17 พ.ย. เวลา 13:50 • หนังสือ

ฤดูร้อนเมื่อครั้งประถมผมได้เป็นอัศวิน

วรรณกรรมเยาวชนที่หน้าปกสดใสสมกับภาพความทรงจำของหน้าร้อนในวัยเด็ก จาก แพรวสำนักพิมพ์ อย่าง #ฤดูร้อนเมื่อครั้งประถมผมได้เป็นอัศวิน เป็นหนังสือที่ทำเราตกใจเพราะปกหน้ากับปกหลังที่บรรยากาศต่างกัน ตอนเผลอวางคว่ำหน้าครั้งแรกถึงกับงงว่าหนังสือชั้นหายไปไหน แล้วเล่มนี้มันเรื่องอะไรหว่า 😆 เรียกได้ว่าปกหลังสวยไม่แพ้ปกหน้าเลย
"ฮิโระ" เด็กชายขี้ขลาดที่ชอบฝันเฟื่อง, "โยสุเกะ" เด็กชายเจ้าเนื้อที่เรียนไม่เอาไหนสุดๆ และ "เคนตะ" เด็กชายบ้านรวยที่พูดติดอ่าง ในช่วงประถมปลายทั้งสามคนเรียกได้ว่าเป็นเด็กที่ไม่มีดีอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรือเรื่องกีฬา แต่วันหนึ่งเมื่อฮิโระได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของอัศวินโต๊ะกลม เขาก็เกิดความรู้สึกอยากจัดตั้งหน่วยอัศวินขึ้นมาบ้าง โดยหวังว่ามันจะช่วยให้เขากลายเป็นคนที่กล้าหาญมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน เมืองเล็กๆที่พวกเขาอยู่ก็ได้เกิดคดีฆาตกรรมเด็กหญิงวัยเดียวกับทั้งสามคนขึ้น หน่วยอัศวินของพวกเขาจึงจัดประชุมกันในฐานลับใต้ดินว่าจะช่วยกันสืบหาตัวคนร้ายให้ได้ เพื่อปกป้อง "อาริมุระ ยูโกะ" เพื่อนร่วมห้องสุดสวยที่พวกเขายกย่องให้เป็นเลดี้ ระหว่างนั้นพวกเขาก็ได้ประสบพบเจอกับเรื่องราวอีกมากมายที่เข้ามาท้าทาย เด็กๆแห่งหน่วยอัศวินจะบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้หรือเปล่า มาเอาใจช่วยพวกเขากันเถอะ
โดยภาพรวมแล้วเล่มนี้เป็นหนังสือที่น่ารักมากๆ อ่านแล้วชวนให้คิดถึงชีวิตตัวเองตอนยังเป็นเด็ก เลิกเรียนมาก็ได้ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อน สวมบทบาทตามแต่จินตนาการจะนำพา เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุดช่วงหนึ่งเลยล่ะ
แต่ในอีกมุม เรื่องนี้ก็ให้แง่คิดกับผู้อ่านหลายเรื่อง เช่น การไม่ตัดสินคนจากภาพลักษณ์ภายนอก เพราะคนส่วนใหญ่ล้วนมีเหตุผลในการแสดงออกของตัวเองทั้งนั้น อย่าง "มิบุ" เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของหน่วยอัศวินที่ปากคอเราะรายสุดๆ เดิมทีเธอไม่ได้เป็นคนแบบนี้ แต่ถูกคนอื่นๆรุมแกล้งจนเธอต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง หรือ "คุณยายผีดิบ" ที่อาศัยอยู่ใกล้โรงเรียนของเด็กๆเองก็ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เธอมีเรื่องราวที่เคยเจ็บปวดมากมาย เลยเลือกที่จะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้าน
กลับกันคนบางคนที่ภาพลักษณ์ภายนอกดูดี ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นคนดีไปเสียทั้งหมด มนุษย์แต่ละคนล้วนเป็นเฉดสีเทาๆกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการจะตัดสินว่าใครดีหรือไม่ดี ก็จงตัดสินจากมุมมองของตัวเราเอง ไม่ใช่จากความคิดของคนอื่น คนคนหนึ่งอาจจะเป็นตัวร้ายในเรื่องราวของใครสักคน แต่เป็นฮีโร่ในเรื่องราวของเราก็ได้ 😉
"แต่เด็กเรียนดีเองก็ยังคิดว่าการเรียนไม่ใช่เรื่องสนุก เพียงแต่พวกเขาเปลี่ยนความรู้สึกทนทรมานเป็นความรู้สึกที่ได้เติมเต็ม เปลี่ยนผลลัพธ์ที่เห็นให้เป็นความสนุกเท่านั้นเอง"
เราจะได้เห็นการเติบโตของตัวละครฮิโระ จากเด็กขี้เกียจที่เอาแต่เล่น ไม่สนใจการเรียนจริงจัง ก็เริ่มพัฒนาจนสามารถทบทวนบทเรียนเองได้่ ถึงแม้จะรู้ดีว่าการอ่านหนังสือไม่สนุกเหมือนการได้เล่นเกม แต่ฮิโระก็ยังพยายามอ่านหนังสือต่อไป เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเติมเต็มอีกแบบหนึ่งที่การเล่นเกมมอบให้ไม่ได้ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเสริมนิสัยที่ดี คือการรู้จักจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ตนเองต้องทำ
เราเชื่อว่าไม่มีเด็กคนไหนชอบการเรียนหรอก ผู้ใหญ่อย่างเราก็ไม่ชอบการทำงานเหมือนกัน 🤣 แต่คนทุกคนมีบทบาทและหน้าที่ของตนที่ต้องรับผิดชอบ เราต้องอดทนต่อความน่าเบื่อ ความซ้ำซาก และบางทีก็อาจจะเป็นความผิดหวัง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจ หลายครั้งมันอาจจะยาก และระหว่างทางก็อาจจะรู้สึกท้อไปบ้าง แต่ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ เราก็ต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อมัน เพื่อให้ตัวเองยังคงรู้สึกสนุกในขณะที่ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
แน่นอนว่าตัวฮิโระในวัยเด็กไม่ได้คิดได้ถึงขนาดนี้ แต่ฮิโระในวัยผู้ใหญ่ที่เป็นคนดำเนินเรื่องหลักต่างหากที่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีตของตัวเอง ซึ่งทำให้เราเห็นว่าเศษเสี้ยวของชีวิตในวัยเด็กนั้นมีอิทธิพลสำคัญต่อปัจจุบันของเราไม่น้อย ยังไม่นับเรื่องที่ฮิโระอยากจะยืนหยัดปกป้องตัวเองและเพื่อนของเขาในวัยเด็ก ต้นอ่อนของความกล้าหาญในตอนนั้นจึงเริ่มหยั่งรากและค่อยๆเติบโตขึ้น จนในที่สุดมันก็กลายเป็นพื้นฐานของชีวิตที่ช่วยให้ฮิโระฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้
"เป็นเด็กที่ถ้าตั้งใจก็ทำได้จริง ๆ ต่างหาก"
หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่าเด็กๆมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าที่เราคาดคิดเสียอีก พลังที่ว่าก็คือความสามารถในการจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง พวกเขาอาจจะขี้ขลาดมาก่อน แต่เมื่อตั้งใจแล้วว่าอยากเป็นคนที่กล้าหาญมากขึ้น ก็สามารถเอาชนะความกลัวของตัวเองได้สำเร็จ พวกเขาอาจจะเป็นคนที่เรียนไม่ได้เรื่อง แต่เมื่อมีเป้าหมายที่อยากจะไขว่คว้ามาแล้ว ก็มุมานะจนไปถึงจุดนั้นได้ในที่สุด
พลังเช่นนี้ก็มีอยู่ในตัวของผู้ใหญ่เช่นกัน เพียงแต่ว่าเมื่ออายุมากขึ้นเราก็เริ่มจะเหนื่อยล้าและยอมแพ้ต่อสิ่งต่างๆในชีวิตง่ายขึ้น บ่อยครั้งที่เราละทิ้งความฝันของตัวเองตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เพียงเพราะกลัวว่ามันจะล้มเหลว โดยที่หลงลืมไปว่าขอแค่เราตั้งใจจะทำ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อมีคนที่พร้อมจะสนับสนุนและต่อสู้เคียงข้างเราด้วยล่ะก็ ทุกสิ่งในโลกนี้ก็ล้วนเป็นไปได้
ใครกำลังมองหาหนังสืออ่านง่ายๆ สบายๆ ไว้อ่านในช่วงวันหยุด แนะนำเลยค่ะ https://s.shopee.co.th/2AxjyfuAqp
โฆษณา