อธิบายมวยไฟต์หยุดโลก ไทสันวัย 58 พ่ายยูทูบเบอร์ วัย 27
มวยไฟต์ประวัติศาสตร์ ระหว่าง ไมค์ ไทสัน vs เจค พอล จบลงด้วยความพ่ายแพ้แบบขาดลอยของไทสัน
ไทสันวัย 58 ปี ไม่มีพละกำลังมากพอ จะต้านทานเจค พอล ที่อายุน้อยกว่า 31 ปีได้ และแพ้ไปอย่างเป็นเอกฉันท์
ในยุคปัจจุบัน กีฬามวย อยู่ในกระแสเมนสตรีม ใครๆ ก็อยากขึ้นสังเวียนมวย ในประเทศไทย มี 10 Fight 10 มี Idol Fight ส่วนที่เมืองนอก อินฟลูเอนเซอร์ดังๆ ก็มาต่อยมวยกันบ่อยจนเป็นปกติ
ปีก่อน KSI ต่อยกับโลแกน พอล มาแล้ว 2 ไฟต์ หรือเนต โรบินสัน อดีตแชมป์สแลมดั๊งค์ของ NBA ก็เคยขึ้นสังเวียนชกมวยมาแล้ว
สำหรับ เจค พอล เขาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวอเมริกัน ที่เริ่มดังจากการทำคลิปแพรงค์ แกล้งกัน รวมถึงทำเพลงฮิปฮอป โดย ณ เวลานี้ พอลมีซับสไครเบอร์ในยูทูบ มากถึง 20 ล้านคน
หลังจากทำคลิปเฮฮาในช่วงแรก เจค พอล ก็เริ่มเข้าสู่วงการมวยสากล คือต้องยอมรับว่าเขามีทักษะใช้ได้ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ต่อยมวยเป็นจริงๆ
เจค พอลขึ้นชกกับคนในหลายๆ วงการ เช่น นักบาสเกตบอลอาชีพ, นักสู้ MMA หรือ กับนักมวยสากลฝีมือระดับกลางๆ ผลงานโดยรวมก็ไม่เลวเลย สถิติ ชก 11 ชนะ 10 แพ้ 1
ในปี 2021 เจค พอล เดินหน้าทำธุรกิจมวยอย่างจริงจัง เขาก่อตั้งบริษัทโปรโมเตอร์มวย ชื่อ MVP
บริษัท MVP จัดแข่งมวยสากลอย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้งนักมวยจริงๆ และ อินฟลูเอนเซอร์มาชก ถือเป็นบริษัทที่สร้างความคึกคักให้กับวงการได้เยอะเลยทีเดียว
เดือนมีนาคม 2024 บริษัท MVP ประกาศว่า จะจัดไฟต์หยุดโลก ระหว่าง เจค พอล กับ ไมค์ ไทสัน โดยจะชกที่สนาม AT&T บ้านของดัลลัส คาวบอยส์ โดยถ่ายทอดสดผ่านทาง Netflix ประเมินว่า จะทำรายได้ ทั้งโฆษณา และ ตั๋วเข้าชม รวมแล้วทะลุ 100 ล้านดอลลาร์
นี่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ทีเดียว ที่มวยสากลจะถ่ายทอดสดทาง Netflix
ถ้าเราสังเกตดู ก็จะเห็นว่าในช่วงหลัง Netflix เริ่มเข้าสู่ธุรกิจถ่ายทอดสดกีฬามากขึ้น ล่าสุดก็เพิ่งเซ็นสัญญากับ NFL และ WWE ไปแล้ว
ดังนั้นการถ่ายทอดสดมวยสากลครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็จะเป็นการเทสต์ระบบด้วย ว่าถ้าหากต้องถ่ายทอดสด อีเวนต์กีฬาที่มีคนดูพร้อมกันหลักล้าน ระบบไลฟ์สตรีมของพวกเขาจะรองรับได้หรือไม่
สำหรับไฟต์นี้ ความน่าสนใจอยู่ที่ คณะกรรมการมวยอาชีพแห่งรัฐเท็กซัส ระบุว่าเป็น "ไฟต์ทางการ" ไม่ใช่ ไฟต์โชว์ ดังนั้นสถิติการแพ้-ชนะ จะถูกนับรวม อยู่ในประวัติของนักกีฬาคนนั้นด้วย
ไฟต์สุดท้ายที่ไมค์ ไทสัน ชกใน "ไฟต์ทางการ" เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2005 กับเควิน แม็คไบรด์ จากนั้นไทสัน ก็ผันตัวไปทำธุรกิจอื่นๆ เช่น ปลูกกัญชาสมุนไพร, ไปเป็นสปีกเกอร์สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน, ขายลิขสิทธิ์ชื่อตัวเองเอาไปทำสารคดี, ทำพอดแคสต์ ฯลฯ
ส่วนการชกมวยก็มีบ้าง แต่จะเป็นการชกโชว์ ไม่ได้ถูกบันทึกสถิติทางการ เช่น ไฟต์ที่ต่อยกับรอย โจนส์ จูเนียร์ส ในปี 2020 เป็นต้น
ช่วงต้นปี 2024 หลังจากบริษัท MVP มาเจรจา ขอให้ไทสันขึ้นชกกับเจค พอล ปรากฏว่าไทสัน "เอาด้วย" เขาตอบตกลงร่วมชก
สาเหตุหลักคือ ไทสันจะได้รายได้จากการชกไฟต์นี้เยอะมากๆ เป็นจำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (696 ล้านบาท) จากการขึ้นชกแค่ 8 ยกเท่านั้น
8 ยก ยกละ 2 นาที คิดเป็น 16 นาที
การลงสู้แค่ 16 นาทีแต่ได้เงิน 696 ล้านบาท คิดในทางธุรกิจแล้ว เป็นอะไรที่ยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก
นอกจากนั้น ด้วยความที่ไฟต์นี้ ถ่ายทอดสดฟรีทาง Netflix (ที่มีซับสไครเบอร์ทั่วโลก 260 ล้านคน) ก็แน่นอนว่า จะกลายเป็นไฟต์ที่มีคนดูมากที่สุดตลอดกาล เอาชนะ ไฟต์ของฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ กับ แมนนี่ ปาเกียว ที่จำนวน 4.6 ล้านเพย์ เพอร์ วิว ได้อย่างแน่นอน
ในดีลนี้กับโปรโมเตอร์ MVP ไทสันได้ประโยชน์หลายอย่าง นอกจากได้เงินก้อน 20 ล้านดอลลาร์แล้ว การทำอีเวนต์พิเศษแบบนี้ ทำให้ชื่อเสียงของเขา ถูกพูดถึงตลอดเวลา ได้รับเชิญไปรายการทีวีมากมาย เป็นการสร้างแบรนด์ชื่อ "ไทสัน" ให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ไทสันได้ประโยชน์ ขณะที่ ฝั่งเจค พอลเองก็ได้ประโยชน์เช่นกัน เพราะถ้าหากเขาเอาชนะนักมวยดีกรีแชมป์โลกอย่างไทสันได้ ก็น่าทำให้คนยอมรับเขามากขึ้นอีก ในฐานะนักมวยอาชีพ ไม่ใช่แค่นักสู้ยูทูบเบอร์เท่านั้น
เมื่อทั้งสองฝ่ายดีลกันได้แล้ว จึงกำหนดการชกเอาไว้ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2024 แต่ในวันนั้นไทสันได้รับบาดเจ็บกะทันหัน จึงเลื่อนออกมาเป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2024 แทน
สำหรับไฟต์ระหว่าง เจค พอล vs ไมค์ ไทสัน ยังไงก็เกิดขึ้นแน่ แต่เอาจริงๆ หลายคนก็ไม่อยากให้ไทสันตอบตกลง เพราะไม่สบายใจเรื่อง "ความต่างของอายุ"
ในวันที่ต้องขึ้นชก ไทสันจะอายุ 58 ปี การต้องมาเจอกับ เจค พอล ที่อายุ 27 ปี มันจะไหวหรือ?
