Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
18 พ.ย. เวลา 12:30 • การ์ตูน
EP : 1,288 Seven Shakespears : ขบวนการกวีเอกสะเทือนโลก
สร้างโลกแห่งดนตรี “ร็อค” จากเรื่องราวการเชื่อมต่อทางดนตรีผ่านวงร็อคเล็กๆวงหนึ่งจากญี่ปุ่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะเรื่องราวที่ “ต้องมี” เสียงในเรื่องนี้ สามารถทำให้คนที่ได้อ่าน “ได้ยินเสียง” และสัมผัสถึงความเร้าใจจากสิ่งที่เรียกว่าดนตรีได้อย่างไร้ที่ติ จนทำให้เรื่อง “BECK” เป็นหนึ่งในมังงะชั้นยอดที่หลายๆคนต่างลงความเห็นว่า “ห้ามพลาด” ต้องหาอ่านให้ได้เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
แม้จะเป็นอย่างนั้น ในบ้านเราผลงานของ อ. Harold Sakuishi ผู้เขียนเรื่อง BECK นี้กลับมีออกมาอีกแค่เรื่องเดียว นั้นก็คือเรื่อง RIN เท่านั้น หลังจากนั้นผมไม่พบว่าจะมีผลงานเรื่องอื่นของ อ. ออกมาให้แฟนๆบ้านเราได้อ่านกันอีกเลย
ไม่รู้เพราะเรื่อง RIN ในบ้านเราไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรหรือเปล่า หรือเป็นเพราะแนวทางการนำเสนอของ อ. อาจจะไม่ได้เอาใจตลาดหรือตามตลาดมากนัก ผลงานของ อ. แบบ LC ในบ้านเราจึงมีอยู่แค่ 2 เรื่องที่กล่าวมาครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากงานทั้ง 2 ก็คือ งานของ อ. แม้จะมีความเป็นตลาดระดับนึง แต่แนวทางหรือเรื่องที่หยิบมานำเสนอจะมีความแตกต่างกัน นี่เลยทำให้เมื่อผมเห็นมังงะเรื่องนี้จึงมีทั้งความแปลกใจและสงสัยว่างานเรื่องนี้ของ อ. จะเขียนและนำเสนอเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แม้มันจะชัดเจนว่าเป็นเรื่องราวของบุคคลสำคัญระดับโลกอย่างเขาคนนี้ก็ตาม “Seven Shakespears : ขบวนการกวีเอกสะเทือนโลก” ครับ
... “วิลเลียม เชกสเปียร์” ในโลกนี้คงมีคนจำนวนไม่มากนักที่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ ด้วยผลงานของเขาที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อกลางหลายรูปแบบ มาตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ทำให้เขาคือหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกในงานด้านกวี วรรณกรรม และบทละคร ที่คุณจะต้องเคยได้ยิน อ่าน หรือดูผลงานของเขามาบ้าง ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาแม้จะไม่รู้จักชื่อของเขาก็ตาม
ด้วยความสามารถด้านการเขียน การใช้ภาษา และนำเสนออารมณ์เรื่องราวของตัวละครผ่านบทละครที่สามารถสื่อสารกับผู้อ่านและผู้ดูได้อย่างเข้าถึง ไม่ต้องแปลกใจว่าเขาจะต้องมีทักษะในการใช้ภาษาที่หลากหลายและดีเยี่ยมขนาดไหน เพราะในช่วงปี 15-1600 นั้น ภาษาและการรู้หนังสือถือว่ายังมีต่ำมากๆแม้จะเป็นในที่ประเทศอย่างอังกฤษก็ตาม
