูก ที่ไม่กล้าเดินหนี ไม่กล้าไม่ตอบ เพราะหน้าตาน้องเค้าตอนมองยังติดตาอยู่เลย แล้วเค้าเข้ามาใกล้มาก ตอนนี้คิดอย่างเดียวคือถ้ากูเจอมันอีกกูจะด่ามัน”
หลังจากที่เธอทวิตเล่าประสบการณ์ผ่าน X มีคนเข้ามาอ่านมากถึง 6.3 ล้านครั้ง และถูกรีโพสต์ไปอีกมากกว่า 4 หมื่นครั้ง
ทีพีคมากไปกว่านั้นคือ มีคนหนึ่งที่เคยเจอเหตุการณ์เดียวกับเธอ เข้ามาแชร์ประสบการณ์ระทึกด้วย โดยเป็นผู้ใช้ X บัญชี @wnrrsmr ซึ่งระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2567
“คือเมื่อวานนั่ง BTS กลับบ้านจากในเมือง รถค่อนข้างแน่น ละปกติเวลาขึ้นรถโดยสารจะชอบใส่หูฟังฟังเพลง จู่ๆก็มีคนสะกิด เลยหันไป นึกว่าเป้เราไปชนเขา หันไปเป็นนิสิตชายคนนึง ผอมๆ ไม่สูงมาก ใส่แว่น+แมสก์”
“น้องเขาก็ถามเราว่าหูฟังของอะไร เราเลยเปิดชื่อรุ่นให้ดู แล้วก็ใส่หูฟังต่อ สักพักสะกิดอีก บอกขอลองฟังได้ไหม อยากรู้คุณภาพเสียงเป็นไง เราค่อนข้างทำตัวไม่ถูก เลยให้ไป แล้วเขาก็พูดจาแปลกๆ บอกว่าพี่เลือกเพลงหรือสุ่มมาเลยนะ เพราะถ้าตัวเองเลือกจะbiased เราก็บอกว่าเราเปิดเพลงไว้อยู่”
“ตอนแรกก็นึกว่าจะฟังแปปเดียว แต่เขาถามเราว่าเราลงสถานีอะไร เราเลยบอกว่าอีกไกล เขาก็ตอบว่าหลักสองมั้ย เค้าลงหลักสอง ถ้าเราจะลงให้บอกเขา (จะใส่หูฟังต่อ) แล้วก็ชวนคุย ถามชื่อเรา พอเค้าแนะนำตัว เค้าก็ยื่นมามาเหมือนจะshake hand เราก็ไม่ได้จับ เค้าก็ยื่นมือมาอีกแล้วพูดว่า”
“ผมก็ฝึกเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน (เรื่องอะไร) แล้วสักพัก เราได้สติ เลยขอหูฟังคืน แล้วเค้าก็สะกิดเรา ชวนคุยเรื่องหูฟัง อย่างเช่น ซื้อที่ไหน ที่ช็อปโซนี่เลยหรอ ช็อปของโซนี่เลย เหมือนช็อปแอปเปิล อย่างนี้ใช่ไหม เราก็ตอบส่งๆ”
“อ่อใช่ ตอนที่เราได้หูฟังคืน เราก้มพิมพ์แชทบอกเพื่อน(เป็นภาษาเกาหลี กลัวมันอ่านออก) แล้วรู้สึกว่ามันจะถ่ายรูปเราด้วย แต่เราไม่กล้าพูด แพนิคมาก มือสั่นจนพิมพ์ไม่ได้ แล้วพอถึงสถานีนึง คนเริ่มออกไป เราเลยขยับหนีจากเขา เขาก็เดินตามมา แล้วยืนชิดมากๆๆ แบบแทบจะตัวติดกัน เราไม่เงยหน้าไปมองเลย แต่เค้าก็ชวนคุย(เรื่องหูฟังเหมือนเดิม) เช่น ซื้อออนไลน์ที่ช็อปของโซนี่เลยมั้ย บลาๆ เราตอบส่งๆหรือไม่ตอบเลย
แล้วสุดท้าย เขาก็ขอไอจีเรา บอกว่าจะเช็คร้านหูฟัง เราเลยบอกว่าไม่สะดวก พอเราบอกว่าไม่สะดวก เขาสวนทันทีเลยว่า “ขอเหตุผล” เราเลยตอบว่า เราไม่รู้จักกัน ไม่สะดวกให้ไอจีกับคนไม่รู้จัก จังหวะนั้นแพนิคมากๆ+รถจอดที่สถานีใหญ่พอดี เลยรีบวิ่งลงมาทั้งที่ยังไม่ถึงที่หมาย(กลัวมันตามมากๆๆ)”
ผู้หญิงที่ประสบเหตุคุกคามรายนี้สรุปสิ่งที่ได้เจอมาว่า
“คือไม่รู้เจตนา แต่แปลกมากๆๆ จริงๆไม่ควรไปคุยหรือให้ของอะไรไปแต่แรก แต่ตอนนั้นสมองมันว่างเปล่ามากๆจริงๆ”
นี่เป็นประสบการณ์แย่ๆ ของผู้หญิงที่ใช้ขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ นำมาแชร์เพื่อเป็นแนวทางในการจัดการกับเหตุเฉพาะหน้า
และโปรดอย่าลืมว่า ทั้ง MRT และ BTS มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปฏิบัติหน้าที่อยู่ทุกสถานี หากรู้สึกถูกคุกคามสามารถตะโกนเรียกหรือลงมาขอความช่วยเหลือได้ทันที
โฆษณา