วัย 58 ปี อาจจะชกได้ถ้าเจอคนวัยไล่ๆ กัน แต่ประเด็นคือ เจค พอล อายุน้อยกว่าไทสัน "31 ปี"
ถามว่าห่างกันขนาดไหน? ก็คิดดูว่า ในปี 1996 ตอนที่ไทสันเป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทครั้งสุดท้าย ณ เวลานั้น เจค พอล ยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ
ช่องว่าง 31 ปี เป็นอะไรที่มหาศาลมาก ถ้าเทียบกับในกีฬาฟุตบอล เอียน รัช อายุห่างกับ ซน ฮึง-มิน 31 ปี ถ้าเทียบกันในช่วง Prime เอียน รัชก็ไม่ด้อยกว่า ซนนี่ แน่นอน แต่ถ้ามาสู้กันตอนนี้ในตำแหน่งกองหน้า มันจะไปสู้กันได้ยังไง
สำหรับไทสัน ในสมัยเป็นนักมวย เขาคือเบอร์ 1 ของโลก อย่างไร้ข้อกังขา ฉายาของเขาคือ Iron Mike (ไมค์หมัดเหล็ก) ไม่ว่าจะเจอใคร ไทสันอัดน็อกได้หมด เขาเคลื่อนที่เร็ว พลังหมัดก็แรง เคยได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวททุกสถาบัน
อย่างเจค พอล ถ้าเจอไทสันช่วง Prime ยกแรก ไม่ถึงนาที ก็ควรจะเกมโอเวอร์แล้ว
แต่นั่นคือเรื่องในอดีต ปัจจุบันไทสันอายุ 58 ปี แถมไม่ได้ลงซ้อมอย่างสม่ำเสมอ มันจะต้านทานเจค พอล ที่อายุ 27 ปีได้อย่างไร
แล้วถ้าขึ้นชกแล้วโดนยำ มันจะเสียภาพลักษณ์ของตำนานหรือเปล่า?
แม้มีคนเตือนไทสันว่าแพ้แน่ๆ ไม่ไหวหรอก อายุห่างกันตั้ง 31 ปี แม้แต่แพทย์ก็ยังออกมาเตือน ว่าคนอายุ 58 มีโอกาสที่จะได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองง่ายกว่า
แต่ไทสันกลับสบายๆ กว่าที่คิด เขาบอกว่า "เจค พอล พัฒนาขึ้นมาก ในฐานะนักมวย มันน่าสนุกดีนะว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรได้บ้าง ถ้าเจอกับนักมวยที่มีประสบการณ์ และเคยถูกยกย่องว่าเป็น GOAT อย่างผม ชีวิตของคนเราก็แปลกดี ผมจำได้ว่าไฟต์แรกของเจค พอล เขาขึ้นชกเป็นมวยคู่ประกอบของผม ตอนชกกับรอย โจนส์ แต่มาวันนี้เขาขึ้นมาชกกับผมซะแล้ว และแผนของผมคือ จัดการเขาให้เรียบร้อยซะในไฟต์ที่จะถึงนี้"
ไทสันยังไงก็เอาด้วย การชกไฟต์ที่ผู้คนติดตามมากขนาดนี้ ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งความนิยม แล้วเขาจะปฏิเสธทำไม
เมื่อตอบตกลงจะชกกันแล้ว ไฟต์ระหว่าง ไทสัน กับ เจค พอล ค่อยๆ ถูกประโคมข่าวให้ใหญ่โตขึ้น ในฐานะศึกของอดีตแชมป์โลก vs อินฟลูเอนเซอร์
ผู้คนก็อยากรู้เหมือนกันว่า ปีศาจอย่างไทสัน ถ้าขึ้นชกในวัย 58 จะสามารถเอาชนะสังขารได้หรือไม่
ตั๋วเข้าชมระหว่างไทสัน กับ เจค พอล ขายได้ถึง 7 หมื่นใบ ผู้จัดการแข่ง ทำเงินได้ถึง 17.8 ล้านดอลลาร์ ถ้าหากไม่นับการชกที่ลาสเวกัส นี่คือไฟต์มวยสากลที่ทำเงินได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์
และแล้วในวันนี้ (15 พฤศจิกายน ที่อเมริกา) การชกก็มาถึง บรรยากาศคึกคักอย่างมาก คนดูเพียบทั้งในสนาม และการถ่ายทอดสด
2 ยกแรก ไทสันทำได้ดีมาก เดินกดดันจนเจค พอล เสียจังหวะ รุกไล่อย่างได้เปรียบ ดูดีกว่าทั้ง 2 ยก
เราเห็นเลยว่า ไทสันมีสกิลที่ดีเป็นพื้นฐาน จังหวะการเดิน จังหวะการโยกตัว สมแล้วที่เป็นอดีตนักมวยระดับโลก
แต่ปัญหาของไทสัน ก็คือเรื่องร่างกาย คนอายุ 58 ปี ไม่สามารถยืนระยะไปได้ตลอด ตั้งแต่ยก 3 เป็นต้นไป ไทสัน "พลังหมด" คือพลังหล่นวูบลงไปเลย ไม่สามารถออกหมัด ทั้งแย็บ และหมัดตรงได้บ่อย ได้แต่ต้องเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ เท่านั้น
เจค พอล อาจจะเป๋ในสองยกแรก แต่พอเข้ายก 3 พลังก็เริ่มมา เขาเดินหน้าต่อยต่อเนื่อง และเป็นผู้ชนะทุกยกที่เหลือ
ไทสันไม่มีแรงที่จะปล่อยหมัด ในยก 5 เขาต่อยหมัดแย้บเข้าเป้าแค่ 1 หมัดเท่านั้น การเคลื่อนที่ดูลำบาก การหายใจก็ไม่ค่อยทัน
ในช่วงยก 5 เจค พอลต่อยได้สบายๆ ถึงกับแลบลิ้นท้าทายระหว่างยก เพราะเขาไม่ได้กดดันอะไรเลย
หลังจบยก 6 เทรนเนอร์ของเจค พอลบอกว่า "He's too slow" บอกว่าไทสันช้าแล้ว อืดแล้ว ให้เจค พอลไล่ต่อยไปเรื่อยๆ ตามจังหวะ ก็ชนะได้สบายๆ
ช่วงท้ายๆ เจค พอล ก็ผ่อนแล้ว คือถ้าจะลุยให้ชนะน็อกจริงๆ ก็น่าจะทำได้ แต่เขาก็ค่อยๆ ประคองตัวไปเรื่อยๆ เก็บคะแนนไป ดูแล้วตั้งใจชกให้ครบยก เพื่อเอาใจสปอนเซอร์ เอาใจคนดู และเพื่อไม่หยามเกียรติไทสันจนเกินไป
หลังจากครบ 8 ยก กรรมการทั้ง 3 ท่าน ก็ให้เจค พอล เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์
80-72, 79-73 และ 79-73 ก็ชัดเจนว่าสู้กันไม่ได้
ไฟต์นี้ ไม่มีข้อกังขา ตลอด 8 ยก เจค พอล ต่อยเข้าเป้าทั้งหมด 78 หมัด ส่วนไทสันทำได้แค่ 18 หมัดเท่านั้น ประสิทธิภาพต่างกันมาก
เท่ากับว่า ไมค์ ไทสัน ที่กลับมาต่อยในไฟต์ทางการอีกครั้งในรอบ 19 ปี ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้
ผลการแข่งขันก็ออกมาตามที่คาด คนอายุ 58 ปี ต่อให้เคยเป็นแชมป์โลกมาก่อน แต่สภาพร่างกายมันได้แค่นั้นจริงๆ สามารถอยู่บนสังเวียนครบ 8 ยก ก็ถือว่าเก่งแล้ว
หลังจบไฟต์ ไทสันบอกว่า "ผมแฮปปี้ที่ขึ้นชกนะ ผมไม่มีอะไรต้องพิสูจน์แล้ว ผมแค่มีความสุขกับสิ่งที่ผมได้ทำ ผมมีอาการบาดเจ็บที่เข่าก่อนชก แต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่พ่ายแพ้"
พอการชกจบลง ความรู้สึกของแฟนมวยที่สหรัฐฯ ก็แบ่งเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายแรกก็ชื่นชมไทสัน ว่าคนวัย 58 ปี แต่กล้าออกจากคอมฟอร์ตโซน มาต่อยกับนักมวยรุ่นน้อง ที่อายุน้อยกว่า 31 ปี ก็ถือว่าท้าทายดี ปกติคนอายุเท่ากัน นี่หมดสภาพไปแล้ว แต่ไทสันยังมีบอดี้ที่ใช้ได้ ถ้าต่อยกับคนอายุเท่ากันเขาคงชนะสบาย
แต่อีกฝ่าย โดยเฉพาะคนในวงการกีฬา แสดงความผิดหวังไทสัน ว่าเห็นแก่เงิน เห็นแก่ชื่อเสียง คุณคืออดีตนักมวยอันดับหนึ่งของโลก ที่มีสถานะ GOAT แต่ดันปล่อยให้โดนอินฟลูเอนเซอร์ยำ
แดน ราฟาเอล นักข่าวมวยจาก ESPN ทวีตว่า "น่าเศร้าที่เราต้องดูไฟต์นี้ ไทสันก็คือไทสัน แต่เป็นเวอร์ชั่นที่ไม่เหลือพลังแล้ว"
เมจิก จอห์นสัน ตำนาน NBA โพสต์ว่า "ผมปิดทีวีเพราะทนดูต่อไปไม่ได้ มันน่าเศร้าที่ต้องเห็นไทสันอยู่ในสภาพโดนยำแบบนี้ เพราะในอดีตผมดูไทสันชกทุกไฟต์ และการที่เขาขึ้นชกแบบนี้ มันไม่ดีเลย สำหรับวงการมวยสากล"
เมจิก จอห์นสันมองว่า ไทสันเอาชื่อเสียง เอาความยิ่งใหญ่ของนักมวยเวิลด์คลาสที่ทุกคนยำเกรง เอามาให้เจค พอลยำ เพื่อแลกกับเงิน 20 ล้านดอลลาร์
เบรต ฟาฟร์ อดีตควอเตอร์แบ็กแชมป์ซูเปอร์โบวล์ บอกว่า "คนที่ไร้เทียมทานตัวจริงคือ 'เวลา' เราไม่มีทางเอาชนะอายุขัยได้อยู่แล้ว"
ส่วนสำนักข่าว VOX อธิบายว่า "สาเหตุที่ไทสันเลือกขึ้นชก ทั้งๆ ที่รวยอยู่แล้ว และดังอยู่แล้ว ก็เพราะเขาต้องการอยู่ในกระแสตลอดเวลา การเป็นเซเลบริตี้ในปี 2024 ต้องเข้าใจว่า ทันทีที่คุณไม่มีคอนเทนต์อะไรออกมา ผู้คนก็จะลืมคุณอย่างรวดเร็ว แต่การชกไฟต์นี้ สิ่งที่ไทสันจะได้รับคือคอนเทนต์มหาศาล ก่อนชก ระหว่างชก หลังชก และชื่อเสียงที่ได้มา ก็อาจจะคุ้มค่ากับการยอมโดนต่อยหน้าบนเวที"
ก็เป็นสองมุมที่เห็นแตกต่างกัน มีทั้งคนเห็นด้วย กับ ไม่เห็นด้วย ที่ไทสันขึ้นชกไฟต์นี้
แต่สำหรับไทสัน เขาคงคิดมาอย่างรอบคอบแล้ว ถึงตอบตกลง ทั้งๆ รู้อยู่แล้วว่าเสียเปรียบเต็มประตู
บทสรุปของไฟต์นี้ จะเห็นว่านักกีฬาอะไรก็ตาม ในช่วง Prime คุณอาจเอาชนะได้ทุกคน แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจจะยังมีทักษะบางอย่างอยู่ รู้ว่าอยากทำอะไร แต่ร่างกายมันไม่ตอบสนองแล้ว
ต่อให้คุณยิ่งใหญ่มาจากไหน สิ่งที่เอาชนะไม่ได้ในท้ายที่สุด ก็คือสภาพร่างกายของตัวเอง
และถ้าสังขารร่วงโรยแล้ว แม้แต่แชมเปี้ยนโลกผู้ไร้เทียมทาน ก็อาจพ่ายแพ้ แม้กระทั่งยูทูบเบอร์
#TIMEISFOREVERUNDEFEATED
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
