15 พ.ย. 2024 เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

EGCO Group เปิดผลประกอบการ Q3/67 และ 9 เดือนแรก ด้านโบรกฯ ปรับราคาเป้าหมาย

EGCO Group ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 และ 9 เดือนแรก ปี 67 โบรกฯ ปรับลดคําแนะนํา ลงเป็น"ขาย" จาก"ซื้อ" ปรับราคาเป้าหมายลงใหม่เหลือ 101 บาท
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,604 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,463 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ
ในขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไรจากการดำเนินงาน 7,014 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,518 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมาจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ และกลุ่มโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา
EGCO Group เปิดผลประกอบการ Q3/67 และ 9 เดือนแรก ด้านโบรกฯ ปรับราคาเป้าหมาย
ทั้งนี้ EGCO Group มั่นใจจะสามารถปิดจ๊อบ Yunlin พร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 640 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้
EGCO Group ยังดำเนินธุรกิจควบคู่กับการบริหารการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่อยู่ใน Portfolio โดยเฉพาะการลงทุนในสหรัฐอเมริกา ตลอดจนสามารถผลักดันโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้มีความก้าวหน้าตามเป้าหมาย โดยเฉพาะ Yunlin โรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน ที่ติดตั้งเสากังหัน (Monopiles) และกังหันลม (Wind Turbine Generators – WTGs) ครบ 80 ต้น เรียบร้อยแล้ว และได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทั้งสิ้น 67 ต้น คิดเป็นกำลังผลิต 536 เมกะวัตต์ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบครบ 640 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 EGCO Group มีรายได้รวม 12,354 ล้านบาท ในขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,604 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากผลประกอบการของโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ ได้แก่ Paju ES ในเกาหลีใต้ Nam Thuen 2 ใน สปป.ลาว และ Quezon ในฟิลิปปินส์ โดยในไตรมาสนี้ EGCO Group มีกำไรสุทธิ 2,463 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2567 EGCO Group มีรายได้รวม 35,225 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,014 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,518 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักนอกจากโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ ได้แก่ Paju ES ในเกาหลีใต้ Nam Thuen 2 ใน สปป.ลาว และ Quezon ในฟิลิปปินส์ แล้ว ยังเสริมด้วยโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Linden Cogen และ Compass ตลอดจน APEX ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ ที่รับรู้รายได้จากการขายโครงการ
ผลประกอบการของ EGCO Group ดังกล่าว สะท้อนถึงศักยภาพของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดไฟฟ้าและพลังงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงเป็นหนึ่งในฐานธุรกิจที่สำคัญของ EGCO Group โดยบริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ระบุว่า ได้ปรับเพิ่มประมาณการกําไรหลักปี 2567-2569F ขึ้น 29-38% ส่วนใหญ่เพื่อสะท้อนการดําเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES และ KEGCO แข็งแกร่งขึ้นแม้จะถูกหักลบบางส่วนจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและ XPCL ชะลอตัวหลังการปรับประมาณการใหม่คาดกําไรหลักปี 2567F ของ EGCO ลดลง 2% YoY จาก XPCL และ KEGCO ชะลอตัวรวมถึงภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก่อนจะลดลงอีก 8% YoY ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ QPL ที่สิ้นสุดลงในเดือน พ.ค. 68
มองไปใน 4Q67F เราคาดว่ากําไรหลักจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาลแต่เพิ่มขึ้น YoY จากการรับรู้ดีล M&A รวมทั้งพอร์ตของ Compass และ CDI แม้ว่าในขณะนี้กําไรสุทธิอาจมีความเสี่ยงจากการด้อยค่าที่ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของโครงการ Yunlin และ QPL
ยังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายในระยะใกล้ถึงระยะกลาง EGCO เข้าสู่ 4Q67 พร้อมกับความเสี่ยงลุมเร้าของการด้อยค่าต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นของโครงการ Yunlin และ QPL หากไม่สามารถดําเนินการ COD ได้และการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)ได้ทันเวลาส่วนโครงการ QPL มีค่าความนิยมคงเหลืออยู่ 3.5 พันล้านบาท ในขณะที่ Yunlin เพิ่งได้รับเงินทุนเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้น
นอกจากนี้ มองเห็นความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นสําหรับโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯของ EGCO (1.2 GWe คิดเป็น18% ของกําลังการผลิตทั้งหมด) เนื่องจากการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ อาจนําไปสู่ราคาก๊าซ Henry Hub ลดลงหรือเพิ่มความผันผวนขึ้นซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการทํากําไร
อีกทั้ง EGCO อาจไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการประมูลพลังงานทดแทนรอบที่สองของไทย (3.6 Gw) เนื่องจากมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในต่างประเทศและมีประวัติการดําเนินงานที่อ่อนแอกว่าคู่แข่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) ที่ 1.4x โดยรวมแล้วเราคาดว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะลดลงในระยะใกล้ถึงระยะกลางจนกว่าจะมี catalyst บวกที่แข็งแกร่งขึ้น Valuation & Action
อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดคําแนะนํา EGCO ลงเป็น "ขาย" จาก "ซื้อ" และปรับลดราคาเป้าหมายลงใหม่เหลือ 101 บาท จากเดิม138 บาท สะท้อนการขยับราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2568 และปรับ WACC เฉลี่ยสูงขึ้นที่ 5.5% (จาก5.1%) จากความน่าจะเป็นสูงขึ้นของการด้อยค่าและความผันผวนของกําไรจากรายการพิเศษต่างๆการรับรู้รายได้จาก Paju ES โรงไฟฟ้าก๊าซและโครงการต่างๆ ที่ขายในสหรัฐฯ
สำหรับราคาหุ้น EGCO ณ เวลา 15.08 น. วันที่ 14 พ.ย.2567 อยู่ที่ 113.50 บาท/หุ้น ปรับขึ้น 0.44%
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/stock-investment/236638
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา