เมื่อวาน เวลา 08:35 • ธุรกิจ
ถ้าพบเห็นเรื่องเหล่านี้ ผมจะนึกคิดทันทีว่า ตัวเองทำอะไรคั่งค้างไว้หรือป่าว, เตรียมการต่างๆ จัดแจงเรื่องต่างๆ หรือยัง
*คือตอนตายไป ไม่ควรมีเรื่องน่าปวดหัวทิ้งไว้ให้คนอื่น
ส่วนคำสอนที่พระผู้มีพระภาคตรัสสอนไว้ใน "มรณัสสติสูตรที่ ๑"
จะมีน้ำหนักไปทาง เตือนสติว่ามันเกิดขึ้นได้"ทุกเมื่อ" ไม่ให้ประมาท
ลองอ่านดูครับ
*ให้ผ่านหูผ่านตาไว้ ไม่จำเป็นต้องเชื่อ
(ละถึง)
...พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า
-โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ตลอดคืนหนึ่งวันหนึ่ง
-โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ตลอดวันหนึ่ง
-โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่ฉันบิณฑบาตมื้อหนึ่ง
-โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยวคำข้าว"สี่"คำกลืนกิน
*ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านี้เรากล่าวว่า เป็น"ผู้ประมาท" เจริญมรณัสสติเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย"ช้า"
ส่วนภิกษุใดย่อมเจริญมรณัสสติอย่างนี้ว่า
-โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่เคี้ยวข้าวคำ"หนึ่ง"กลืนกิน
-โอหนอ เราพึงเป็นอยู่ได้ชั่วขณะที่หายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือหายใจออกแล้วหายใจเข้า
*ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้ เรากล่าวว่าเป็น
"ผู้ไม่ประมาท" ย่อมเจริญมรณัสสติ เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย"แรงกล้า"
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอ
ทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
*เราทั้งหลาย จักเป็นผู้ไม่ประมาท จักเจริญมรณัสสติ เพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายอย่างแรงกล้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ
อ้างอิง ข้อความบางส่วน
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย
ปัญจก-ฉักกนิบาต
๙. มรณัสสติสูตรที่ ๑
โฆษณา