มุมมองการลงทุน หลัง “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ
การเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา - มีกลไกอย่างไร?
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประจำปี 2024 (ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน) เป็นการแข่งขันทางการเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และผลของการเลือกตั้งจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดีระหว่าง กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต และ โดนัลด์ ทรัมป์ (อดีตประธานาธิบดี) จากพรรครีพับลิกัน รวมถึงผู้สมัครอิสระอีก 4 คน
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละรัฐ รวมถึงในเขตโคลัมเบีย จะลงคะแนนเสียงให้กับกลุ่มคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) (ที่ให้คำมั่นสัญญากับผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีรายใดรายหนึ่งว่าจะสนับสนุน) หลังจากนั้น คณะผู้เลือกตั้งจะลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 4 ปี
ทั้งนี้ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับคะแนนเสียงข้างมากภายในรัฐจะสามารถรวบรวมเสียงของคณะผู้เลือกตั้งที่จัดสรรไว้แล้วได้ทั้งหมด โดยในคณะผู้เลือกตั้ง มีตัวแทนทั้งหมด 538 คน โดยผู้แทนแต่ละคนจะมีสิทงคะแนนเสียง 1 เสียง ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป นอกจากนี้ ผู้สมัครจำเป็นจะต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากจากคณะผู้เลือกตั้ง (หมายถึง 270 คะแนนขึ้นไป)
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับคะแนนเสียงข้างมาก สภาผู้แทนราษฎรจะจัดการเลือกตั้งฉุกเฉินขึ้นมาเพื่อเลือกสรรประธานาธิบดี และฝ่ายวุฒิสภาจะจัดการเลือกตั้งฉุกเฉินขึ้นมาเพื่อเลือกสรรรองประธานาธิบดี หลังจากนั้น ในวันที่ 20 มกราคม 2025 ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่ง (วันเข้ารับตำแหน่ง)
การเลือกตั้งสหรัฐฯ ในครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อรัฐสภา โดยทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรต่างพร้อมใจร่วมชิงชัย อัตราการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อายุน้อย และใน 7 รัฐสำคัญ (ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน) ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการกำหนดผลการเลือกตั้ง
เดโมแครต ปะทะ รีพับลิกัน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ไบเดนจากพรรคเดโมแครตยุติการรณรงค์หาเสียง ภายหลังจากที่ผลการดีเบตล้มเหลว กมลา แฮร์ริส จึงได้เสนอชื่อตนเองเป็นผู้ชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดี จนในที่สุด ผู้แทนพรรคก็ได้เลือกเธอให้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2024
พรรคเดโมแครตเป็นพรรคการเมืองเสรีนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องการสนับสนุนสิทธิพลเมือง ระบบสวัสดิการสังคมที่กว้างขวาง และการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กมลา แฮร์ริส ได้พยายามสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการวางตัวเองให้เป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพและการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง
ในทางตรงกันข้าม พรรครีพับลิกันเป็นพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมที่สนับสนุนการลดภาษี ลดขนาดของรัฐบาล และลดสิทธิในการถือปืน นโยบายที่ทรัมป์ชื่นชอบ ได้แก่ นโยบายที่เกี่ยวกับผู้อพยพโดยเขาสนับสนุนการปิดพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และ เม็กซิโก และใช้จุดยืนที่แข็งกร้าวในการจับกุมและส่งผู้อพยพที่ไม่มีใบอนุญาตกลับประเทศ รวมถึงการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าจีนในอัตราที่สูง (ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นได้)
โดนัลด์ ทรัมป์ ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่
โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งมากกว่า 270 เสียง ที่จำเป็นในการคว้าตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งดีขึ้นกว่าผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ทั้งในรัฐที่คนส่วนใหญ่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน และในรัฐที่คนส่วนใหญ่สนับสนุนพรรคเดโมแครต
อีกทั้งยังสามารถรวบรวมเสียงจากรัฐที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งอย่างชัดเจนด้วย (swing state) ในขณะที่ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ พร้อมให้คำมั่นว่าจะถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ
มุมมองการลงทุนของ AIA
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของพรรครีพับลิกัน ตลาดหันกลับมาเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง โดยหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นและหุ้นขนาดเล็กมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่า ในทางกลับกัน หุ้นจีนอ่อนตัวลงเนื่องจากคาดว่าจะมีการขึ้นภาษีจากโยบายของทรัมป์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ด้วยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินไปอย่างเต็มที่ การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงจะค่อยๆ ชะลอตัวลงจากระดับที่สูงในปัจจุบันไปจนถึงปี 2025 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าหรือใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตตามศักยภาพ (Potential growth)
ข้อเสนอด้านนโยบายของทรัมป์เกี่ยวกับภาษีศุลกากร การลดภาษี และการควบคุมการเข้าเมืองผิดกฎหมาย (ตามลำดับเวลาที่อาจดำเนินการได้) มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อในระยะสั้นและระยะกลาง ผลกระทบต่อเงินเฟ้อจะขึ้นอยู่กับว่าห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกปรับตัวเข้ากับภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นได้เร็วเพียงใด และมาตรการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายมีประสิทธิภาพเพียงใด ความไม่แน่นอนด้านนโยบายในสหรัฐฯ และทั่วโลก (โดยเฉพาะในยุโรปและจีน) จะเป็นปัจจัยกำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปี 2025
เรายังคงมุมมองพื้นฐาน (baseline) ว่า Federal Reserve (Fed) อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธันวาคม เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งทำให้ Fed มีเวลาปรับนโยบายและเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางก่อนที่นโยบายใหม่ของรัฐบาลจะมีผลบังคับใช้
การประมาณการอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่เป็นกลาง (neutral rate) ของเราคือ 3.50%-4.00% Fed มีแนวโน้มที่จะหยุดชั่วคราวก่อนหรือเมื่อถึง 4.00% หรือขีดจำกัดบนของช่วงอัตราที่เป็นกลาง (น่าจะเป็นในไตรมาส 1 ปี 2025) เพื่อยึดเหนี่ยวความคาดหวังเงินเฟ้อ
เรายังคงชื่นชอบหุ้นทั่วโลกจากมุมมองพื้นฐาน
• จากชัยชนะอย่างถล่มทลายของทรัมป์ ตลาดหุ้นได้เปลี่ยนกลับไปสู่สถานะเปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง เรากำลังมองหาโอกาสในการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดที่พัฒนาแล้ว (DM) นโยบายสนับสนุนการเติบโตของทรัมป์ เช่น การลดภาษี การยกเลิกกฎระเบียบในบางกลุ่มธุรกิจ และการเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านนโยบายแบบขาดดุล มีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ต่อบางกลุ่มธุรกิจ
เช่น พลังงานและการเงิน สิ่งนี้อาจนำไปสู่การขยายหุ้นไปในหลายๆ กลุ่มธุรกิจและภูมิภาคต่างๆ แม้ว่ามุมมองระยะกลางที่ดีต่อผลกำไรของบริษัทจะยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ ช่วงเวลาของความผันผวนของตลาดอาจให้จุดเริ่มต้นที่ดีกว่าสำหรับการลงทุน อย่างไรก็ตาม หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าปฏิกิริยาเริ่มต้น เราอาจเห็นการชะลอตัวของการปรับตัวขึ้นของหุ้นในปัจจุบัน
• สำหรับหุ้นเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นและจีน: เรามองในแง่ดีอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการประกาศมาตรการการคลังที่สำคัญจากทางการจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เรายังคงระมัดระวังเกี่ยวกับความไม่แน่นอนที่เกิดจากสื่อสารของทรัมป์และการตอบสนองของจีน
แม้ว่าโดยปกติเราจะให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นด้วยการลดน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้โลก แต่เราชอบที่คงอายุของตราสารหนี้ภายในพอร์ตการลงทุนของเราในระดับที่เป็นกลาง (neutral duration) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
• เนื่องจากส่วนต่างด้านเครดิตของตราสารหนี้ระดับลงทุน(investment-grade credit spreads) อยู่ในระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์ เราจึงเลือกที่จะลดน้ำหนักการลงทุนในเครดิตมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรากำลังลดน้ำหนักในตราสารหนี้ระดับลงทุนและตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง (high-yield bond) ในขณะที่ยังคงเพิ่มน้ำหนักในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
ปฏิกิริยาของตลาดหลังการเลือกตั้งสอดคล้องกับแนวโน้มที่เราได้สังเกตเห็นเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระยะยาว (10 ปีและ 30 ปี) เพิ่มขึ้นทั่วกระดาน ผลกระทบด้านงบประมาณของแผนการคลังของทรัมป์ ควบคู่ไปกับภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้นและอัตราผลตอบแทนชดเชยกับระยะเวลา (term premium) เพิ่มสูงขึ้นในเส้นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ อาจผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวสูงขึ้นไปอีก ซึ่งอาจมีโอกาสที่น่าสนใจในการกลับเข้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว
แหล่งข้อมูล: “Special Fund Insights: การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ปี2024) โดย AIA Investments และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป ผู้ใช้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ด้วยตนเอง
เริ่มวางแผนการเงินระยะยาว กับบริการผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลการลงทุน AIA InvestPro และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ที่เหมาะกับคุณได้แล้ววันนี้
ติดต่อตัวแทน เอไอเอ หรือดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.aia.co.th/th/our-products/save-invest/unit-linked
คำเตือน:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจรายละเอียด เงื่อนไข ความคุ้มครองและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย รวมทั้งศึกษาทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
• ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตาม Community AIA Thailand ได้ที่ https://www.blockdit.com/aiathailand
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
