16 พ.ย. เวลา 23:40 • ความคิดเห็น

ตัวคุณเป็นเพื่อนแบบไหน

บางทีแค่เพื่อนกินยังหายาก
จำได้ว่าเพื่อนสนิทที่เราเป็นรูมเมทกันด้วยได้สั่งเราไว้ก่อนที่เขาจะเรียนจบว่า เดี๋ยวฉันไม่อยู่แล้ว แกต้องอยู่คนเดียวให้ได้นะ ไปไหนมาไหนเอง ไปกินข้าวคนเดียว แกทำได้มั้ย....เขาพูดอย่างเป็นห่วง เพราะเราไม่ชอบสุงสิงกับใคร ไม่ไปกับคนอื่นเรื่อยเปื่อย ไม่สนิทใจไม่ไว้ใจไม่ไปด้วย.. แค่กินข้าวก็ตาม เขากลัวเราเหงา แต่สำหรับเรา แบบนี้เรามีความสุขกว่าไปกินข้าวกับคนนู้นคนนี้แล้วเราอึกอัด
เรามีเพื่อนสนิทแบบนี้สองคน ที่เป็นรูมเมทกันด้วย
เรารู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เรียนหมอมารุ่นเดียวกัน แต่เรียนต่อคนละสาขา ทำให้อีกคนแยกที่เรียน และเวลาเรียนเรานานกว่า เพื่อนจบก่อน พอจบก็เข้าไปใช้ชีวิตในกรุงเทพกัน ... จนถึงทุกวันนี้
เราติดต่อกันน้อยมาก แต่.... แต่เคียงข้างกันด้วยชีวิต
วันที่เราป่วยเจียนตายก็คนๆนี้เฝ้า วันที่เรามีปัญหาก็คนๆนี้ช่วยเหลือ วันที่เขาทุกข์ใจก็เราเคียงข้าง
แค่มีเพื่อนแบบนี้ในชีวิตไว้แค่คนเดียวก็โชคดีแล้ว
แต่เราโชคดีหน่อย เป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม เพื่อนไม่มาก จำคนไม่เก่ง แต่เพื่อนแบบนี้เรามีพอให้อุ่นใจไม่ใช่แค่คนเดียว....
แล้วคุณเป็นเพื่อนแบบไหน....
ในเวลาที่เราต้องการความพิเศษจากคนอื่น คุณพิเศษกับคนอื่นๆแค่ไหน....
ส่วนตัวอาจจะไม่ชอบเฮฮาเพื่อนล้อมหน้าล้อมหลัง คุยเก่งกับแค่บางคน... เป็นคนที่เหมือนจะ extrovert แต่จริๆคือ introvert... บางคนจะมองว่าเราซับซ้อน บางคนบอกเหมือนจะง่ายแต่เข้าไม่ถึง มีเพื่อนที่เข้าถึงเราได้แบบจับกลุ่มเฮฮา เรายอมไปไหนด้วยไม่มาก...
และการเจอกันกับเพื่อนจริงในชีวิตน้อยมาก ต่างคนต่างโตมีภาระหน้าที่การงาน มีครอบครัวมีวิถีชีวิตของตัวเอง
.... ตัวเองจำชื่อคนก็ไม่เก่ง รุ่นพี่รุ่นน้อง ชื่อเสียงเรียงนามบางทีนึกไม่ออก... ทำให้เราเข้าสังคมไม่เก่ง อึดอัดเวลาไปงานสังสรรค์ใหญ่ๆ... ทั้งงานเราอาจจำได้แค่ไม่กี่คน
ตอนนี้เพื่อนถ้าจะเจอก็เจอกันผ่านพื้นที่โซเซียลมีเดีย มากกว่าชีวิตจริง
โซเซียลพื้นที่ที่คนอวดความสุขให้กันดู ไม่แปลก และไม่ผิด ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
คุณสมบัติหนึ่งของเราคือ ช่างสังเกตและใส่ใจ
เราจะเห็นเพื่อนผ่านโซเซียลของเราเป็นปกติ เหมือนเห็นปลาในตู้ว่ายไปมาที่เราดู เรารู้จักปลาแต่ละตัว ..... แต่บางวันปลาบางตัวมันจะหายไปทั้งๆที่มันชอบว่ายิอกมาบ่อยๆ หรือปลาบางตัวมันว่ายแปลกๆ....
เมื่อไหร่ที่ใครหายไป หรือเขามีคำพูดหรืออาการแปลกๆ...
เราคือหนึ่งในคนที่จะ ib เข้าไปหา... เงียบๆ
เขาจะอ่านแล้วไม่ตอบก็ได้ จะตอบก็ได้ แต่ข้อความนั้นจะทิ้งไว้คือ... เพื่อน พี่ หรือน้องคนนี้เป็นห่วง แม้ไม่เขียนคำนี้แต่ให้เขารู้ว่าห่วง
ถ้ามีอะไรอยากระบายก็พร้อมจะรับฟัง แต่ถ้าไม่อยากบอกอะไร แค่รู้ไว้ คนๆนี้อยู่ข้างๆ...
เมื่ออายุมากขึ้น เพื่อนสักคนบางครั้งแค่เพื่อนกินก็หายากขึ้นไปด้วย...
ยอมรับว่า เพื่อนบางคนสมัยเรียนไม่สนิทเลย เขามีกลุ่มเพื่อนของเขา เรามีกลุ่มเพื่อนของเรา ไม่ได้คลุกคลีใกล้ชิดกัน
แต่ในวันที่เขามีปัญหาที่สุดในชีวิต... ความทุกข์ ความตายรุมเร้า โรคร้ายซ้ำเติมครั้งแล้วครั้งเล่า...เงียบหาย
เราเพื่อนไม่สนิท ตัดสินใจ ib หา.... ทุกวัน หลายครั้งมาก จากแค่ยอมอ่านเป็นยอมตอบ และได้โทรหากัน จากคุยแค่วันนั้น เป็น อยากคุยตอนไหนก็โทรมา เรารับสายเสมอถ้ารับไม่ได้จะโทรกลับ...
ในวันนั้น เพื่อนที่ไม่เคยสนิทคนนี้ เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เขา...
ตอนนี้เขาผ่านจุดเลวร้ายได้อย่างแข็งแรง มีชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่มีความสุขตามอัตภาพ มีครอบครัวที่แข็งแรงดูแลกัน.... แต่ในวันที่ทุกข์วันนั้น ครอบครัวอาจไม่ใช่คำตอบของคนที่เขาจะบอกอะไร....
เพื่อนคือพื้นที่ปลอดภัยในวันนั้น...
เขายังโทรหาเราเป็นครั้งคราว
แม้ในวันที่เขามีความสุขดี
และเรื่องราวทั้งหมดของเพื่อนในพื้นที่ส่วนตัว
คือความลับ... เพราะความลับทำให้คนรู้สึกปลอดภัยที่จะบอกเล่าความทุกข์ใจ... แม้เขาอาจจะไม่ได้เล่าแค่เราคนเดียว นั่นสิทธิ์ของตัวเขา
แต่เรื่องของเขาให้มันจบที่เรา
อายุเยอะขึ้นค่ะ...
การมองเรื่องเพื่อนมันเปลี่ยนไปตามวัย
เรามีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นแบบอย่าง
เป็นไอดอลของเรา ผู้หญิงที่เข้มแข็ง อาจหาญ กล้าตายคนเดียว แต่เมตตาสูงมาก เมตตาที่ไม่ข้องเกี่ยวยึดติดกับใคร เมื่อเราออกมาไม่เคยถามหา ไม่มาตอแยงอแงด้วย แต่เวลาไปหา ดูแลอย่างดีใส่ใจ เหมือนจะห่างกันไม่ได้ ...
ท่านบอกถ้าเอาใจไปข้องกันมันทุกข์
เราจะไป ไม่ข้องกับใครทั้งนั้น เราไม่เอาอะไร เรามั่นใจท่านบอกเราแบบนี้
แต่ช่วยเหลือ ดูแล เกื้อกูลคนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อย่างไม่เห็นแก่ตัวเอง ช่วนเหลือผู้คนเยอะมาก...
อายุจะแปดสิบแล้วยังทำงานช่วยเหลือผู้คนอย่าหนัก...
ผู้หญิงตัวเล็กๆ สุขภาพไม่ดีที่แม้แต่นอนเอาสบายให้ตัวเองยังไม่ทำเลย
โฆษณา