พอดีผมไปโพสต์ใน thaivi เลยขอแปะไว้ที่นี่ด้วยนะครับ
สวัสดีครับขอแชร์เพิ่มเติมเรื่องค่าเงินบาทกับผลกระทบต่อ SVI เล็กน้อยนะครับ
SVI ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งออกเป็นหลัก หลายคนอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่าค่าเงินบาทมีความผันผวนสูง และส่งผลกระทบโดยตรงต่องบการเงินของบริษัทกลุ่มนี้ แต่จริงๆ แล้วยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่น่าสนใจอีกมาก โดยเฉพาะเรื่อง "สินค้าคงคลัง" ครับ
สินค้าคงคลัง: ตัวแปรสำคัญที่ควรมอง
SVI มีสินค้าคงคลังมูลค่าราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าวัตถุดิบเหล่านี้ถูกซื้อมาในช่วงเวลาต่างๆ และมีต้นทุนที่แตกต่างกันไปตามค่าเงินบาท ณ ขณะนั้น เมื่อค่าเงินบาทผันผวนอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ผ่านมา จึงเกิดผลกระทบสำคัญ 2 ประการ ดังนี้
* ต้นทุนขายสูงขึ้น: หากบาทแข็งค่าขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่ซื้อไว้ก่อนหน้า (ณ ตอนที่บาทอ่อน) เมื่อนำมาคิดเป็นต้นทุนขายในไตรมาสปัจจุบัน จะทำให้ต้นทุนขายสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากบาทอ่อนค่าลง ต้นทุนขายก็จะลดลง
* รายได้ลดลง: รายได้จากการส่งออกที่เป็นเงินดอลลาร์ เมื่อแปลงเป็นเงินบาท ณ ขณะที่บาทแข็งค่า จะทำให้รายได้ในสกุลเงินบาทลดลงครับ
ผลกระทบทั้ง 2 ข้อนี้ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของ SVI ในไตรมาสที่ผ่านมา ต่ำกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัดเลยครับผม
สถานการณ์ค่าเงินบาท และแนวโน้มงบการเงิน SVI
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นครับ! เรามาดูกันว่า หากสถานการณ์ค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงไป จะส่งผลต่องบการเงิน SVI ในไตรมาสต่อๆ ไปอย่างไร
* บาทแข็งค่าต่อเนื่อง: ต้นทุนขายจะค่อยๆ ปรับตัวลดลง (เพราะซื้อวัตถุดิบด้วยบาทที่แข็งค่าขึ้น) แต่รายได้ก็ยังคงได้รับผลกระทบ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยังต่ำกว่าปกติ แต่ไม่รุนแรงเท่าไตรมาสที่ผ่านมา
* บาทอ่อนค่าลง: SVI จะได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะต้นทุนขายจะต่ำลง (จากวัตถุดิบที่ซื้อไว้ตอนบาทแข็ง) และรายได้ก็สูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอย่างผิดปกติ
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงแรงและ เร็ว ดังนั้น หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ผมเชื่อว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ SVI ในไตรมาส 4 จะดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้พอสมควรครับ
ยังไงรอติดตามค่าเงินแล้วก็ดูงบการเงินในไตรมาสถัดๆไปกันครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
