Brielle บรีล
#ดาวเต็มดวง
#ชัยชนะครั้งแรกอันหอมหวานของกลุ่มต่อต้านคริสตจักร
#ขอทานทะเล
#ซีรี่ส์ป้อมดาว
#เนเธอร์แลนด์เนเธอร์แบน
เมื่อเราอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ โบราณสถานอย่างหนึ่งที่จะพบได้บ่อยๆ คือ ซากป้อมปราการ ฉันเรียกการเดินทางไปเยือนเมืองป้อมปราการเหล่านี้ว่า “ไปเก็บดาว” ⭐🌟 ⭐ ที่ไม่ใช่ดาวมิชลินแต่อย่างใด แต่หมายถึงป้อมรูปดาว เพราะลักษณะพื้นที่ของเมืองเหล่านี้มักจะเป็นรูปดาวจากการขุดคลองรอบเมืองเป็นแฉก สี่ ห้า หก แปดแฉกก็ว่าไป เพื่อให้เอื้อต่อการรบทัพจับศึกต้านทางอริราชศัตรู 🤺🇺🇳
ซึ่งเพื่อนผู้รู้มาบอกให้ทราบภายหลังว่า ป้อมรูปดาวนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของวิวัฒนาการป้อมปราการอันแข็งแกร่ง (กว่ารูปทรงอื่น เช่น ทรงสี่เหลี่ยมมีคูเมืองล้อมรอบแบบที่เห็นที่ไทย) ก่อนที่จะมีการคิดค้นปืนใหญ่ 💥💥💥💣 และวิทยาการทางการทหารที่สูงขึ้น สุดท้ายแล้วไม่ว่าป้อมดาวไร้พ่ายใดๆ ก็ล้วนกลายเป็นอดีตไป
เราสตาร์ทเรื่องเล่ากันที่เมืองบรีลก็แล้วกัน เริ่มจากดาวเต็มดวงปิ๊งๆ ก่อนจะได้เห็นรูปพรรณสัณฐานกันชัดๆ 🌟 (ดาวบางดวงเขาเว้าแหว่งไปตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศ และการปรับประโยชน์ใช้สอยของเมืองในเวลาต่อมา)
บรีล Brielle หรือ Den Driel ในภาษาดัชต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดเซาธ์ฮอลแลนด์ ทางตะวันตกของประเทศ หันหน้าเข้าหาทะเลขนาดนี้ ไม่มีทางรอดจากการเป็นเมืองท่าและยุทธการทางน้ำไปได้เลย ⛵⚓🚢
บรีลนี่แหละคือเมืองแรกที่ได้รับการประกาศอิสรภาพจากสเปนในสมัยสงคราม 80 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ.1572 โดยกลุ่มที่มีชื่อว่า Sea Beggars ⛵🌊🏴☠️🦜 ไม่จ้อจี้นะ ถึงแม้ว่าวันที่มันจะทำให้เราอดคิดถึง April’s fool day ไม่ได้ก็ตาม แต่อันนี้คือเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากเชียวแหละ
Sea Beggars หรือ Watergeuzen ในภาษาดัชต์ แปลตรงตัวคือขอทานทะเลหรือขอทานน้ำ แต่ความจริงกลุ่มนี้คือสมาพันธ์ชนชั้นสูงของชาวดัชต์ลัทธิคาลวินหรือคริสต์ศาสนาปฎิรูป ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ที่ต่อต้านโรมันคาทอลิก และพยายามจะสถาปนารัฐดัชต์อิสระจากสเปนที่นำเอาศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกมาใช้ปกครองและกดขี่ประชาชนในพื้นที่ละแวกนี้ 🕍⚖
วันที่ 1 เมษายน 1572 คือวันที่ปฎิบัติการทางทะเลของกลุ่ม Sea Beggars ภายใต้การนำของวิลเลม บลัว ฟัน เตรสลง (Willem Blois van Treslong) ประสบความสำเร็จ และนับเป็นชัยชนะครั้งแรกของกลุ่มนี้ต่อสเปน 💪🎉 โดยสามารถปลดปล่อยบรีลเป็นอิสระจากการครอบครองของดยุคเฟอร์นันโด อัลวาเรซ เดอ โทเลโด (นี่มันคล้ายชื่อตานั่นใน Fast and the Furious ไหมนะ) หรือดยุคแห่งอับบาที่ 3 ของสเปนและสังหารนักบวชคาทอลิกไปถึง 19 คน
การยึดเมืองบรีลเพื่อประกาศอิสรภาพได้เป็นครั้งแรกนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งที่สร้างแรงกระเพื่อมในหลายพื้นที่ เช่น ในฟลิซซิงเงินและซุทเฟน นอกจากนี้ ชัยชนะอันหอมหวานยังได้ปลุกความฮึกเหิมให้กลุ่ม Sea Beggars บุกไปยึดเมืองได้อีกหลายแห่ง เช่น อลัคมาร์ ไลเดน และฮาร์เลม ในเวลาต่อมา ⚓⛵🚢
ทุกวันที่ 1 เมษายน ชาวเมืองบรีลจะเฉลิมฉลองด้วยการจับทั้งเมืองมาย้อนยุคให้มีบรรยากาศเหมือนศตวรรษที่ 16 มีการแสดง เต้นรำ และดื่มสังสรรค์ 🥳👯🍻🥂🎊 นอกจากนี้หลังจากชัยชนะของ Sea Beggars ที่นี่ก็กลายเป็นเมืองที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์นิยมมาจาริกแสวงบุญกันมาก
เมืองบรีลมีอาคารประวัติศาสตร์มากกว่า 400 และสามารถดูแลรักษารูปพรรณเดิมของความเป็นเมืองป้อมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี มีอาคารหนึ่งที่ใหญ่โตมากคือ โบสถ์เซนต์แคทเธอรีน Sint-Catherijnekerk ซึ่งเป็นสถานที่วิลเลียมแห่งราชวงศ์ส้ม 🍊 (William of Orange ต้นราชวงศ์ออรันเยอร์ นัสเซา Orange Nassau ที่ปกครองเนเอร์แลนด์ในเวลาต่อมาหลังจากปลดแอกแล้ว) แต่งงานกับชาร์ล็อตต์แห่งบูร์บงในปี 1575 🤴👸
รู้เท่านี้พอแล้วล่ะ เรามันแค่นักท่องเที่ยวที่แอ๊บเนิร์ดนิดหน่อย ที่เหลือจงใช้ขาพาเดินสำรวจไปดีกว่า เมืองมันน่ารัก มีอาคารประวัติศาสตร์ให้แวะชมหลายแห่ง บางแห่งก็หน้าตาแปลกๆ ไปเดินเลาะขอบดาวสนุกๆ ชมนกชมไม้ไปในวันอากาศดี แต่ถ้ายังไม่แล้วใจเรื่องประวัติศาสตร์ เขามีพิพิธภัณฑ์สงคราม 80 ปีไว้รอเสริฟเนื้อหาในรายละเอียดอยู่เช่นกัน 😁😁😁
ป.ล.ขอสารภาพตรงนี้ ว่าฉันไม่ใช่คนมีสาระเลือกเมืองที่จะไปจากความสนใจหรือศึกษาเรื่องราวมาก่อน ในเคสนี้คือเปิดแผนที่กูเกิลแล้วจิ้มมั่วๆ ไป บังเอิญน้องดาวเขาอยู่ปลายนิ้วชี้พอดี 😂😝 แม่เจ้าประคุณเธอเป็นดาวเต็มดวงดีๆ ที่ไม่บ้งใส่นี่ก็ถือว่าโชคดีมากเด้อ
#เรื่องนี้เล่าไปยัง
#HaveIToldYouThis
สามารถติดตาม "เรื่องนี้เล่าไปยัง" ทางช่องทางอื่นได้ดังนี้ค่ะ
FB Fanpage
Instagram
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
