เสี้ยวชีวิตหนึ่งที่รามคำแหง “R.U. Chorus” พ.ศ.2524-2527

อุทิศให้ “นักร้องประสานเสียงชมรมประสานเสียงรามคำแหง ปี 2524-27”
หลังจากผมจบ ม.ศ.5 ด้วยหน่วยกิตฉิวเฉียด ถ้าเอ็นทรานส์ได้ก็คงเป็นเรื่องตลก ถึงแม้เอ็นฯ ไม่ติดแต่ความที่อยากเรียนต่อมันมีแน่นอน แต่เนื่องจากสภาพการเงินไม่สะดวก ผมจึงเลือกเรียนที่ วอศธ. วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี ซึ่งเป็นสถาบันของรัฐ
ปัจจุบันอาชีวธนเปลี่ยนไปจากเดิมมาก
เราเรียกกันสั้นๆ ว่า อาชีวะธน เป็นวิทยาลัยเล็กๆ ตั้งอยู่กลางซอยจรัลสนิทวงศ์ 13 ระยะทางพอเดินเข้าไปไหว ถ้ารีบๆ ก็มีรถสองแถวนั่งเข้าไปได้ ผมเข้าไปเป็นนักศึกษาหลักสูตร ปวท.การตลาด (ประโยควิชาชีพเทคนิค) ปีการศึกษา 2524
ช่วงนั้นหนังสือนิยายรักนักศึกษาของศุภักษรกำลังดัง จึงเป็นแรงกระตุ้นให้อยากเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย หลังจากที่เรียนไปทำงานพิเศษไปพอมีเงินบ้างก็ไปสมัครเรียนที่ ม.รามคำแหง ได้บัตรนักศึกษามาสมใจ รหัส 2461... คณะรัฐศาสตร์
เคยมีทุกเล่ม Credit: วิษย์หนังสือเก่า
เชื้อดื้อไม่มีวันตาย จากการติดเชื้อ ”เก-เรียน” ตั้งแต่อยู่ ม.ศ. 1 ปี 2518 รวมถึงงานพิเศษที่ทำให้ขาดเรียนบ่อย แถมได้เข้าไปชิมรสชาติเด็กมหา’ลัยที่น่าหลงใหลเข้าไปอีก ทำให้ผมต้องใช้เวลา 4 ปีเพื่อจะให้เรียนจบอาชีวะธน ทั้งที่หลักสูตรปกติคือ 2 ปี จบหลังเพื่อนรุ่นเดียวกันถึงสองปี
ความน่าหลงไหลของชีวิตมหา’ลัยรามคำแหงก็คือ....... R.U. Chorus….
...พ่อกูขุนศรี แม่กูนางเสือง ลูกหลานเต็มเมือง R.U. Chorus….
ต้นปี 2524 ผมยังตั้งใจเรียนอยู่ที่อาชีวะธนอยู่ เก็บหน่วยกิตได้บ้าง แต่พอเริ่มเข้าปีที่สองของการเรียน ผมก็ตั้งใจ drop เรียนไปเลยที่อาชีวะธน ได้ทำงานพิเศษบ้าง แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับชมรมขับร้องประสานเสียง หรือ R.U. Chorus ในฐานะหนึ่งในนักร้องเสียง Bass คุณภาพต่ำ
ด้วยอิทธิพลของหนังเรื่อง “รักเอย” ของท่านทิพย์ ที่มีเพลงประสานเสียงของจุฬาฯ อยู่หลายเพลง ทำให้ผมมีความฝันว่าจะได้เข้าจุฬาฯ เพื่อจะได้เป็นนักร้องประสานเสียง
เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตที่ไปดูคนเดียว
วันหนึ่งในปี 2524 ผมตรงไปสมัครเป็นนักร้องประสานเสียงที่ชมรมฯ ที่ตึกกิจกรรม น่าจะเป็นชั้นสาม มีการทดสอบระดับเสียงกับเปียโนและให้ผมอยู่ในกลุ่มเสียง Bass
ชมรมฯ ได้จัดอบรมทฤษฎีดนตรีเรียกว่า Music Camp ที่ค่ายริมทะเล ประจวบฯ หรือที่ไหนสักแห่ง ผมไปอบรมกับเขาด้วยแต่ก็ไม่ได้เข้าเรียนกับเขา ทำทีเป็นถ่ายรูปไปทั่ว และที่ค่ายก็ได้เจอเพื่อนใหม่อันเป็นจุดเริ่มของ แก๊ง”แสนซน”
หัวหน้าแก๊งโดยพฤตินัยคือ ตู่-มณฑิรา มัธยมจันทร์ มาพร้อมเพื่อนซี้จากเตรียมอุดมด้วยกันคือ เอิร์ธ-นุชนารถ รอดโพธิ์ทอง และกลุ่มก็ค่อยๆ โตชึ้นตามเวลาที่ผ่านไป จนได้ราว 10-15 คน
สารตั้งต้นแก๊งแสนซน  ถ่ายที่ Music Camp
แก๊งนี้ประกอบด้วย ตู่, เอิร์ธ, ผม, เตี้ย-สมมาด น้อยมณี, ปุ้ม-ปรเมษ เกิดอินทร์, ตั๊ก(พี่ชายตู่)-ศุภพล มัธยมจันทร์, เจี๊ยบและเจ้าสองพี่น้อง-มณฑนีย์-นภาวรรณ โรจนเวทย์, นกชาย, นกหญิง, จิ๋ม-จุฑาพร ลีลาวัฒนา, เดฟ, หน่อย, ติ่ง และมีอีกสี่ห้าคนที่จำไม่ได้ บางคนก็เป็นสมาชิกถาวร บางคนก็ขาดประชุมบ่อย
ในเวลากลางวันแก๊งนี้จะซ่องสุมกันอยู่ที่ห้องชมรมฯ มีซ้อมกันบ้างตามคำสั่งรุ่นพี่ ส่วนตอนเย็นๆ มักจะยกขบวนจากรามฯ ไปตี้กันที่บ้านของตู่ที่บางไผ่ ที่นั่นอุดมสมบูรณ์ทำให้ผมหายจากบ้านได้ทีละหลายวันโดยกินนอนอยู่ที่นั่น มีการตั้งวงเหล้ากันบ้างที่บ้านของปุ้มที่ห่างจากบ้านตู่ไม่กี่ร้อยเมตร พวกเราจะกินเหล้ากันเฉพาะกลุ่มผู้ชาย เหล้ายากับแกล้มก็หากันแถวนั้น
ถ้าอยู่ที่บ้านตู่ก็จะเป็นการคุยกัน แถมมีเครื่องดนตรีเล่นกันเป็นวงได้เลย ช่วงนั้นเท่าที่จำได้ก็จะเล่นเพลงของฟรีเบิร์ด ตั๊กกับปุ้มเป็นนักกีตาร์ที่ฝีมือใช้ได้เลย ถ้าอยู่บ้านก็จะมีน้องเติ๊ด-คฑาวุธ น้องคนที่สามมาแจมด้วย ส่วนน้องติ๊ดยังเล็กเกินไปก็แค่โผล่มาน่ารักๆ
อยู่บ้านตู่นั้นสบายกว่าบ้านตัวเองเยอะ นอนกันระเกะระกะ เวลากินก็ได้รับการสนับสนุนจากคุณแม่ที่ขนซื้อของกินมามากมายบำเรอพวกลูกๆ แม้แต่เครื่องทำโซดาแบบอัดแก๊สก็มีให้ใช้ กินนอนอยู่ที่นี่แม้กระทั่งช่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ บ้านผมอยู่ดาวคะนองก็ท่วมแต่ไม่กลับบ้าน วิดน้ำอยู่ที่บ้านบางไผ่นี่แหละ
ชีวิตก็วนเวียนอยู่ บางไผ่-วอศธ.-รามฯ-ดาวคะนอง กลับบ้านไปเอาชุดบ้าง ไม่มีชุดก็ยืมตั๊กใส่ จนกระทั่งผมมีแฟนก็เริ่มห่างจากบางไผ่แต่ก็ยังคงไปพบปะกับแก๊งที่ชมรมฯ เสมอ
น่าจะราวกลางปี 2524 ทางชมรมฯ ได้จัดทำเทป”แสงทองที่ราม” ซึ่งผมไม่ได้เข้าร่วมด้วยเพราะยังติดเรียนและทำงานอยู่ หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เห็นการออกเทปของชมรมฯ อีกเลย
23 พฤศจิกายน 2524 คณะนักร้องของชมรมฯ ก็มีการไปร้องออกช่อง 9 วัน”ครบรอบ 10 ปี ม.ร.” อาจจะเป็นการร้องสด ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนกว่า เท่าที่จำได้มีเพลง แสงทองที่ราม, รามคู่ฟ้า, เด่นพระนาม ผมยังใส่ชุดนักศึกษาอาชีวะธนไปร้องกับเขาด้วย
ที่ช่อง 9
4 กุมภาพันธ์ 2525 ผมอาสาไปถ่ายรูปให้การแสดงของชมรมฯ ชื่อ Chorus on Stage ’82 ถ่ายไป 1 ม้วน วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เจอแฟนคนแรกที่ตอนหลังก็มาเข้าแก๊งแสนซนด้วย
Chorus on Stage '82  - 4 กุมภาพันธ์ 2525
สมาชิกชมรมฯ ที่เกาะกันเป็นกลุ่มอีกกลุ่มก็คือกลุ่ม “ศรีอยุธยา” ประกอบด้วย จั้น-วไลพร พรชวโรจน์, ตุ่ม-สุกัญญา,โบ๊ะ-วรรณี อรุณกมลศรี, ก้อน-ก้อนทอง รุ่งไพรวัลย์, ติ๋ม-กมลวรรณ, เจี๊ยบ,... และก็กลุ่มสวนกุหลาบ มี พี่โอ-โอฬาร พงษ์เผ่าไทย, พี่ตั้ว, พี่อัด, พี่ลพ, พี่เล็ก
พวกที่ไม่เป็นกลุ่มแต่เป็นขาประจำคือ พี่นู(ประธานชมรมฯ), พี่แมน, พี่พล, พี่เป๋ง, พี่ด้วง, พี่เก๋(สุรสิงห์ สบายเมือง)+พี่แมว, พี่ไหว+พี่น้อง, พี่นง, เจี๊ยบ, น้อง, มล, พี่เป้า, พี่จิ๋ม, พี่จ๋า, พี่เซียะ, ปิ๊ก, เตย, พี่เปรี้ยว, พี่เอก, ต่อ-สาธิต ศรีศุภวินิช, เอื้อม-เอื้อมอัมพร ตั้นจาด, หยุ่ม, ควีน-ฐิติภัทรา. .... ตอนหลังมีพี่พรชัยมาเป็นประธานชมรมฯ
4 ธันวาคม 2525 ตอนกลางวันผมไปชมรมฯ เจอพวก ศ.อ. ได้บอกเขาว่าคืนนี้จะไปงานเลี้ยงบนเรือของวิทยาลัยพยาบาลเกื้อการุณย์ เพราะผมมีเพื่อนที่เรียนมัธยมปลายหลายคนเรียนอยู่ที่นั่น ผมจะไปกับแก๊งมัธยมของผม พวก ศ.อ.ก็บอกว่าเขาก็มีเพื่อนคนนึงเป็นพยาบาลอยู่ที่นั่นให้ผมไปทักได้ ซึ่งผมก็คิดว่าจะต้องไปหาแน่ แต่ไม่ได้คิดไปจีบเพราะกำลังจีบสมาชิกแก๊งแสนซนคนหนึ่งอยู่
ไม่รู้บุญหรือกรรม... คืนนั้นพอผมไปถึงงานสักพักก็เริ่มมองหาสาว ศ.อ.คนที่คิดจะทักว่าจะแนะนำให้เพื่อน แต่ก็สายไปแล้ว ..... ผมพบว่าเพื่อนผมคนนั้นมันกำลังคุยอยู่กับสาวฟันกระต่ายร่างกะทัดรัดคนนึงอยู่ เธอคนนั้นอยู่กับเพื่อนสาวผมสั้นตัวบางๆ คล้ายทอมซึ่งกำลังยืนทำตัวไม่ถูก เพื่อนผมก็โยนมาให้ผมรับผิดชอบชวนเธอคุยเพื่อมันจะได้จีบสะดวก ซึ่งสาวคนที่เพื่อนผมกำลังคุยอยู่นั้นก็คือคนที่กลุ่ม ศ.อ. ที่รามฯ แนะนำให้ไปทักนั่นเอง บังเอิญเหลือเกิน
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ มันและสาวคนนั้นก็ผ่านช่วงเวลาทุลักทุเลทุรนทุรายจนมีลูกสาวมา 1 คน ส่วนสาวทอมคนนั้นก็ได้แฟนที่เรียนรามฯ เหมือนกันและมีลูกสาวสองคนที่น่ารักและอารมณ์ดีมาก และเธอก็ยังเป็น “โคตรเพื่อน” ของผมมาจนถึงปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ถึงผมจะเข้าเป็นสมาชิกชมรมฯ แล้วแต่ก็ยังไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมเพราะยังติดเรียนอยู่ที่อาชีวะธนและมีการทำงานพิเศษ แต่พอต้นปี 2526 ผมก็ drop เรียนที่อาชีวะธนและเริ่มเข้ามาร่วมกิจกรรมบ่อยขึ้นมาก
15 กุมภาพันธ์ 2526 มีการแสดงที่เกษตร แก๊งแสนซนก็ยังเป็นกลุ่มก้อนเข้าร่วมกิจกรรมเหมือนเดิม ตอนนั้นทั้งแก๊งแสนซนและแก๊ง ศ.อ. ก็เริ่มมีแฟนกันประปราย ที่ยังไม่สำเร็จก็เริ่มใกล้ความจริงไปเรื่อยๆ
ภาพวันซ้อมและวันแสดงจริง
17 กุมภาพันธ์ 2526 ที่ชมรมฯ ได้จัดรถพาไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ไปกันกี่คันจำไม่ได้ ราว 50 คน เริ่มจับคู่กันแล้ว
น้ำตกเอราวัณกำลังหวาน
28 กุมภาพันธ์ 2526 แก๊งแสนซน+กลุ่มชมรมศิปะการแสดงรามฯ ไปแสดงจินตลีลาเฉพาะพระพักตร์ถวายสมเด็จพระเทพฯ ที่โรงละครแห่งชาติ เพื่อการกุศลให้มูลนิธิสายใจไทย จัดโดย คุณอาฉลอง วัยวุฒิ เล่น 2 รอบ บ่ายสองโมง และ 19.30 น. งานนี้ภูมิใจมากโม้ไปนานเลย
ภาพระหว่างการแสดงและหลังจากแสดงรอบแรกก็เดินไปท่าพระจันทร์หาของกินขณะที่หน้าจัดเต็มเพราะยังต้องแสดงอีกรอบหนึ่ง
จากนั้นถึงช่วงปี 2527 ก็มีการแสดงย่อยๆ หลายครั้ง ที่จำได้ก็มีการไปร้องที่ ม.ศ.ว. – เทคโนพระจอมเกล้า - งานแต่งงาน - งานคริสต์สมภพ .....
การแสดงอีกหลายงาน
ช่วงปี 2527 เป็นช่วงที่ความรักสุกงอมของใครหลายคน ทุกกลุ่มแก๊งก็เริ่มคลายความเหนียวแน่นเพราะแยกกันไปมีโลกส่วนตัว จะมาเจอกันที่ชมรมก็แล้วแต่ความต้องการของชมรมฯ ในการจัดงานหรือใช้เป็นสถานที่นัดพบ
ความรักของผมก็สุกงอมเช่นกัน .... จนกระทั้งหล่นจากขั้วในปี 2528 ทำให้ขาดการติดต่อจากเพื่อนที่ชมรมฯ ไปเลย ผมกลับไปมีโลกใหม่กับสาวคนใหม่ ไปกระเสือกกระสนเรียนอาชีวะธนจนจบในปีที่ 4 จากหลักสูตรสองปี ไปเคร่งเครียดกับตำรา ม.ส.ธ.ที่บางวิชาแทบจะขว้างทิ้งเพราะเป็นการเรียนด้วยตัวเอง จนกระทั่งจบ ม.ส.ธ.ในปี 2530
ผมอยากเขียนบทความนี้เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่มีความสุข อยากให้เวลาหาชื่อเพื่อนในกูเกิ้ลแล้วได้ข้อมูลออกมา อยากให้เมื่อเวลาหาข้อมูล R.U. Chorus เมื่อสี่สิบกว่าปีแล้วได้ข้อมุลนี้ออกมา จึงพยายามเขียนชื่อจริงของเพื่อนให้มากที่สุดเท่าที่จำได้ และอยากได้มีโอกาสติดต่อกับเพื่อนเก่าๆ บ้าง
.....ก่อนกลับดาว.....
โฆษณา