18 พ.ย. เวลา 17:23 • ข่าว

เปิดประวัติ "สิงห์ขาวนักล่ารางวัล" ชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง คนใหม่

มติคณะรัฐมนตรี วันที่ 8 ตุลาคม 2567 เห็นชอบการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดย 1 ในนั้น “นายชุติเดช มีจันทร์” มีคำสั่งให้พ้นจากผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการ จ.ลำปาง
ล่าสุด 18 พฤศจิกายน 2567 มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายเผยแพร่ทางราบกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ
LampangTimes รวบรวมประวัติ “พ่อเมือง” คนใหม่มาให้คนลำปางได้ทำความรู้จักในเบื้องต้น
นายชุติเดช เป็นคน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ รุ่นที่ 19 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) หรือที่เรียกกันว่า “สิงห์ขาว รุ่นที่ 19” ปัจจุบันอายุ 59 ปี สมรสกับคุณณัชชา มีจันทร์
เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งนายอำเภอ เคยได้รับรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร ระดับเขต ประจำปี 2556
ต่อมา เมื่อย้ายไปเป็นนายอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ปี 2557
ปีถัดมา 2558 นายชุติเดช ดำรงตำแหน่งนายอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย ได้รับรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร รางวัลชนะเลิศ
ชีวิตการทำงานของนายชุติเดช นอกจากจะได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่แล้วยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทยให้เติบโตในหน้าที่ตามลำดับ เคยนั่งเก้าอี้ตำแหน่งปลัดจังหวัดตาก ก่อนจะขึ้นเป็น รองผู้ว่าราชการ จ.ตาก และรองผู้ว่าราชการ จ.พะเยา
ในปี 2564 นายชุติเดช ยังได้รับรางวัลบุคลที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดจาก สำนักงาน ป.ป.ส เป็นครั้งที่ 2
ก่อนจะได้ขึ้นนั่งเก้าอี้พ่อเมืองอย่างเป็นทางการ ด้วยการย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ปี 2565
และที่ จ.แพร่ นี้เอง ผู้ว่าฯ ชุติเดช มีผลงานจับต้องได้จนเป็นที่ฮือฮาด้วยการให้นโยบายขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจเน้นด้านการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ โดยในปีแรกก็ตั้งเป้าให้ จ.แพร่ มีรายได้จากการท่องเที่ยว ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
ซึ่งนโยบายนี้ ทำให้ผู้ว่าฯ ชุติเดช ปลุกเสือหลับอย่าง จ.แพร่ ให้ฟื้นคืนมีชีวิตชีวา ประสานความร่วมมืแภาครัฐและเอกชนให้ร่วมกันจัดงานประจำจังหวัดขึ้นมา เช่น งาน Phrae Street Craft Festival 2023, งานแสดงแสงสีเสียง “เล่าขานตำนานเมืองลอง” ขับเคลื่อนให้ จ.แพร่เป็นเมืองแห่งตุง เป็นต้น
นอกจากนี้ นายชุติเดช ยังสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดกิจกรรมประดับตกแต่งแสงไฟตามโบราณสถานเวลากลางคืน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวและพักค้างคืนที่ จ.แพร่ ให้นานขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้นยังนำสถิติมาเป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงาน โดยใช้วิธีจัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอยใน จ.แพร่ ปี 2566
ซึ่งบทสรุปการทำงานในฐานะพ่อเมืองครั้งแรก คือสามารถทำรายได้ทะลุเป้าหมาย 3,000 ล้านบาทจากที่ตั้งไว้
จากผลงานการบริหารงานปกครองที่เป็นรูปธรรม สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับเศรษฐกิจ ภายใน จ.แพร่ อย่างโดดเด่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จึงได้คัดเลือกให้ นายชุติเดช ได้รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด "สำเภาทอง" ในปี 2566
ล่าสุด 28 มกราคม 2567 ต้นปีนี้เอง นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ก็ได้เข้ารับมอบโล่เชิดชูเกียรติ “นักศึกษาเก่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สิงห์ขาว รุ่น 19 ดีเด่น” จากคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มช.
นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “สิงห์ขาวนักล่า(รางวัล)” คือกวาดทุกถ้วยของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มาตั้งแต่ยังเป็นนายอำเภอจนกระทั่งผู้ว่าราชการจังหวัด จับงานไหนได้รับรางวัลหรือได้รับการยกย่องเสมอ
เมื่อมองผลงานของนายชุติเดช ที่ผ่านมา ชาวลำปางอาจคาดหวังได้ถึงฝีมือในการฟื้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้กระเตื้องขึ้นด้วยกลยุทธ์ทางการท่องเที่ยว เนื่องจาก จ.ลำปาง เงียบเหงามานาน อีกทั้งการจัดงานที่กระจุกอยู่แค่บางกลุ่ม รูปแบบเดิมๆ
ที่สำคัญคือ สำหรับ จ.แพร่ แล้ว นายชุติเดช ยังได้ทิ้งมรดกทางนโยบายไว้ให้อีกหนึ่งโครงการ เนื่องจากในปี 2567 นี้ จ.แพร่ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 เมืองรองนำร่องเพื่อเร่งผลักดันขับเคลื่อนสู่เมืองหลัก กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ซึ่งหมายความว่า นายชุติเดช พ่อเมืองลำปางคนใหม่มีประสบการณ์หาวิธีแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวของ “เมืองรอง” มาแล้ว และประสบความสำเร็จมีผลงานด้วยดีอีกต่างหาก
ในขณะที่รางวัลด้านการปราบปรามยาเสพติด จากสำนักงาน ป.ป.ส. 2 สมัย เมื่อมาทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคง จ.ลำปาง อาจจะได้เห็นปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดและอบายมุขตามชุมชนต่างๆ บ่อยขึ้นด้วย
นายชุติเดช ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้ว่าฯและภริยามีทรัพย์สินรวมกัน 14.7 ล้านบาท มีหนี้สิน 5.3 ล้านบาท รายได้ต่อปีรวมแล้ว 1,618,400 บาท
มีอาวุธปืน 4 กระบอก มูลค่า 4.8 แสนบาท , พระเครื่อง มูลค่า 1 ล้านบาท ,นาฬิกา 1 เรือน มูลค่า 2 แสนบาท ,ทองคำแท่ง 8.8 แสนบาท และอัญมณีต่างๆอีก 2 แสนบาท
ทั้งนี้ จ.ลำปาง จะเป็นจังหวัดสุดท้ายที่นายชุติเดช ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ ภายในอายุราชการ 1 ปี ก่อนเกษียณ #LampangTimes ขอต้อนรับผู้ว่าคนเมืองเชียงใหม่ด้วยความยินดียิ่ง และขอให้ท่านผู้ว่าฯ มีกำลังกาย กำลังใจ พัฒนา จ.ลำปาง ให้สำเร็จลุล่วงได้ตามที่ตั้งใจโดยไร้มารผจญ
และหวังว่าจะได้ทำข่าวร่วมกันในไม่ช้าครับ
#ผู้ว่าลำปาง
#ชุติเดชมีจันทร์
#สิงห์ขาวนักล่ารางวัล
โฆษณา