18 พ.ย. เวลา 08:20 • การตลาด

เปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดด้วย ‘Community’ เคล็ดลับเพิ่มยอดขายที่แบรนด์ต้องรู้ในปี 2025

ในปี 2025 การสร้าง "Community" จะกลายเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำ Influencer Marketing โดยอินฟลูเอนเซอร์จะมีบทบาทหลักในการสร้างคอมมูนิตี้ที่มีผู้ติดตามแน่นแฟ้น แบรนด์ต่างๆ ที่เข้ามาร่วมและสนับสนุนคอมมูนิตี้เหล่านี้จะได้ประโยชน์ เพราะการมีส่วนร่วม (Engagement) กับชุมชนทำให้คนรู้สึกใกล้ชิดและเกิด Brand Loyalty มากขึ้น
🗣บทบาทของ Influencers ในการสร้าง Community
เมื่อก่อน อินฟลูเอนเซอร์อาจถูกมองว่าเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับโปรโมตสินค้า แต่ในปัจจุบัน อินฟลูฯ กลายเป็นทั้ง “ผู้สร้าง” และ “ผู้นำ” ของคอมมูนิตี้ที่มีการเชื่อมโยงกับผู้ติดตามอย่างลึกซึ้ง
คอมมูนิตี้ที่มีความเชื่อมโยงทางอารมณ์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะผู้ติดตามชื่นชอบสินค้า หรือบริการที่อินฟลูเอนเซอร์นำเสนอ แต่เป็นเพราะผู้ติดตามรู้สึก ผูกพัน หรือ อิน กับตัวตน แนวคิด หรือเนื้อหาที่อินฟลูเอนเซอร์สร้างขึ้น
คอมมูนิตี้เหล่านี้มักมีระดับ Engagement ที่สูงกว่าช่องทางการตลาดอื่น ๆ เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มรู้สึกถึงความใกล้ชิดและได้รับคุณค่าจากคอนเทนต์ที่ติดตาม จากอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาชื่นชอบ นั่นทำให้การมีส่วนร่วมภายในคอมมูนิตี้แตกต่างจากการตลาดแบบเดิมอย่างชัดเจน
💬ข้อดีของการสร้าง Community เพื่อแบรนด์
1. เพิ่มการมีส่วนร่วม (Higher Engagement)
คอมมูนิตี้เป็นพื้นที่ที่สมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างปฏิสัมพันธ์กัน การที่แบรนด์เข้าไปมีส่วนร่วมในพื้นที่นี้ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าแน่นแฟ้นขึ้น
2. สร้างความน่าเชื่อถือ (Brand Trust)
เมื่อแบรนด์ร่วมมือกับคอมมูนิตี้ที่มีอยู่ และเป็นคอมมูนิตี้ที่มีค่านิยมเหมือนกับแบรนด์ จะช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์นั้นโปร่งใสและจริงใจ การเข้าร่วมกิจกรรมหรือแคมเปญสำคัญในคอมมูนิตี้ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มความไว้วางใจในแบรนด์ได้อีกด้วย
3. เพิ่มความใกล้ชิดและความภักดี (Brand Loyalty)
การสร้างคอมมูนิตี้ที่ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมได้ ทำให้แบรนด์กลายเป็นมากกว่าผู้ขายสินค้า แต่เป็นผู้สนับสนุนที่อยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลา ความสัมพันธ์แบบนี้จะสร้างความภักดีระยะยาวที่ยากจะหาได้จากการตลาดรูปแบบอื่น
🤝แบรนด์จะเข้าร่วมคอมมูนิตี้ได้อย่างไร?
การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่มีอยู่แล้วไม่ยาก แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี โดยไม่พยายามควบคุมหรือบังคับ แต่ให้มีส่วนร่วมด้วยความจริงใจ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติ แบรนด์ที่เข้ามามีบทบาทในคอมมูนิตี้อย่างธรรมชาติจะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกได้ง่ายกว่า เช่น การร่วมกิจกรรมใน TikTok ที่ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมผ่าน Duet หรือ Challenges
👍กลยุทธ์สร้าง Community แบบง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง
1. เข้าร่วมคอมมูนิตี้ที่มีอยู่แล้ว
ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นสร้างคอมมูนิตี้ใหม่ตั้งแต่ศูนย์ เพราะทั้งใช้เวลานานและเปลืองทรัพยากรเยอะ ทางที่ดีคือการเข้าร่วมกับชุมชนที่มีอยู่แล้ว และมีค่านิยมคล้ายกับแบรนด์ของเรา เช่น กลุ่มแฟนคลับหรือกลุ่มที่มีความสนใจเฉพาะด้าน
แล้วจะทำอย่างไร ให้ดูเป็นธรรมชาติ?
สนับสนุนกิจกรรมหรือเข้าร่วมแคมเปญที่เป็นที่นิยมในกลุ่มนั้น ๆ เช่น การร่วมเป็นผู้สนับสนุนงาน หรือส่งของรางวัลในกิจกรรมต่าง ๆ วิธีนี้ช่วยให้แบรนด์ดูมีส่วนร่วมและได้รับการยอมรับเร็วขึ้น
2. เลือกแพลตฟอร์มให้เหมาะกับคอมมูนิตี้
การเลือกแพลตฟอร์มที่ใช่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีกลุ่มเป้าหมายและรูปแบบการใช้งานที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
- TikTok: เหมาะกับการสร้างความสนุกและการมีส่วนร่วมผ่านฟีเจอร์อย่าง Duet หรือ Challenges
- Instagram: เหมาะกับคอนเทนต์ที่ต้องการความสวยงามและแรงบันดาลใจ ใช้ฟีเจอร์ Reels หรือ Stories เพื่อเพิ่มการเข้าถึง แบรนด์ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่ตรงกับลักษณะของคอมมูนิตี้ เพื่อให้การสื่อสารกับผู้ติดตามมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. เน้นสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า
"Content is king" ยังคงใช้ได้เสมอในโลกการตลาด เนื้อหาที่ดีต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้ติดตาม
แล้วอะไร ที่ทำให้คอนเทนต์มีคุณค่าและดึงดูดใจ?
- ให้ความรู้: เช่น เคล็ดลับหรือไอเดียที่นำไปใช้ได้จริง
- แรงบันดาลใจ: คอนเทนต์ที่ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกดีหรืออยากลงมือทำ
- ความบันเทิง: เนื้อหาที่สนุก ดูง่าย และแชร์ต่อได้ การสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจและเป็นประโยชน์ ทำให้แบรนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ติดตาม
โฆษณา