18 พ.ย. เวลา 17:23 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ทำไมปีนี้มือถือจีนถึงปรับปรุงความจุแบตเตอรี่เร็วขนาดนี้?

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ก็มีการพัฒนาและอัปเกรดกันทุกปี ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไร แต่ถ้าเรามาดูรายละเอียดจริงๆ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในช่วงสองปีหลังนี้
จากข้อมูลที่เรารวบรวมมา พบว่าในช่วงปี 2022 ก่อนหน้านี้ แบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนระดับเรือธงส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 5000mAh หรือต่ำกว่านั้น แต่ไม่นานมานี้ หลายๆ แบรนด์เริ่มที่จะเพิ่มขนาดแบตเตอรี่ไปเกิน 6000mAh กันแล้ว เช่น Xiaomi Mi 15 ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5400mAh ซึ่งมากกว่ารุ่น Mi 14 ถึง 800mAh และ Vivo X200 ที่มีแบตเตอรี่มากถึง 6000mAh ซึ่งมากกว่าพาวเวอร์แบงค์ที่ใช้ตามท้องถนนเสียอีก
หลายๆ คนในโซเชียลยังแสดงความคิดเห็นว่า สมาร์ตโฟนที่ออกในปีนี้มีแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถือเป็นการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ทำไมถึงเกิดการเพิ่มขนาดแบตเตอรี่?
ตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ พบว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในปัจจุบันได้พัฒนามากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการปรับปรุงในส่วนของอิเล็กโทรดในแบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium-ion batteries) จากเดิมที่ใช้ กราไฟต์ มาเป็น ซิลิกอน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าในการเก็บพลังงาน โดยซิลิกอนสามารถบรรจุไอออนของลิเธียมได้มากกว่ากราไฟต์ถึง 24 เท่า
แต่ปัญหาคือซิลิกอนจะขยายตัวเมื่อเกิดการชาร์จและคายประจุ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบวมของแบตเตอรี่หรือแม้แต่ทำให้ระเบิดได้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้คิดวิธีผสมซิลิกอนกับกราไฟต์เพื่อให้สามารถเพิ่มความจุได้โดยไม่เกิดปัญหานี้
การพัฒนาแบตเตอรี่ซิลิกอนคาร์บอนเริ่มต้นเมื่อปี 1995 เมื่อทีมวิจัยจากแคนาดาพัฒนา Si-Carbon Composite Electrodes ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่ากราไฟต์ถึง 4 เท่า แต่ยังคงมีปัญหาด้านการผลิตที่ไม่สมบูรณ์
การผลิตแบตเตอรี่ซิลิกอนคาร์บอนในปัจจุบัน
ในปี 2019 หลายแบรนด์เริ่มใช้เทคโนโลยี ซิลิกอนคาร์บอน ในสมาร์ตโฟน โดย Xiaomi ใช้แบตเตอรี่ซิลิกอนในรุ่น MIX Alpha และ Huawei ได้จดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ ขณะเดียวกันในปี 2023 การผลิตแบตเตอรี่ซิลิกอนคาร์บอนก็เริ่มมีความเสถียรมากขึ้น ด้วยการใช้วิธี CVD (Chemical Vapor Deposition) ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตซิลิกอนนาโนได้ในปริมาณมากและคงคุณภาพสูง
การเปลี่ยนแปลงในตลาดมือถือ
หลายแบรนด์ที่ใช้แบตเตอรี่ซิลิกอนคาร์บอนอย่าง Honor, Xiaomi, และ Vivo ต่างก็พัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงและสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งแบตเตอรี่ทั่วไปมักมีประสิทธิภาพลดลงในสภาพอากาศเย็น
แต่ถึงแม้ว่าจะมีการพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ๆ ที่มีความจุสูงขึ้นมาแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น ต้นทุนที่สูง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตมีราคาค่อนข้างแพง และอายุการใช้งานที่อาจจะต่ำกว่ากระบวนการผลิตแบตเตอรี่แบบเก่า
บทสรุป
การพัฒนาแบตเตอรี่ในมือถือในปีนี้เป็นผลมาจากเทคโนโลยีที่เติบโตขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหาบางอย่างที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูงและอายุการใช้งานที่สั้นกว่าปกติ
แต่สำหรับผู้ใช้มือถือทั่วไป การเพิ่มขนาดแบตเตอรี่และการพัฒนาทางเทคโนโลยีเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหมายความว่าในอนาคตเราจะได้ใช้มือถือที่มีแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แม้จะมีปัญหาบ้าง แต่ก็ยังคุ้มค่ากับการพัฒนาในระยะยาว
โฆษณา