Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BirdBrand
•
ติดตาม
17 พ.ย. เวลา 01:23 • ธุรกิจ
แง่คิดจากภาพยนตร์เรื่อง The Apprentice
ที่ดูก็เพราะอยากเรียนรู้วิธีการทำธุรกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ดูซิว่า เขามีวิธีการอย่างไร?
เรื่องราว The Apprentice ของผู้กำกับชาวอิหร่าน-เดนมาร์ก อย่าง Ali Abbasi ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงตัวละครอย่าง Donald Trump ในวัยหนุ่ม (รับบทโดย Sebastian Stan) ได้อย่างน่าประทับใจแต่อย่างใด ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวในช่วงแรกของ Trump โดยเริ่มต้นจาก "Little Donnie" ลูกชายคนที่สองของพ่อที่ชอบออกคำสั่งและเยาะเย้ยเขาว่า เป็นลูกชายที่ "ต้องการความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาอยากจะได้รับ"
จากที่ภาพยนตร์บอกเล่า Trump ในช่วงหนุ่มได้พบกับทนายความ ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นทนายมือขวาที่หลายคนเกรงขามและมีสายสัมพันธ์ดีอย่าง Roy Cohn (รับบทโดย Jeremy Strong จากภาพยนตร์เรื่อง Succession ซึ่งถ่ายทอดความเข้มข้นอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาออกมาได้อย่างน่าสะพรึงกลัว) ที่เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของเขา
Roy เริ่มต้นหล่อหลอม Trump หนุ่มให้เป็นผู้ชนะ ให้เขาท่องกฎ 3 ข้อเพื่อความสำเร็จของเขา
ข้อ 1: โจมตี โจมตี โจมตี
ข้อ 2: ไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ ปฏิเสธทุกอย่างไว้ก่อน
ข้อ 3: อ้างชัยชนะเสมอ อย่ายอมรับความพ่ายแพ้
บทเรียนที่ได้เรียนรู้จากที่ได้ Roy มาเป็นปรึกษาของเขาคือ
- การหลอกลวง
- การโอ้อวด
- ความเย่อหยิ่ง
- ความโลภ
- และความต้องการที่จะชนะไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
Trump มองเขาด้วยความสนใจหรือเคารพแบบเดียวกับลูกนกที่เพิ่งฟักออกมาจากไข่และมองแม่ของมันเป็นครั้งแรก เขากลืนภูมิปัญญาของ Roy เข้าไปทั้งตัวและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นบุคลิกภาพ และด้วยความขัดแย้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกศิษย์จึงล้มล้างอาจารย์ และได้ปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมา
หล่อหลอมให้ Trump ที่เรารู้จัก เป็นเช่นในปัจจุบัน!
The Apprentice ไม่ได้เจาะลึกถึงแง่มุมที่แปลกประหลาดและสุดโต่งของวิวัฒนาการการทำธุรกิจของ Trump แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แสดงด้านหนึ่งของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งคุณสงสัยว่า ตัวเขาเองก็คงไม่อยากให้ใครเห็น Trump เป็นบุคคลที่อ่อนแอและอ่อนไหวอย่างไม่คาดคิด เป็นคนที่สร้างความประทับใจได้ง่าย และการเข้าใจผิดของเขาที่ว่า การกลั่นแกล้งคือความแข็งแกร่งที่เขามี และมองว่า อำนาจเป็นสิ่งที่ควรนำมาใช้เป็นอาวุธ
จึงไม่น่าแปลกใจที่ Trump รู้สึกไม่พอใจกับการแสดงออกของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทนายความของเขาได้ส่งจดหมายถึงผู้อำนวยการสร้างเพื่อให้ยุติการดำเนินการ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่นานหลังจากฉายรอบปฐมทัศน์ที่เมืองคานส์ในเดือนพฤษภาคม Trump ได้บรรยายภาพยนตร์เรื่องนี้บนโซเชียลมีเดียว่า เป็น "งานแฮ็กที่น่ารังเกียจทางการเมือง" แม้ว่าความดิบเถื่อนนิดๆ จะทำให้ผู้ชมบางส่วนพอใจ แต่การที่ Trump แสดงความโกรธแค้นอย่างรุนแรงต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องมีบางอย่างที่ถูกต้อง! 😂
ภาพยนตร์ยังกล่าวอีกว่า อิทธิพลอันชั่วร้ายที่แผ่ขยายของ Roy ที่มีต่อประเทศที่เขามักอ้างว่า รับใช้ประเทศ (คุ้นๆ กับนักการเมืองไทยที่ชอบอ้างรับใช้ประชาชน!) ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในปัจจุบัน แม้จะเกือบ 40 ปีหลังจากที่เขาเสียชีวิต
สรุปบทเรียนที่ได้คือ ความมุ่งมั่นและตั้งใจแบบ Trump เป็นสิ่งดี แต่ถ้าคิดจะสร้างแบรนด์ให้มีคุณค่าและยั่งยืน ก็อย่าทำแบบ Trump! 😁
Credit: The Guardian
เกร็ดเล็กๆ ของแบรนด์ by BirdBrand
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย