16 พ.ย. เวลา 09:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ

การขายหมู 40 เด้ง ของ มาซา และ เจนเซน หวง

นี่เป็นภาพของ 2 คนเชื้อสายเอเชีย ที่ลงทุนแมนดูแล้วตกใจในเรื่องนี้ และทำให้คิดได้หลายเรื่อง
3
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจนเซน หวง ไปที่ญี่ปุ่น ขึ้นเวทีกับ มาซาโยชิ ซน
ถ้าใครยังไม่รู้จัก 2 คนนี้ ก็สรุปสั้น ๆ เลยว่า
1
เจนเซน หวง คือผู้ก่อตั้ง Nvidia บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดของโลกในตอนนี้
ตอนนี้ บริษัท Nvidia นี้ใหญ่กว่าบริษัท Apple หรือ Microsoft ที่ทุกคนคิดว่าน่าจะใหญ่สุด
Nvidia มีชิปเซ็ตประเภท GPU ที่ทรงพลังที่สุดในยุคนี้ และเป็นที่ต้องการของบริษัทที่ต้องการเป็นที่ 1 ด้าน AI
ตั้งแต่ลงทุนแมนลงทุนมา ยังไม่เคยเห็นบริษัทระดับ Megacap ของโลก จะมีกำไรเติบโตในอัตราเท่านี้แบบ Nvidia มาก่อน
ถ้าถามว่าในยุคปี 2010 คนที่มีชื่อเสียงในวงการเทคโนโลยีคือ สตีฟ จอบส์
แล้วในยุคปี 2020 คือใคร ?
บางคนบอกว่า อีลอน มัสก์
แต่ถ้าให้ลงทุนแมนตอบ คำตอบมันก็เฉลยอยู่ในมูลค่าบริษัทแล้ว
1
เจนเซน หวง คือบุคคลที่เปลี่ยนวงการ AI ไปตลอดกาล
แม้แต่ Tesla ของอีลอน มัสก์ ก็ยังซื้อชิปเซ็ต จาก Nvidia..
1
แล้ว มาซาโยชิ ซน คือใคร ?
เขาเป็น 1 ในบุคคลที่รวยสุดในญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้ง Softbank
บนเวที เจนเซน หวง เล่าว่า
- มาซา ชวน บิลล์ เกตส์ เอา Microsoft เข้าญี่ปุ่น
- มาซา ชวน สตีฟ จอบส์ เอา iPhone เข้าญี่ปุ่น
- มาซา ชวน เจอร์รี หยาง เอา Yahoo เข้าญี่ปุ่น
สรุปแล้ว มาซาโยชิ ซน เป็นคนนำเทคโนโลยีเข้าญี่ปุ่น
และนอกจากนั้นมาซายังเป็นคนชอบเอาเงินไปลงทุนบริษัทเทคโนโลยีในต่างประเทศด้วย
- Alibaba ของแจ็กหม่า ก็เคยมี Softbank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด
- และ Nvidia ก็เช่นกัน Softbank เป็นนักลงทุนคนแรก ๆ ใน Nvidia
เรียกได้ว่า Softbank ปั้นบริษัทใหญ่ ๆ มาหลายบริษัทแล้ว
แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคือ
Softbank เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Nvidia เคยถือมากถึง 5% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัทเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และได้ขายหุ้นทั้งหมดไปแล้ว
2
ในตอนนั้นจำนวนหุ้นเท่านี้จะมีมูลค่า 140,000 ล้านบาท
แต่ถ้า Softbank ไม่ขายหุ้น และถือมาจนถึงตอนนี้ จะมีมูลค่ามากถึง 6,200,000 ล้านบาท..
คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่ม 44 เท่าตัว ใน 5 ปี
ข้อมูลที่น่าสนใจที่สุดก็คือ
เจนเซน หวง เพิ่งเปิดเผยว่า มาซาโยชิ ซน เคยเสนอให้ยืมเงินเพื่อซื้อกิจการทั้งหมดของ Nvidia
มาซา กล่าวกับ เจนเซน หวง ว่า
“ตลาดหุ้นไม่เข้าใจคุณค่าของ Nvidia อนาคตของคุณจะรุ่งโรจน์ แต่ระยะสั้นเส้นทางของคุณน่าจะยังขลุกขลัก ผมให้คุณยืมเงินเพื่อซื้อหุ้น Nvidia ทั้งหมดจากตลาดหุ้นได้”
1
และก็เป็นที่มาของภาพนี้..
