คำทำนายวันสิ้นโลกของ “บาบาวานกา (Baba Vanga)” นักทำนายตาบอดผู้มีความแม่น 85%
“บาบาวานกา (Baba Vanga)” นักทำนายจากบัลแกเรีย ได้เคยทำนายหลายเรื่องก่อนที่จะจากโลกนี้ไปเมื่อปีค.ศ.1996 (พ.ศ.2539) ด้วยวัย 84 ปี
คำทำนายของบาบาวานกาสร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลก เนื่องจากคำทำนายแต่ละข้อนั้นล้วนแต่แม่นยำ และว่ากันว่าคำทำนายของเธอนั้นแม่นยำกว่า 85%
และหนึ่งในคำทำนายของบาบาวานกา ก็คือเรื่องของ “วันสิ้นโลก”
เรื่องราวเป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
บาบาวานกา (Baba Vanga)
สำหรับประวัติย่อๆ ของบาบาวานกานั้น บาบาวานกาเกิดที่จักรวรรดิอ็อตโตมันเมื่อปีค.ศ.1911 (พ.ศ.2454) โดยเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน และสูญเสียการมองเห็นไปเมื่ออายุ 12 ปี
เมื่ออายุ 12 ปี บาบาวานกา ถูกพายุพัดกระเด็นไปยังทุ่งหญ้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะดวงตา ทำให้ดวงตาพิการ
ต่อมา เมื่อมีอายุ 18 ปี บาบาวานกาก็รอดตายอีกครั้ง โดยเธอมีปัญหาด้านการหายใจ แพทย์คิดว่าเธอไม่น่ารอด แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ และมีอายุยืนด้วย
หลังจากรอดตาย บาบาวานกาก็พบว่ามีบางอย่างที่แปลกไป เธอเริ่มฝันแปลก เริ่มได้ยินเสียงแว่วๆ และสามารถพูดคุยกับวิญญาณ
บาบาวานกาเริ่มมองเห็นอนาคต และแต่ละอย่างที่เธอเห็นก็ล้วนแต่เกิดขึ้นจริง ทำให้เธอเริ่มจะมีชื่อเสียงโด่งดัง
สำหรับความแม่นยำของบาบาวานกาที่ผ่านมา ก็ทั้งทำนายเหตุการณ์ 9/11 เหตุการณ์เบร็กซิต รวมทั้งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือดำน้ำ Kursk เป็นต้น
สำหรับเหตุการณ์ 9/11 บาบาวานกาได้ทำนายไว้ในปีค.ศ.1989 (พ.ศ.2532) ความว่า
“ช่างโหดร้าย น่าโหดร้าย พี่น้องอเมริกันจะล่มหลังจากถูกโจมตีโดยเหล่านกเหล็ก หมาป่าจะโหยหวนอยู่ในพุ่มไม้ และเลือดของผู้บริสุทธิ์จะไหลนอง“
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของคำทำนายเท่านั้น และที่น่าสนใจก็คือ บาบาวานกาได้ทำนายว่าประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็คือ “โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)” จะต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่จะทำให้ประเทศล่มจม โดยคำทำนายคือ
โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump)
“ทุกคนจะตั้งความหวังไว้กับเขา (ประธานาธิบดี) ให้ทำให้เรื่องจบ แต่ผลที่ได้นั้นตรงกันข้าม เขาจะทำให้ประเทศล่มสลาย และความขัดแย้งระหว่างรัฐทางเหนือและทางใต้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น“
และจากคำทำนายของบาบาวานกา ยังมีการทำนายเรื่องราวในอนาคตอีกหลายเหตุการณ์ ทั้งเรื่องการละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก การโคลนนิ่งมนุษย์เพื่อใช้ในการรักษาโรค การเดินทางข้ามเวลา การโจมตีจากดาวอังคาร และเหตุการณ์วันสิ้นโลก เป็นต้น
บาบาวานกาทำนายว่าระหว่างค.ศ.2033-2045 (พ.ศ.2576-2588) มนุษย์จะได้รับกระทบจากการละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก และในช่วงเวลานั้น มุสลิมจะครองโลก
จากนั้น ระหว่างค.ศ.2072-2086 (พ.ศ.2615-2629) คอมมิวนิสต์จะเฟื่องฟู และระหว่างค.ศ.2170-2256 (พ.ศ.2713-2799) จะเกิดอาณานิคมบนดาวอังคาร ซึ่งอาณานิคมดาวอังคารนี้จะเป็นมหาอำนาจทางด้านนิวเคลียร์ และเรียกร้องอิสรภาพจากโลก ตามมาด้วยการสร้างเมืองใต้ทะเล และมีการออกตามหามนุษย์ต่างดาวอย่างจริงจัง
ระหว่างค.ศ.2262-2304 (พ.ศ.2805-2847) มนุษย์จะค้นพบวิธีการเดินทางข้ามเวลา และตั้งแต่ค.ศ.2341 (พ.ศ.2884) เป็นต้นไป หายนะจะมาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นปฐมบทก่อนวันสิ้นโลก
หลังจากช่วงเวลานั้น โลกจะกลายเป็นสถานที่เสื่อมโทรมด้วยฝีมือมนุษย์บวกกับภัยธรรมชาติ ทำให้มนุษย์ต้องหาที่อยู่ใหม่ในระบบสุริยะ ซึ่งมนุษย์ก็จะมีการผสมกลมกลืนกับมนุษย์ต่างดาว ก่อนที่โลกจะพบกับจุดจบในปีค.ศ.5079 (พ.ศ.5622)
เท่ากับว่าโลกจะเหลือเวลาอีกประมาณ 3,000 ปี ก่อนจะถึงจุดจบ
บาบาวานกาไม่ได้ให้รายละเอียดว่าสาเหตุที่โลกต้องถึงจุดจบมาจากสาเหตุอะไร แต่ก็ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ และถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะไม่เชื่อ คิดว่าหมอดูคู่กับหมอเดา ซึ่งก็จริง แต่ที่ทำให้หลายคนต้องมาฉุกคิดก็คือ
มีการสำรวจและประเมินว่า คำทำนายของบาบาวานกาที่ผ่านมานั้น มีความแม่นยำถึง 85% เลยทีเดียว อนาคตที่ทำนายเกิดครบแทบทุกอย่าง
ดังนั้น คำทำนายที่ยังมาไม่ถึง ถึงจะไม่มีใครฟันธงว่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงร้อนๆ หนาวๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว
แล้วคุณล่ะ? เชื่อมั้ยครับว่าคำทำนายที่ยังมาไม่ถึงของบาบาวานกาจะเป็นจริง?
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