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเขาเองแม้จะเคยเรียนหนังสือมาบ้าง ตัวเขาก็มีความแตกต่างจาก นักกวี ผู้เขียนบทละครที่มีชื่อเสียงคนอื่นในช่วงเดียวกัน ที่มักจะเป็นผู้มีการศึกษาสูงและจบมหาลัยมาทั้งนั้น เพราะการเข้าถึงหนังสือและบทประพันธ์ต่างๆ ณ ช่วงปี 15-1600 นั้นไม่ใช่เรื่องที่คนธรรมดาทั่วไปอย่างเขาจะทำได้ง่ายๆเลย
นี่จึงเป็นการนำเสนอเรื่องราวของเขา “วิลเลียม เชกสเปียร์” กับ 7 ปีที่หายไป ซึ่งไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในเอกสารและหลักฐานที่คนทั่วไปรับทราบ กับ “ช่วงปีที่หายไป” ของเขา ที่ทำให้เขาก้าวเข้ามายืนอยู่จุดสูงสุดของกวี นักประพันธ์ระดับโลก ใน Seven Shakespears : ขบวนการกวีเอกสะเทือนโลก ครับ
จากเรื่องย่อที่อธิบายไว้ Shakespears : ขบวนการกวีเอกสะเทือนโลก เป็นเรื่องราวที่นำเสนอเรื่องราวแนวชีวประวัติของ วิลเลียม เชกสเปียร์ กวีเอกคนนึงของโลก เพราะแบบนั้น ตั้งแต่ต้นด้วยความที่ผมไม่ได้สนใจตัวเชกสเปียร์อยู่แล้ว แม้เขาจะดังและเป็นที่รู้จักในวงกว้างของโลก ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เรื่องจะถูกนำเสนอออกมาอย่างไรครับ
แน่นอนเพราะผมไม่ได้ศึกษาประวัติของคนๆนี้มาก่อน ผมไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวที่ใส่มานั้นมันถูกต้อง หรือเหมือนกับข้อมูลทางการ ข้อมูลกระแสหลักหรือเปล่า ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นที่นักอ่านอย่างผมต้องการคือ เรื่องราวมันจะสนุกละน่าสนใจอย่าไรต่างหากครับ
ซึ่งถ้าบอกตรงนี้ผมก็ต้องบอกว่าเนื้อหามีทั้งความน่าสนใจและสนุกอยู่ไม่น้อย ในขณะเดียวกันก็มีบางอย่างที่ผมรู้สึกว่าเรื่องราวใส่เข้ามามากเกินไป ถ้ามองในฐานะของคนที่ไม่ได้ปลื้มหรือเป็นแฟนของเชกสเปียร์อยู่แล้วอย่างผมครับ
สิ่งที่น่าสนใจและผมมองว่าทำออกมาได้ดีมากๆ คือการผูกเรื่องราวช่วง 7 ปีก่อนที่เขาจะสร้างตัว สร้างชื่อเสียงของนักแต่งบทละคร นักกวีที่กำลังจะมีชื่อเสียง และอยู่ในกระแสหลักของการรับรู้ผู้คนในยุคนั้น เพราะสิ่งที่ อ. ใส่เข้ามา มันเกินกว่าที่ผมคิดว่าจะเอามาใช้ในงานแบบนี้นะ
การใส่ตัวละครหลักที่เป็น “หญิงสาว” ผู้เสมือนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากๆ ในการผลักดันตัวเชกสเปียร์ ผู้ซึ่งต้องการแสง นั้นออกมาในทรงของความเหนือธรรมชาติ เป็นโทนที่ผมไม่คิดว่าจะใส่เข้ามาในเรื่องราวของผู้ที่จะมีชื่อเสียงในด้าน บทกวี และบทละคร อย่างเขาเลยครับ ไม่มีอยู่ในหัวเลย
