18 พ.ย. เวลา 09:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 11 – 15 พ.ย. 2567

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง หลังมีแรงขายทำกำไร และ Fed ส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย
  • รีพับลิกันคว้าชัย กวาดเสียงข้างมากทั้งสองสภา เตรียมรับมือนโยบายใหม่
  • ตลาดยังคาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.
  • ราคาน้ำมันลดลง หลัง OPEC-IEA คาดอุปสงค์น้ำมันทั้งปีนี้และปีหน้าลดลง
  • อสังหาริมทรัพย์ฉุดภาพเศรษฐกิจจีน ตลาดยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นอื่นๆ จากทางการจีนเพิ่มเติม
สถานการณ์ตลาด
  • ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มย่อตัวลดลงหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งมีการประกาศผลการเลือกตั้ง โดยดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลง 2% และ Nasdaq ลดลง 3% WoW การปรับตัวลดลงนี้มาจาก:
o แรงขายทำกำไรของนักลงทุน
o ประธาน Fed ส่งสัญญาณไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ย
  • ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ล่าสุดพรรครีพับลิกันได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งส่งผลให้พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้การผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
  • ตลาดยังคงจับตาประเด็นนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้า (Tariff) ซึ่งจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. 2568
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดย Headline CPI อยู่ที่ +2.6% (YoY) และ +0.2% (MoM)
  • ปัจจัยต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเด็นหลักคือ การส่งสัญญาณว่าไม่จำเป็นต้องรีบลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังดี ตลาดแรงงานแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% โดยมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • ตลาดมองว่า โอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือน ธ.ค. ลดลงเหลือ 60% ด้านตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ โดย Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.4%
  • ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจาก
o OPEC ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกทั้งปีนี้และปีหน้าลง ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดประมาณการลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 สาเหตุหลักจากอุปสงค์จากจีนที่ยังอ่อนแอ
o แรงกดดันจากที่ IEA คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะล้นตลาดกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์การบริโภคน้ำมันดิบลดลง ปริมาณการผลิตสูงกว่าความต้องการ
  • ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง WoW แม้ระหว่างสัปดาห์ทางการจีนจะมีการประกาศลดภาษีการซื้อบ้านหลังแรกและหลังที่สองปรับลดจากอัตราสูงสุด 3% เหลือ 1%
  • ตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ต.ค. โดยรวมยังเป็นแบบผสมผสาน โดย
o ตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sales) ออกมา 4.8% YoY มากกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.8% และมากกว่าเดือนก่อนที่ 3.2%
o ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) และ ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment) ยังออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด
o โดยรวมภาคอสังหาฯ ยังเป็นตัวฉุดภาพเศรษฐกิจ เพราะตัวเลขการลงทุนในภาคอสังหาฯ เดือน ม.ค. – ต.ค. ติดลบ 10% YoY และยอดปล่อยกู้ใหม่ในเดือน ต.ค. ยังคงชะลอตัวลง
o ตลาดยังคาดหวังมาตรการอื่นๆ ทั้งการรับมือจากการที่ทรัมป์จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการสนับสนุนภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา