17 พ.ย. เวลา 00:40 • ข่าว

อัพเดทความก้าวหน้าด้าน AI กับวงการสื่อสารมวลชนในปี 2024

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของชีวิตประจำวัน การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในงานข่าวและประชาสัมพันธ์ถือเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งการผลิต การบริหารจัดการ และการนำเสนอเนื้อหาอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะสำรวจถึงการประยุกต์ใช้ AI ในวงการข่าวและประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่การสร้างเนื้อหา การวิเคราะห์ข้อมูล จนถึงแนวโน้มในอนาคต พร้อมทั้งยกตัวอย่างจากทั้งระดับสากลและในประเทศไทย
AI กับการปฏิวัติวงการข่าว
การใช้ AI ในงานข่าวเริ่มต้นจากการพัฒนาระบบที่ช่วยให้นักข่าวและบรรณาธิการสามารถผลิตเนื้อหาได้รวดเร็วขึ้น และยังช่วยในการตรวจสอบข้อมูลอย่างแม่นยำ ตัวอย่างสำคัญที่เห็นได้ชัดคือ Associated Press (AP) ซึ่งเป็นสำนักข่าวชั้นนำระดับโลกที่เริ่มใช้ AI ในการผลิตบทความข่าวเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ระบบ AI ช่วยให้ AP สามารถเพิ่มจำนวนบทความจาก 300 บทความต่อไตรมาสเป็น 3,700 บทความต่อไตรมาส หรือประมาณ 40,000 บทความต่อปี นี่เป็นการแสดงถึงศักยภาพของ AI ในการช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของการผลิตเนื้อหาในเวลาอันสั้น
นอกจาก AP แล้ว สำนักข่าวอื่นๆ ก็เริ่มนำ AI มาใช้ในงานข่าว เช่น Bloomberg ที่ใช้โปรแกรม Cyborg ในการวิเคราะห์รายงานการเงินและเขียนบทความข่าวเกี่ยวกับข้อมูลตัวเลขอย่างรวดเร็ว หรือ Reuters ที่พัฒนาเครื่องมือ Lynx Insight เพื่อช่วยนักข่าวค้นหาข้อมูลและแนวโน้มที่น่าสนใจในข่าวสารจำนวนมหาศาล
สำหรับการใช้ AI ในด้านอื่นๆ ของงานข่าว เช่น Yle จากฟินแลนด์ได้พัฒนาระบบ "Voitto" ที่ทำหน้าที่เป็นนักข่าวหุ่นยนต์ สร้างบทความและภาพประกอบโดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยแนะนำข่าวที่เหมาะสมสำหรับผู้อ่าน ขณะที่ The Guardian และ The New York Times กำลังทดลองใช้ AI ในการเขียนบทความ สรุปเนื้อหา และสร้างคำบรรยายภาพ
นอกจากนี้ หน่วยงาน วิทยุรัฐสภา สังกัดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งทีมศึกษา AI นวัตกรรม ในการผลิตข่าวสาร ภาพและเสียง และอยู่ในการพัฒนาศึกษา AI เฉพาะด้าน เพื่อใช้งานด้านการแปลภาษาและสรุปข่าวข้อมูล pdf word หรือข้อมูลมากๆ เพื่อผลิตคอนเทนน์ที่หลากหลาย เพื่อบริการหน่วยงานภายในรัฐสภา อาทิ ภาควิชาการ สื่อสารมวลชน การผลิตสื่อของหน่วยงาน และงานบริการประชาชนอีกด้วย
AI ในงานประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร
ไม่เพียงแต่วงการข่าวที่ได้รับประโยชน์จาก AI วงการประชาสัมพันธ์ (PR) และการตลาดก็เริ่มนำ AI มาใช้เช่นกัน โดยเฉพาะในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างสรรค์เนื้อหา และการจัดการแคมเปญ ตัวอย่างที่น่าสนใจคือบริษัทด้านประชาสัมพันธ์เช่น **Publicis Groupe** ซึ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม "Marcel AI" และ "Publicis GPT" เพื่อช่วยนักวางแผนในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคและสร้างกลยุทธ์ที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น
ในประเทศไทย องค์กรประชาสัมพันธ์ชั้นนำอย่าง **ไทยพีบีเอส** ได้ใช้ AI ในการสร้างภาพ วิดีโอ และแช็ตบอตเพื่อตอบคำถามจากผู้ชม ขณะที่ **สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA)** และ **เนคเทค** ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานประชาสัมพันธ์ เช่น การสร้างข้อความและภาพประกอบอัตโนมัติ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย
นอกจากนี้ **การประยุกต์ใช้ Generative AI** เช่น การใช้โมเดล GPT ในการเขียนบทความหรือสร้างเนื้อหาก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย Generative AI สามารถช่วยลดเวลาที่ใช้ในการสร้างเนื้อหา และเพิ่มความสามารถในการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในทันที
ตัวอย่างการใช้ AI ในวงการสื่อไทย
ในประเทศไทย การนำ AI มาใช้ในวงการข่าวและประชาสัมพันธ์ยังอยู่ในระยะแรกเริ่ม แต่ก็มีความก้าวหน้าอย่างน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น:
1. ไทยพีบีเอส : สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้เปิดตัว "สุทธิชัย AI" นักข่าวหุ่นยนต์คนแรกของไทยที่สามารถรายงานข่าวได้สามสำเนียง ทั้งภาษากลาง ภาษาเหนือ และภาษาอีสาน
2. ไทยรัฐ: ทดลองใช้ AI ในการเขียนข่าวกีฬาและวิเคราะห์ผลการแข่งขันฟุตบอล
3. กรุงเทพธุรกิจ: ใช้ AI ในการสร้างกราฟิกและแผนภูมิประกอบข่าว โดยเฉพาะในข่าวเศรษฐกิจ
4. The Standard: ใช้ AI ในการสร้างอินโฟกราฟิกและสรุปข่าวที่ซับซ้อนให้อ่านง่ายยิ่งขึ้น
5. ช่อง 7HD และช่อง 3 : อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ AI เพื่อช่วยในการจัดการคลังข้อมูลและสร้างเนื้อหาสำหรับแพลตฟอร์มออนไลน์
ความท้าทายและจริยธรรมในการใช้ AI
แม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานข่าวและประชาสัมพันธ์ได้อย่างมาก แต่ก็มีข้อท้าทายสำคัญที่ต้องพิจารณา เช่น
ความแม่นยำของข้อมูล : AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือมีอคติจากชุดข้อมูลที่ใช้ฝึกโมเดล
จริยธรรม : การใช้ AI ในการผลิตเนื้อหาอัตโนมัติอาจก่อให้เกิดความกังวลเรื่องจริยธรรม เช่น การเขียนข่าวโดยไม่มีการตรวจสอบจากนักข่าวมนุษย์
การลดจำนวนงานของมนุษย์ : แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็อาจส่งผลให้เกิดการลดจำนวนพนักงานในบางตำแหน่ง
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ หลายองค์กรได้วางแนวปฏิบัติและจริยธรรมในการใช้ AI เช่น การกำหนดให้ทุกเนื้อหาที่ผลิตโดย AI ต้องผ่านการตรวจสอบจากบรรณาธิการมนุษย์ก่อนเผยแพร่ หรือการเพิ่มความโปร่งใสในการบอกให้ผู้อ่านทราบว่าเนื้อหานั้นสร้างโดย AI
อนาคตของ AI ในวงการข่าวและประชาสัมพันธ์
การพัฒนา AI ในวงการข่าวและประชาสัมพันธ์ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีความเป็นไปได้ที่ AI จะเข้ามาช่วยในด้านต่างๆ เพิ่มเติม เช่น:
1. การตรวจสอบข้อเท็จจริง : AI สามารถช่วยนักข่าวในการตรวจสอบข้อมูลและข่าวปลอมได้รวดเร็วขึ้น
2. การปรับแต่งเนื้อหาแบบเรียลไทม์ : AI อาจช่วยสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลาต่างๆ
3. การปรับปรุงการมีส่วนร่วมของผู้ชม : ระบบ AI อัจฉริยะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ชมและแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมที่สุด
แม้ AI จะไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ในงานข่าวและประชาสัมพันธ์ แต่ AI เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้นักข่าวและผู้เชี่ยวชาญด้าน PR สามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์เชิงลึกมากขึ้น
สรุป
AI ได้เปลี่ยนแปลงวงการข่าวและประชาสัมพันธ์ไปในทางที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยลดภาระการทำงานซ้ำซ้อน เพิ่มความเร็วในการผลิตเนื้อหา และช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด อย่างไรก็ตาม การใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังคงมีความสำคัญ เพื่อรักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเนื้อหาในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญเช่นนี้
ปิยะพล พวงแก้ว
นักวิขาการสื่อใหม่
และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI MEDIA รายงาน
โฆษณา