ตรงนั้นแหละที่ทำออกมาได้ดี ความที่ไม่คิดว่าแนวทางของเรื่องจะออกมาแบบนี้ ทรงนี้ และสามารถใส่เข้ามา จนทำให้จากเรื่องที่ผมไม่คิดว่ามันจะน่าสนใจหรือ เดาไม่ออกว่าจะออกมาแบบไหนให้ประทับใจผมนั้น มันออกมาสนุกและรู้สึกหยุดไม่อยู่เมื่อได้อ่าน เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมากๆครับ
แม้ส่วนหนึ่งมันออกจะแปลกไปซักหน่อยในเรื่องราวของนักกวี นักแต่งบทละครแบบนี้ แต่ความเนียนของการนำเสนอถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ในขณะเดียวกันตัวเรื่องก็ไม่ได้ใช้มุกนี้ในการขับเคลือนเรื่องราวไปตลอดทั้งเรื่อง เพราะเนื้อหาได้แบ่งพาร์ทของเรื่องราวออกเป็นหลายส่วนเพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องราวในเรื่องนี้คือเรื่องราวของบุคคลสำคัญระดับโลกอย่าง “วิลเลียม เชกสเปียร์” นั่นเองครับ
ด้วยการแบ่งเรื่องราวในการเล่าเป็นพาร์ทตามไทม์ไลน์ของตัวละคร ตัวเรื่องช่วยทำให้เราเปลี่ยนผ่านความสนใจใรระหว่างการอ่านได้สนุกขึ้น เพราะเขาแบ่งเป็นพาร์ทใหญ่ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดของเรื่องราวตัวละคร และเพื่อให้เห็นถึง “แรงขับ” ที่สำคัญอันทำให้ตัวเอกและพวกพ้องต้องการก้าวเดินไปข้างหน้า ส่วนนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจตัวละครตามการนำเสนอของ อ. เขาครับ
เพราะในแง่ของการใช้ชีวิต การที่ทำให้เราเข้าใจและสัมผัสได้ถึงแรงปราถนาของตัวละครในการไปสู่จุดหมายปลายทาง ยิ่งทำให้เราเข้าใจได้มากเท่าไหร่ คนอ่านอย่างเราจะเข้าถึงตัวละคร และจะทำให้เราลุ้นกับภารกิจการเผชิญอุปสรรคร่วมไปกับตัวละคร เสมือนเป็นหนึ่งในตัวละคร จุดนี้เป็นจุดที่ทุกเรื่องต้องทำให้ได้ และเรื่องนี้ก็พยายามทำตรงจุดนี้อย่างมาก ด้วยการฉายภาพของอดีตและช่วงเวลานั้น ว่ามันมีผลต่อชีวิตเขามากแค่ไหนครับ
ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ผมมองว่าเรื่องทำออกมาได้ดีมากๆ เพราะจากข้างต้น การที่ผมไม่ได้สนใจในตัว เชกสเปียร์ ตั้งแต่ต้น ทำให้ผมมองข้ามช่วงเวลาที่ตัวละครนั้นใช้ชีวิตอยู่จริงๆ ว่า ณ ตอนนั้น สภาพแวดล้อมและสถานการณ์อยู่ในลักษณะและแบบไหนครับ
แล้วมันสำคัญอย่างไรนะเหรอครับ สำหรับช่วงยุคสมัยและ “อังกฤษ” ในตอนนั้น ตอนที่ตัว เชกสเปียร์ กำลังใช้ชีวิตอยู่ ... ก็เหมือนกับเรื่องราวที่ชวนติดตามของบุคคลสำคัญในโลกนี้หลายๆคนที่ผมชื่นชอบ เพราะในยุคสมัยของ เชกสเปียร์ นั้น โลกยุโรปอยู่ในช่วงเวลาของการดิ้นรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของผู้คนที่ชวนให้ผมรู้สึกเศร้าและเห็นใจผู้คนในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างมากครับ
