16 พ.ย. 2024 เวลา 18:05 • ข่าวรอบโลก

เบอร์มิวด้า

---
ปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา: เงื่อนงำที่ท้าทายกาลเวลา
ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ มีพื้นที่รูปสามเหลี่ยมลึกลับที่เชื่อมโยงระหว่างไมอามี เบอร์มิวดา และเปอร์โตริโก ผู้คนทั่วโลกต่างรู้จักมันในชื่อ "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา" สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นสมมุติในแผนที่ แต่ยังเป็นแหล่งรวมเหตุการณ์สุดลึกลับที่ยังไร้คำอธิบายชัดเจน
เหตุการณ์ปริศนา
ในปี 1945 "เที่ยวบินที่ 19" ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งมีเครื่องบินรบ 5 ลำ พร้อมนักบินที่มีประสบการณ์ ได้หายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยในขณะปฏิบัติภารกิจฝึกบิน แม้จะมีการส่งเครื่องบินค้นหาช่วยเหลือ แต่สิ่งที่ตามมากลับเป็นเรื่องน่าตกใจ เพราะเครื่องบินช่วยเหลือก็หายไปในบริเวณเดียวกัน
อีกเหตุการณ์ที่ชวนขนลุกคือการหายตัวของ เรือ SS Marine Sulphur Queen ในปี 1963 เรือขนส่งกำมะถันลำใหญ่พร้อมลูกเรือ 39 คน ออกเดินทางจากท่าเรือเท็กซัส แต่กลับหายไปในท้องทะเลโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดไว้ให้ตามหา
ทฤษฎีแห่งความลับ
การหายตัวเหล่านี้นำไปสู่การตั้งสมมติฐานมากมาย ทั้งในแง่วิทยาศาสตร์และสิ่งเหนือธรรมชาติ:
1. พลังของธรรมชาติที่แปรปรวน
คลื่นยักษ์, กระแสน้ำวน หรือพายุที่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน อาจเป็นปัจจัยที่คร่าชีวิตเรือและเครื่องบินในพื้นที่
2. แรงดึงดูดที่ผิดปกติ
บางนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าใต้ผืนน้ำอาจมีสนามแม่เหล็กที่ส่งผลต่อระบบนำทาง ทำให้เรือและเครื่องบินสูญเสียทิศทาง
3. ช่องทางลับของมิติที่ซ่อนเร้น
หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าบริเวณนี้อาจเป็น "ประตูมิติ" ที่ดูดกลืนวัตถุเข้าสู่มิติอื่น
4. การแทรกแซงของสิ่งมีชีวิตต่างดาว
กลุ่มผู้เชื่อเรื่อง UFO มองว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอาจเป็นจุดที่มนุษย์ต่างดาวเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขาอาจกำลังทดลองหรือเก็บตัวอย่างจากโลก
ปริศนาที่ยังไม่สิ้นสุด
แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ ความจริงของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดายังคงถูกซ่อนเร้น บางคนเลือกที่จะมองว่ามันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ บางคนก็ยังยึดมั่นในความเชื่อที่ลึกลับและน่าพิศวง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาไม่ใช่แค่ตำนาน มันคือคำถามที่ยังรอคำตอบ
โฆษณา