15 พ.ย. เวลา 01:11 • ประวัติศาสตร์

วันเพ็ญเดือนสิบสอง วันที่พระสารีบุตรนิพพาน

วันนี้เป็น วันเพ็ญเดือนสิบสอง
หลายคนอาจนึกถึงวันลอยกระทง
แต่ทราบไหมว่าวันนี้ยังเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญอีกด้วย
เพราะเป็นวันที่พระสารีบุตรละสังขารสู่นิพพานเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน
1
พระสารีบุตร เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า
ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศกว่าพระภิกษุทั้งปวงในด้านสติปัญญา
นอกจากนี้พระสารีบุตรยังมีคุณธรรมในด้านความกตัญญู และการบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่พุทธศาสนา จึงมีคำยกย่องท่านว่าเป็น “ธรรมเสนาบดี” หรือ “แม่ทัพธรรม” คู่กับพระพุทธเจ้าที่เป็น “ธรรมราชา”
1
แรกเริ่มเดิมที่พระสารีบุตรท่านมีชื่อว่า “อุปติสสะ” เป็นบุตรของนาง “สารี” ครั้นเมื่อท่านได้อุปสมบท จึงได้ชื่อว่า “พระสารีบุตร” หรือแปลตรงตัวว่า “บุตรของนางสารี” อย่างที่เราได้ยินกัน
สาเหตุที่พระสารีบุตรได้รับการยกย่องเรื่องความกตัญญูอันเนื่องมาจาก
วันหนึ่งในช่วงบั้นปลายชีวิตนั้น พระสารีบุตรได้พิจารณาเห็นว่าอายุสังขารจะอยู่ได้อีกเพียง 7 วัน
ท่านนึกถึงมารดา โดยนางสารีเป็นมารดาของพระอรหันต์ถึง 7 องค์ มีลูกชายสี่คน คือ พระสารีบุตร พระจุนทะ พระอุปเสน พระเรวัตตะ และมีลูกสาวอีกสามคน คือ นางจาลา อุปจาลา และสีสุปจาลา ซึ่งล้วนออกบวชในบวรพุทธศาสนาและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ทุกองค์
2
แต่ทว่านางสาลีกลับไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเลย ซ้ำยังมีความขัดเคืองในพระพุทธศาสนา ด้วยเพราะลูกของเธอทั้ง 7 คนได้สละทางโลกเข้ามาบวชใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนาและสำเร็จเป็นพระอรหันต์จนหมด ทำให้นางสารีไร้ผู้สืบสกุล
พระสารีบุตรจึงปรารถนาจะไปโปรดนางสารีผู้เป็นมารดา ที่ยังเป็นมิจฉาทิฎฐิอยู่ ท่านอยากช่วยให้มารดาได้ตื่นรู้มองเห็นความจริงก่อนที่ท่านจะนิพพาน จึงขอกราบทูลลาพระพุทธเจ้าเพื่อจะไปโปรดมารดาและนิพพานที่บ้านเกิด
เมื่อท่านไปถึงบ้านเดิมแล้ว พระสารีบุตรได้อาพาธและได้เกิดปักขันทิกาพาธขึ้นในคืนนั้น ทันใดนั้น ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท้าวสักกะ และท้าวมหาพรหม ก็ได้เสด็จลงมาเข้าเยี่ยมท่านเป็นครั้งสุดท้าย มารดาได้เห็นเข้าจึงถามพระสารีบุตรว่าบุคคลที่มาเยี่ยมท่านเป็นใคร
พระสารีบุตรจึงตอบไปว่าเป็นท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท้าวสักกะ และท้าวมหาพรหม ก็ทำให้มารดาคิดว่า บุตรชายคนโตของตนมีอานุภาพมาก ขนาดทำให้เหล่าเทวดาและพรหมที่เชื่อว่าเป็นเทพสูงสุดในศาสนาพราหมณ์ต่างก็มาไหว้ และพระพุทธเจ้าที่เป็นพระศาสดาของบุตรชายคนโตของตนจะมีอานุภาพขนาดไหน ทำให้จิตของมารดาน้อมไปในทางพระพุทธศาสนา
พระสารีบุตรเห็นดังนั้นก็ได้เทศนาโปรดมารดา จนนางสารีได้บรรลุโสดาบัน การที่บุตรได้ชักนำบุพการี ให้นับถือพระรัตนตรัย เป็นสรณะ จนได้มรรคผล นับเป็นการตอบแทนคุณอย่างยอดเยี่ยม นางสารีเป็นผู้ให้กำเนิดพระสารีบุตรในทางโลก ส่วนพระสารีบุตรก็เป็นผู้ให้นางสารีตื่นรู้ในทางธรรม คืนนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนสิบสอง หลังจากนั้นพระสารีบุตรก็ปรินิพพานในห้องที่ท่านเกิด
รุ่งขึ้นพระจุนทะ ผู้เป็นน้องได้ทำฌาปนกิจสรีระพระสารีบุตรเสร็จแล้วเก็บอัฏฐิธาตุ นำไปถวายพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี พระพุทธองค์โปรดให้ก่อเจดีย์ บรรจุอัฏฐิธาตุของพระสารีบุตร ไว้ ณ ที่นั้น
1
ด้วยเหตุนี้วันเพ็ญเดือนสิบสองนอกจากจะเป็นวันลอยกระทงแล้ว ยังเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจึงควรระลึกถึงคุณงามความดีของพระสารีบุตรทั้งในทางโลกเรื่องความกตัญญู และในทางธรรม รวมทั้งรักษาศีลภาวนาและสำรวมกายใจตัวเองให้บริสุทธิ์กันด้วยครับ
1
โฆษณา