ด้วยการฉายภาพของ “ศาสนา ความเชื่อ และการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคนั้น” อย่างเต็มที่และเต็มไปด้วยรายละเอียด ไม่แปลกเลยหากใครอ่านเรื่องราวของ เขา แล้วจะรู้สึกเข้าใจว่าอะไรคือแรงผลักดัน ที่ทำให้ตัวเอกทั้งคู่ เดินก้าวไปข้างหน้าแบบนี้
ตรงนี้ผมออกจะปลงกับโลกของเราซักหน่อยนะครับ เพราะความเป็นมนุษย์นี่แหละ โลกมันถึงวุ่นวายขนาดนี้ กับการหยิบเรื่อง ศาสนา ที่แม้จะบอกว่ามาจากพระเจ้าองค์เดียวกัน แต่สุดท้ายมันก็วุ่นวายและทำให้เกิดการนองเลือดและทำให้ยุคสมัยนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลของผู้คนที่แม้จะอยู่ในศาสนาเดียวกันก็ตาม
เพราะต้องการเน้นย้ำและทำให้เห็นแรงขับ เนื้อหาเมื่อต้องการเล่าจึงจัดเต็มด้วยเวลาและรายละเอียดอย่างมาก ซึ่งทำให้เราเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก็นั่นแหละ อีกมุมนึงผมก็รู้สึกว่า หลายๆจังหวะเขาใส่เนื้อหาและรายละเอียดในยุคนั้นเข้ามามากจนเกินไป จนรู้สึกว่าเรื่องมันเดินไปช้ากว่าที่ควรจะเป็น และมันมีหลายจังหวะที่ผมรู้สึกอย่างนั้นครับ
แต่เอาล่ะ ถ้ามองในแง่ดีก็อย่างที่บอกว่าเรื่องเขาจัดเต็มในการนำเสนอความดราม่าของคนในยุคนั้น ดราม่าของตัวละครเอกอย่างเชกสเปียร์ที่เขาได้เจอ ซึ่งมันก็ทำออกมาได้แน่นดีมากและในทางกลับกัน เนื้อหาส่วนนี้ด้วยความที่มีความสมจริงสูงมาก จึงบาลานซ์กับเนื้อหาในช่วงแรกที่นำเสนอผสมความแฟนตาซีเข้าไปให้ออกมาดูสมเหตุสมผลมากขึ้นในภาพรวมครับ
และตรงนี้แหละที่ทำให้ผมมองว่าเป็นปัญหาสำหรับผมครับ เพราะด้วยการนำเสนอรายละเอียดอย่างเยอะ เนื้อหามันไปได้ไม่ถึงไหน แป๊ปเดียวอ่านจบเล่มแล้ว ถึงพบว่าเนื้อหาที่นำเสนอออกมานั้น ภาพรวมยังไปไม่ถึงไหนเลยครับ ความหมายคือ ด้วยจำนวนเล่มที่อยู่ที่ 6 เล่มนี้ เนื้อหายังค้างคาเพิ่งกลับเข้ามาสู่เนื้อหาหลักได้ หลังจากอธิบายแบบจัดเต็มถึงภูมิหลังของตัวละครหลักเท่านั้น
ด้วยความที่ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อน มารู้อีกทีตอนได้อ่านเรื่องนี้จบว่า 6 เล่มนี้แค่เริ่มต้น เรื่องนี้ยังไปต่ออีกยาวๆ พอได้รู้อย่างนี้เลยออกจะค้างคาในใจผมไปซักหน่อย ไม่แน่ใจว่า ทาง สนพ จะหยิบเรื่องราวต่อจากนี้มานำเสนอตอนไหน ใครที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว เรามาร่วมลุ้นกันต่อยาวๆ นะครับ 5555
อีกเรื่องนึงที่อยากพูดถึงก็คือเรื่องลายเส้นครับ ถ้าผมจำไม่ผิดเรื่องนี้ถูกเขียนหลังจากเรื่อง RIN จบครับ ในความหมายของผมคือ ตอนอ่านเรื่อง RIN นี้จุดที่ อ. ทำได้ดีต่อเนื่องมาจากเรื่อง BECK คือการวาดสาวๆของ อ. ที่ออกมาได้น่าสนใจและมีเสน่ห์อย่างมาก ผมหมายถึงมันมีความแปลก ความโดดเด่น ในตัวละครสาวๆของ อ. เสมอ โดยที่อาจไม่ได้เน้นความเซ็กซี่เหมือนบางเรื่อง ตัวละครสาวของ อ. มักจะเป็นที่จดจำสำหรับผม แม้จะไม่มีภาพลักษณ์ของความอึ่มซึ่งปกติผมขนาดหน้าอกมีผลต่อการจดจำตัวละครสาวๆของผมมากนะครับ 5555
ทั้งๆที่ผมคิดอย่างนั้น เรื่องนี้ ผมกลับไม่รู้สึกว่า ตัวละครสาวๆ มันสวย น่าสนใจอย่างที่เคยครับ ผมว่า อ. วาดออกมาได้แปลกกว่างานทั้ง 2 เรื่อง ถ้าจะพูดง่ายๆ คือในความรู้สึกของผม สาวๆในเรื่องแม้กระทั่งตัวเอก ไม่ได้ประทับใจผมอย่างที่ควรเป็น อันนี้เป็นความรู้สึกของผมโดยตรงนะครับ ในขณะที่การวาดส่วนอื่น อ. ยังทำออกมาได้ดีและเหมาะสมกับเนื้อเรื่องเช่นเดิม มีก็เพียงสาวๆในเรื่องนี้ ที่ไม่ประทับใจผมอย่างที่ อ. เคยทำได้ครับ
โอเค มาพูดถึงงานผลิตของเรื่องนี้กันซักหน่อยนะครับ นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกนำเสนอออกมาจากค่ายคุณภาพอย่าง FREE WILL PUBLISHING ครับ นี่เป็นค่ายที่สำหรับผมแล้ว งานแต่ละเรื่องที่หยิบมา มีความแตกต่างและไม่ซ้ำกับหลายๆค่ายไพเรทค่ายอื่นเลยครับ ไปๆมาๆ ผลงานเกือบทุกเรื่องของค่ายนี้ ผมได้อ่านและรีวิวเกือบทุกเรื่องเลย ส่วนสำคัญคือคุณภาพที่ทางค่ายยังคงทำออกมาได้ดีมากๆ และโดดเด่นกว่าหลายๆ สนพไพเรทอย่างชัดเจน นั่นคือจุดสำคัญที่ผมเชื่อว่าทำให้หลายๆคนเป็นแฟนค่ายนี้ครับ
โดยในเรื่องนี้ ทาง Free will ยังคงทำตัวเล่มออกมาด้วยขนาดเล่ม BB ใหญ่สะใจ เช่นเดิม ตัวเล่มเปิดอ่านแบบญี่ปุ่น ทำออกมาแบบปกสองชั้นตามต้นฉบับ ปกนอกพิมพ์สี บนกระดาษอาร์ตการ์ด 160 แกรมเคลือบด้าน งานพิมพ์คมชัด สีสวย ส่วนปกด้านใน พิมพ์บนกระดาษอาร์ตด้าน 260 แกรม เลือกใช้ข้อความสีขาวบนกระดาษสีดำครับ
ตัวเล่มด้านใน ทางค่ายยังคงเน้นคุณภาพมากๆด้วยการพิมพ์ภาพขาวดำบนกระดาษอาร์ตด้าน 160 แกรม ซึ่งทางค่ายเน้นมากว่ากระดาษที่เขาเลือกมาใช้นี้เป็น กระดาษถนอมสายตาแบบ Eco Figer 100% ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว สนพ มักไม่เลือกเนื้อกระดาษอย่างนี้เพราะมีต้นทุนที่สูงกว่ากระดาษถนอมสายตาปกติ และมีน้ำหนักมากกว่าอย่างชัดเจนด้วย ส่งผลให้ น้ำหนักของแต่ละเล่มมากกว่าหนังสือทั่วไปแบบรู้สึกได้ครับ
ในขณะที่หน้าสี จะพิมพ์บนกระดาษอาร์ต 160 แกรม ซึ่งหน้าสีมีเฉพาะบางเล่มนะครับ (มีเฉพาะเล่ม 1-2ครับ) งานพิมพ์คมชัด รวมถึงงานเอฟเฟคภาพคำพูดก็ทำออกมาได้ดีเช่นเดิม
ที่สำคัญ ด้วยงานนี้เนื้อหาหลายส่วนเป็นการนำเสนอเชิงบทกวีและบทกลอน ทางค่ายมีการแปลออกมาให้เหมาะสมกับนักอ่านชาวไทยที่เป็นประเทศเจ้าบทเจ้ากลอนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมอ่านแล้วเข้าใจและรู้สึกถึงความเฉพาะของการนำเสนอของคนในยุคนั้น(แบบเทียบเคียง) ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่ผมมองว่าไม่ง่ายเลยสำหรับงานแปลในเชิงบทกวีแบบนี้ ไม่รู้ความถูกต้องในแง่เนื้อหาขนาด 100% นะครับ แต่ในแง่การอ่านและการพยายามนำเสนอให้เหมือนต้นฉบับ ผมว่าตรงนี้คือจุดเด่นที่เห็นชัดมากของทางค่ายในเรื่องนี้ครับ
โอเคแหละ แม้จะน่าเสียดายซักหน่อยที่เนื้อเรื่องมันแค่อยู่ในช่วงต้นเท่านั้น และเนื้อหาต่อจากนี้ก็ยังไม่ได้ถูกทำออกมาให้ได้อ่านกัน แต่ในแง่ของเรื่องราวที่ได้อ่าน ผมว่าเรื่องนี้ อ. นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ เอาแค่ภาพกว้าง ผมไม่ได้คิดว่าเรื่องราวของ เชกสเปียร์ จะเต็มไปด้วยบาดแผลของยุคสมัยขนาดนั้นนะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผมชอบงานแนวพีเรียดย้อนยุค ที่เต็มไปด้วยความดราม่าอยู่แล้ว การที่ได้อ่านงานที่ใส่รายละเอียดของช่วงเวลาแบบจัดเต็มอย่างในเรื่องนี้ ผมถือว่าตรงใจและตรงกับความชอบของผมเป็นอย่างมากครับ
ในอีกแง่มุมนึง ผมว่า อ. ผูกเรื่องราวและนำเสนอออกมาได้ติดตามและน่าสนใจได้ดีเลย ซึ่งหากมองในแง่ความสนุก เนื้อหาในตอนแรกทำออกมาได้ดีมาก สิ่งที่ใส่ออกมาชวนติดตามและตัวละครที่อยู่ในเนื้อหาก็ชวนค้นหา และเป็นอะไรที่นักอ่านอย่างเราๆ จะสนใจได้ไม่ยากเย็น เรียกว่าถ้าได้หยิบอ่านแล้ว เราจะไหลไปกับเรื่องราวที่แม้ตั้งต้นเรามันจะไม่มีส่วนลิงค์กับคนอ่านที่จะชวนให้สนใจตั้งแต่ต้นก็ตาม
เพราะแบบนั้นผมจึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ อ. ก็ยังคงทำออกมาได้ดีและสนุกแบบที่ควรเป็นครับ
หากใครที่เป็นแฟนงานของ อ. ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อ่านสนุกเช่นเดิมและหากใครชอบงานแนวพีเรียดย้อนยุคไปสมัยที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดทางสังคมของยุโรป เรื่องนี้จัดเต็มมาก และใครชอบงานแนวดราม่าของบุคคลสำคัญของโลก เรื่องนี้ห้ามพลาดครับ ใครสนใจลองหาอ่านดูนะครับ น่าจะตรงกับความชอบของใครหลายๆคน แนะนำครับ
ภาพ 8/10 (ถ้าเป็นสาวๆให้ 6/10 ครับ 5555)
เรื่อง 8.5/10
ความประทับใจ 8/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #ยังไม่จบ #FreeWill #การ์ตูนแนวพีเรียด #การ์ตูนแนวชีวประวัติ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวดราม่า #8คะแนน #ขบวนการกวีเอกสะท้านโลก #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย