21 พ.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา

อิสราเอลกำลังใช้ความหิวโหยเป็นเครื่องมือในการทำสงคราม

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลง “ถึงเวลายุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา”
ในเวลาท้องถิ่นวันที่ 13 แอนโทนี บลิงเคน ( Antony John Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ NATO ในกรุงบรัสเซลส์ พร้อมประกาศว่า
อิสราเอลบรรลุเป้าหมายในความขัดแย้งในฉนวนกาซาแล้ว และนี่ก็ถึงเวลายุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา
1
เกี่ยวกับคำแถลงของบลิงเกน อัลจาซีรา(Al Jazeera)กลับได้ให้ความเห็นว่า
ในขณะที่สหรัฐฯ อ้างว่ากำลังส่งเสริมการยุติสงคราม แต่ยังคงดำเนินนโยบายให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่อิสราเอลต่อไป
บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า อิสราเอลบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ตามมาตรฐานของตนเอง โดยทำลายความสามารถทางทหารของฮามาสโดยสิ้นเชิง
และกำจัดผู้นำฮามาสที่วางแผนโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว และนี่ก็ถึงเวลายุติสงครามแล้ว
1
นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่านับตั้งแต่การปะทุของความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอลรอบปัจจุบัน
บลินเกนได้ไปเยือนตะวันออกกลางหลายครั้งเพื่อเข้าร่วมในสิ่งที่เรียกว่า "การไกล่เกลี่ย"
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสหรัฐฯ (ทำเป็นเหมือน)มีอคติต่ออิสราเอลอย่างต่อเนื่อง การเจรจาหยุดยิงจึงคืบหน้าได้ยาก
2
การวิเคราะห์ของอัลจาซีราชี้ให้เห็นว่าในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ อ้างว่ายุติสงครามแล้ว แต่ความช่วยเหลือทางทหารต่ออิสราเอลยังไม่หยุดลงซักกะนิด...
1
อาเดล กัฟฟาร์(Adel Ghaffar) ผู้อำนวยการโครงการนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสภาตะวันออกกลางเพื่อกิจการระดับโลกในกาตาร์กล่าวว่า
Blinken เคยไปตะวันออกกลางอย่างน้อย 11 ครั้งในปีที่ผ่านมา และได้พบกับผู้นำของประเทศในตะวันออกกลาง
ดูเหมือนว่า เขาได้พยายามแล้ว ในการผลักดันอิสราเอลให้ยุติสงคราม
แต่จนถึงขณะนี้ ไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
แต่สหรัฐฯ ยังสนับสนุนอิสราเอลในด้านนโยบายต่างประเทศ และยังคงจัดหาอาวุธและการสนับสนุนทั้งทางการเงินและอาวุธต่อไป
จนชาวเน็ตต้องออกมาตะโกนว่า... นี่เป็นคำกล่าวหน้าซื่อใจคดของสหรัฐอเมริกาเช่นเคย
1
ชาวเน็ตบางคนถามว่า "รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่า 'ถึงเวลายุติสงครามแล้ว' แต่ทำไมคุณถึงยังจัดหาอาวุธให้อิสราเอลอีก"
2
"นี่เป็นคำกล่าวที่หน้าซื่อใจคดของสหรัฐฯ "
ชาวเน็ตบางคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า "สหรัฐฯ สูญเสียความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว" และ ชาวเน็ตอีกคนตอบทางด้านล่างความคิดเห็นนี้ว่า "มันสูญเสียความน่าเชื่อถือไปนานแล้ว"
ในความเป็นจริง เพียงวันก่อนที่บลินเกนจะกล่าวสุนทรพจน์นี้ (วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567) ปาเทล(Patel) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็กล่าวเช่นกันว่า
อิสราเอลมีความคืบหน้าในการปรับปรุงวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา และนโยบายความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ปาเทล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเสริมอีกว่า เราได้เห็นความคืบหน้าบางอย่างแล้ว และหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม
Adel Ghaffar ผู้อำนวยการโครงการนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสภาตะวันออกกลางเพื่อกิจการระดับโลก กาตาร์ กลับกล่าวย้ำว่า
ดังที่เราได้เห็นในฉนวนกาซา อิสราเอลกำลังใช้ความหิวโหยเป็นเครื่องมือในการทำสงคราม ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมสงครามในระดับหนึ่ง
1
แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ยังคงให้ความคุ้มครองทางการฑูตนี้ต่อไป แต่สถานการณ์ปัจจุบันในฉนวนกาซาบ่งบอกถึงความเป็นตัวมันเองได้ไปในตัวอยู่แล้ว
ในขณะที่ เด็กและทารกในฉนวนกาซากำลังอดอยาก และไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้ ทางอิสราเอลกลับเสนอเงินรางวัล 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้ช่วยเหลือตัวประกันในแต่ละคน
1
เนทันยาฮูกล่าวเมื่อวันอังคาร (19 พฤศจิกายน 2567) เมื่อเขาลงไปตรวจสอบกองทหารในทางเดินนาซาริมในฉนวนกาซาตอนกลางว่า
อิสราเอลจะไม่ยอมแพ้ในการค้นหาตัวประกันที่ยังคงอยู่ในฉนวนกาซา และสัญญาว่าจะพาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน
เขาตะโกนบอกชาว(ฉนวน)กาซาว่า “ถ้าใครส่งตัวประกันกลับมาให้เรา เราจะเตรียมทางที่ปลอดภัยให้เขาและครอบครัวเพื่อออกจากฉนวนกาซา
นอกจากนี้เรายังจะมอบรางวัล 5 ล้านดอลลาร์สำหรับการช่วยเหลือตัวประกันทุกคนที่ได้รับการส่งคืน
1
จงเลือก ทางเลือกเป็นของคุณ หากไม่ ผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม เพราะเราจะนำตัวประกันทั้งหมดกลับมาอยู่ดี..."
โฆษณา