18 พ.ย. เวลา 01:55 • การศึกษา

เป็นเรื่องที่เพิ่งรู้ เรื่อง พระเขี้ยวแก้วองค์ที่สี่

เมื่อก่อนเข้าใจมาช้านานว่า พระเขี้ยวแก้วมีสี่องค์ องค์ที่ 1 อยู่ที่ประเทศศรีลังกา องค์ที่ 2 อยู่ที่ประเทศจีน องค์ที่ 3 อยู่ที่เจดีย์จุฬามณีชั้นดาวดึงส์ ส่วนองค์ที่ 4 นั้นเข้าใจว่าหายสาบสูญ มีแต่คำร่ำลือว่าอยู่ที่วังพญานาค เพิ่งจะรู้เมื่อสองวันนี้เองว่าพระเขี้ยวแก้วองค์ที่ 4 นี้อยู่ที่ฝอกวงซัน ไต้หวัน
พระเขี้ยวแก้วองค์นี้ประดิษฐานอยู่ในห้องวิหารหยก เหนือพระหยกที่ประเทศพม่านำถวาย (เสียดายที่ผู้ดูแลไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป)
ตามบันทึกเหตุการณ์อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาไต้หวัน ของพระซิงอวิ๋น (恭迎佛牙舍利來台記) ในนั้นท่านได้บรรยายที่มาที่ไปไว้อย่างละเอียด ขอสรุปย่อดังนี้ว่า
พระเขี้ยวแก้วองค์นี้ เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดนาลันทาประเทศอินเดีย หลังเหตุการณ์ทหารมุสลิมบุกยึดดินแดนอินเดีย ได้มีกษัตริย์แห่งเมืองทิเบตนามว่า ชิวจี๋พ่าปา (丘極帕巴) ได้ทรงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วองค์นี้ไปประดิษฐานที่เมืองทิเบต
ต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรมขึ้นที่ประเทศจีน วัดที่บูชาพระเกี้ยวแก้วองค์นี้ได้ถูกทำลาย ก้งเก่อตัวเจี๋ยเหยินปอเชี่ย (貢噶多傑仁波切) จึงได้นำไปเก็บรักษาไว้อย่างมิดชิด ท่านผู้นี้เดินทางข้ามภูเขาหิมาลัยไปที่ทางตอนใต้ของอินเดีย มีอยู่หลายครั้งที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด หลังจากนั้นมา ท่านก็เก็บพระเขี้ยวแก้วไว้กับตัวอย่างมิดชิดโดยไม่บอกให้ใครรู้เป็นเวลานานถึง 30 ปี
ตราบกระทั่งปี 1997 ขณะที่พระซิงอวิ๋นกำลังจัดงาน ผู้มีใจรักใจเมตตา (慈悲愛心人) อยู่นั้น ก็ได้มีพระลามะชั้นผู้ใหญ่ได้เดินเข้ามาหาและแจ้งว่า จะขอมอบพระเกี้ยวแก้วให้กับพระซิงอวิ๋น เก็บรักษา พร้อมกับนำจดหมายภาษาทิเบตที่ได้แปลเป็นภาษาจีนเรียบร้อยแล้ว มอบให้พระซิงอวิ๋นอ่าน จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่ได้มีการเซ็นรับรองจากพระลามะผู้ใหญ่จำนวนหนึ่ง เนื้อหาจดหมายบอกที่มาที่ไปประมาณว่า
ก้งเก่อตัวเจี๋ยเหยินปอเชี่ย (貢噶多傑仁波切) ซึ่งในขณะที่เขียนจดหมายนั้นมีอายุ 67 ปี ได้เล็งเห็นว่าตนมีอายุที่มากแล้ว สังขารไม่มีอะไรยั่งยืนนาน เห็นควรที่จะต้องมอบพระเขี้ยวแก้วองค์นี้ให้กับผู้เหมาะสมทำการเก็บรักษา หลังจากได้พิจารณาปรึกษาหารืออย่างถ้วนถี่แล้ว ทุกคนเห็นว่าพระซิงอวิ๋นมีความเหมาะสมมากที่สุด
แน่นอนว่าพระซิงอวิ๋นดีใจระคนประหลาดใจยังบอกไม่ถูก ถึงกับอุทานขึ้นในใจว่า "จะมีเรื่องดีขนาดนี้ได้เลยหรือ"
แน่นอนว่าพระซิงอวิ๋นยินดีที่จะรับพระเขี้ยวแก้วองค์นี้ไว้ แต่ต้องรับเงื่อนไขข้อ หนึ่ง นั่นก็คือจะต้องสร้างวิหารบูชาพระเขี้ยวแก้วองค์นี้อย่างสมพระเกียรติ และนี่ก็คือที่มาที่ไปในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์พระพุทธเจ้า (佛陀紀念館) ขึ้น
ทุกท่านทราบหรือไม่ว่าพระเขี้ยวแก้วองค์นี้ได้ดำเนินการส่งมอบที่เมืองไทย โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นผู้ทรงดูแลขั้นตอนความปลอดภัยของการส่งมอบอีกด้วย พร้อมกันนี้ สมเด็จพระญาณสังวรยังได้ทรงหล่อพระทองคำประดิษฐานไว้ที่ฝอกวงซันที่วิหารพระทองคำนี้อีกด้วย
ท่านที่ไปท่องเที่ยวที่วัดฝอกวงซัน ควรจะต้องไปสักการะพระเขี้ยวแก้วที่นั่นสักครั้ง เสียดายที่ภิกษุณีที่ดูแลสถานที่ไม่อธิบายรายละเอียดเหล่านี้เลย
โฆษณา