มาซาโยชิ ซน เอามือแตะไหล่ และทำท่าร้องไห้
เจนเซน หวง บอกว่าไม่เป็นไร เรามาร้องไห้ไปด้วยกัน..
2
เพราะในตอนนั้น เจนเซน หวง ก็ไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของ มาซาโยชิ ซน ซึ่งจะทำให้เขามีโอกาสถือหุ้นเพิ่มขึ้นในบริษัท Nvidia ซึ่งก็แปลว่า เจนเซน หวง พลาดเหมือนกัน..
2
ถ้าถามว่าเรื่องนี้เราได้ข้อคิดอะไร ?
1. ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุนมีประสบการณ์มากแค่ไหน เคยลงทุนสำเร็จมาแล้วกี่บริษัท ก็สามารถมองพลาดได้เสมอ
1
รับรองว่า ถ้ามาซาโยชิ ซน ยังถือหุ้น Nvidia ทั้งหมดจนถึงตอนนี้ เขาจะมีทรัพย์สินมากสุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว
2
มาซาโยชิ ซน เชื่อใน Nvidia มาก แต่ก็ตัดสินใจพลาด ขายหุ้น Nvidia ทิ้งไป อาจเพราะคิดว่าราคาขึ้นมาเต็มมูลค่าแล้ว ถ้าเดาจากคำพูดคือเขาเชื่อว่า Nvidia มีอนาคตที่รุ่งโรจน์ แต่ระหว่างทาง Nvidia จะขลุกขลัก ก็เลยขายหุ้น Nvidia เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นก่อน
1
แต่บอกเลยว่าถ้ามาซาโยชิ ซน นั่งไทม์แมชชีน มาเห็นอนาคตแล้ว เขาน่าจะเลือกที่ไม่ขายแน่นอน
2. แม้แต่ตัวเจ้าของบริษัทที่มีธุรกิจอยู่ตรงหน้า ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองจะไปได้ไกลสุดที่เท่าไร
ถ้าในตอนนั้น เจนเซน หวง ตอบรับข้อเสนอข้อ มาซาโยชิ ซน ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการปฏิเสธ แต่ที่ไม่ตอบรับก็คงเป็นเพราะว่าไม่มั่นใจเหมือนกันว่าราคาหุ้นของ Nvidia ที่จะซื้อจากตลาดในตอนนั้น กับมูลค่าที่แท้จริงของ Nvidia มันเป็นอย่างไร
คนที่เห็นธุรกิจมากที่สุด บางทีก็ยังไม่รู้อนาคตของธุรกิจตัวเอง..
1
3. ถ้าเราไม่อยากพลาดอะไรเลย บางทีให้อยู่เฉย ๆ
หลักการนี้คงเป็นหลักการที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ชอบใช้ บัฟเฟตต์จะถือหุ้นของธุรกิจนั้นไปอย่างยาวนาน เช่น CocaCola
1
แต่ก็คงเป็นอะไรที่ต่างกัน เพราะหุ้นของบัฟเฟตต์ จะไม่ได้โตเร็วแรง เหมือน Nvidia จึงอาจทำให้เขาไม่มีโอกาสขายในราคาที่ P/E สูง ๆ เหมือนกับ มาซาโยชิ ซน ที่ขาย Nvidia
4
ถ้า CocaCola ขึ้นมาเยอะอย่างรวดเร็ว บัฟเฟตต์อาจจะขายหุ้นทิ้งก็ได้ ใครจะไปรู้..
4. การมีมุมมองที่ไกล เป็นสิ่งที่มาซาและ เจนเซน หวงมี แต่คนอื่นไม่มี
2
ทำไมมาซาโยชิ ซน ถึงลงทุนใน Nvidia เป็นคนแรก ๆ
ทำไมเจนเซน หวง ถึงเชื่อในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทำแต่เรื่องเดียว และรอวันสุกงอมที่จะกินรวบ
1
การลงทุนบางครั้ง ไม่ใช่มามองว่าสิ้นปี หรือปีหน้าจะเป็นอย่างไร
1
แต่มันคือการมองภาพเป็น 10 ปี ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเลือกที่จะเดิมพันกับมันในระยะยาว
และถ้าเรามองถูกต้อง เราก็คงได้ผลตอบแทนที่งดงาม
ยกเว้นเสียแต่ว่า เราขายหมูไปซะก่อน เหมือน มาซา และ เจนเซน หวง นั่นเอง..
1
โฆษณา