19 พ.ย. เวลา 00:19 • การ์ตูน

สรุปเนื้อหา สงคราม 1 ปี One Year War จากเรื่อง GUNDAM 0079

สวัสดีครับ Trust News Podcast สัปดาห์นี้พบกับเรื่องราวของมหากาพย์ต้นกำเกิดเรื่องราวในจักรวาล UCของ GUNDAM กับปฐมบทเรื่องราวของสงคราม 1 ปี หรือ (One Year War)
สงคราม 1 ปี (One Year War) จาก GUNDAM 0079 เป็นเหตุการณ์สำคัญในจักรวาลของ Gundam ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างสหพันธ์โลก (Earth Federation) และ สหภาพ Zeon (Principality of Zeon) สงครามใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ จุดเริ่มต้นคือ “การประกาศเอกราชของกลุ่มโคโลนี่ไซด์ 3 (Side 3)” หรือในชื่อ “จักรวรรดิซีออน” (‎Principality of Zeon)
ภายใต้การนำโดย “ตระกูลซาบี้” (Zabi family) ขึ้นสู่อำนาจสูงสุดในปี U.C. 0068 หลังจากที่ “ซีออน แซม ไดคุน” (Zeon Zum Deikun) ผู้นำซีออนคนก่อนถึงแก่กรรมจากการถูกปฏิวัติรัฐประหาร คู่กรณีคือฝ่ายสหพันธ์โลก (Earth Federation Space Force = E.F.S.F) กับจักรวรรดิซีออน สงครามเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคมปี U.C. 0079 และสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มกราคม ปี U.C. 0080
- จักรวรรดิซีออนยกกองทัพเข้าโจมตีโคโลนี่ Side 1, Side 2 และ Side 4 ในวันที่ 3 มกราคมปี UC 0079
- ยุทธการบริทิส (Operation British) แผนทิ้งโคโลนี่ลงมาที่โลก เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ร้ายแรงที่จักรวรรดิซีออนเลือกใช้เพื่อปิดสงคราม (ภาพจากภาค Mobile Suit Gundam Unicorn) เป็นชื่อแผนยุทธการสู้รบของฝ่ายจักรวรรดิซีออน
ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงของสัปดาห์แรกของช่วงเริ่มต้นสงครามหนึ่งปี โดยแผนนี้ได้ใช้โคโลนี่ร้างจาก Side 2 ทิ้งลงพื้นโลก มีจุดตกที่กำหนดอยู่ที่ “ฐานจาโบร” (Jaburo Base) ของสหพันธ์โลก แต่ด้วยความคาดเคลื่อนทำให้โคโลนี่ไปตกลงที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีผลกระทบทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่
หากแผนยุทธการบริทิสสำเร็จและตกลงไปที่ฐานจาโบร จะเท่ากับปิดฉากสงครามได้ทันที เพราะฐานจาโบรคือฐานบัญชาการใหญ่ที่สุดของฝ่ายสหพันธ์โลก
สมรภูมิลูม (The Battle of Loum)
เป็นสงครามทางภาคพื้นอวกาศครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มกราคม ปี UC 0079 ภายหลังจากที่แผนยุทธการบริทิสล้มเหลว ฝ่ายจักรวรรดิซีออนได้ยกกองกำลังเข้าบุกตีโคโลนี่ Side 5 หรือในชื่อ “ลูม” (Loum) ในสงครามครั้งนี้ “จอมพลเรวิล” (General Revil) ได้บัญชาการสู้รบด้วยตัวเอง
จนถูกจับเป็นตัวประกัน ในศึกครั้งนี้ทางฝ่ายสหพันธ์โลกได้พ่ายแพ้สงครามอย่างหมดรูป ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโมบิลสูทในสงครามที่น่ากลัวของฝ่ายจักรวรรดิซีออน
หลังจากสิ้นสุดสงครามลูม (The Battle of Loum) ทางสหพันธ์โลกได้เปิดโต๊ะเจรจายอมสงบศึกกับฝ่ายจักรวรรดิซีออนที่ฐานในทวีปแอนตาร์กติก โดยฝ่ายจักรวรรดิซีออนได้ใช้ความได้เปรียบที่สามารถจับตัวจอมพลเรวิลผู้นำสำคัญของฝ่ายสหพันธ์โลกเอาไว้ได้ บีบให้ทางสหพันธ์โลกยกเลิกการคว่ำบาตรทุกๆ อย่างและคืนเอกราชให้แก่ชาวสเปซนอยด์
ทว่าในช่วงของการเจรจาสนธิสัญญานั้น จอมพลเรวิลถูกช่วยเหลือออกมาได้ พร้อมทั้งประกาศให้ยกระดับการต่อสู้ด้วยเทคโนโลยีด้านโมบิลสูทขึ้น
ในสมรภูมินี้ สร้างเอซไพลอคในสงครามที่เป็นตัวละครสำคัญในจักรวาลกันดัม ได้แก่
ชาร์ อัสนาเบิล ดาวหางสีแดง เจ้าของ Zaku II Type S สีแดงแรงสามเท่า
ชิน มาชินากะ ฉายา หมาป่าสีขาว ยอดขุนพลขของแม่ทัพ พลโทโดเซิล ซาบี้ ขับซากุ รุ่น MS06 R-1A สีขาว
จอห์นนี่ ริดเด็น สายฟ้าสีแดง เป็นนักบินในสังกัดของ คิซิเรีย ซาบี้ ที่สร้างชื่อเสียงจากสมรภูมิ รูม เจ้าของซากุ R-2 สีแดงเข้ม อาวุธหลัก คือ ไจแอนท์บาซูก้าแบบที่ MS-09 โดมใช้ สามดาวดำ ซีออน ไกอา ออลเดก้า และ มาร์ช ขับโมบิลสูท MS06 R-1A สีดำม่วง
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะยังทำสงครามกันได้ต่อไป แต่ต้องอยู่ในกรอบข้อตกลงที่วางเอาไว้ร่วมกัน เช่นการห้ามใช้อาวุธนิวเคลียร์และแก๊สพิษต่างๆ (NBC), ไม่ล่วงละเมิดต่อเขตโคโลนี่ที่ไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับสงครามสิทธิของเชลยศึก และการปฏิบัติในระหว่างการถูกควบคุมตัว ฯลฯ
- จักรวรรดิซีออนยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งแรก ปะทะกับกองทัพฝ่ายสหพนธ์โลกตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ทั้งภาคพื้นเอเชีย, โอเชียเนีย ฐานโอเดสซ่า แบ่งออกเป็นสามช่วงคือ
1st Drop การยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งแรก ในวันที่ 1 มีนาคม ที่ทวีปเอเชีย กองกำลังซีออนสามารถเข้าบุกสนามบินอวกาศ “ไบโคเนอร์” (Baikonur) เป็นที่แรกก่อนจะบุกรุกคืบเพื่อมุ่งไปยังทวีปยุโรปทางด้านตะวันตกของทะเลสาบแคสเปี้ยน และฟากชายฝั่งตะวันออกของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง
2nd Drop การยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 11 มีนาคม กองกำลังซีออนสามารถเข้าบุกทวีปอเมริกาเหนือ ทั้งฟากด้านตะวันออกและตะวันตก จากการสนธิกำลังของกองกำลังซีออนที่ 2 และ 3 ซึ่งในสองวันจากนั้น จักรวรรดิซีออนสามารถเข้ายึดฐานของฝ่ายสหพันธ์โลกที่อยู่ในแคลิฟอร์เนียได้สำเร็จ ก่อนที่ฝ่ายจักรวรรดิซีออนจะใช้ที่แห่งนี้เป็นฐานบัญชาการภาคพื้นดิน
3rd Drop การยกกำลังบุกลงมาที่โลกเป็นครั้งที่สาม ในวันที่ 18 มีนาคม กองกำลังซีออนที่ 4 สามารถเข้าบุกเข้ายึดพื้นที่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปออสเตรเลียได้ทั้งหมด ก่อนที่กองกำลังซีออนที่ 5 จะส่งกำลังเสริมเข้ามาในทวีปอเมริกาเหนือและตะวันออกกลาง ในอีกสองอาทิตย์ถัดมา
โปรเจ็คท์ V (The Project V)
ภายหลังจากที่สหพันธ์โลกเสียเปรียบจากการสู้รบกับฝ่ายจักรวรรดิซีออนที่ได้นำกองทัพโมบิลสูทเข้ามาใช้ในสงคราม ทางฝ่ายสหพันธ์โลกจึงได้มีการคิดค้นโมบิลสูทขึ้นมาเพื่อตอบโต้ฝ่ายจักรวรรดิซีออน ซึ่งได้เริ่ม “โปรเจ็คท์ V” ขึ้น โดยคำว่า V นั้นย่อมาจาก “Victory” โดยในโปรเจ็คท์ V ได้ดำเนินการในทางลับสุดยอด ภายใต้การคุมงานและดูแลโดย “ทิม เรย์” (Tim Ray) (คุณพ่อของอามุโร่ เรย์) หัวหน้าทีมวิศวกรของฝ่ายสหพันธ์โลก พัฒนาโมบิลสูทขึ้นมาเป็นจำนวน 3 รุ่นได้แก่
- RX-75 Guntank
- RX-77 Guncannon
- RX-78 Gundam
และรวมไปถึงยานรบประจัญบานในรุ่นของ SCV-70 White Base Pegasus-class ที่ชื่อ “ไวท์เบส” หรือม้าไม้ ในฝั่งซีออน
- ยุทธการโอเดสซ่า (Operation Odessa)
สงครามบนภาคพื้นโลกที่ทั้งสองฝ่ายเริ่มใช้โมบิลสูทเข้าปะทะกัน ฝ่ายสหพันธ์โลกเป็นฝ่ายบุกเข้าตีและใช้เวลาถึงสามวันจึงจะสิ้นสุด ก่อนจะได้รับใช้ชัยชนะเป็นครั้งแรก โดยพื้นที่โอเดสซ่าที่ติดกับทะเลดำ (Black Sea) นี้มีความสำคัญทางด้านสินแร่ ที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตอาวุธให้กับทางจักรวรรดซีออนสำหรับสงครามบนพื้นโลกอย่างมาก ถือเป็นจุดเปลี่ยนทิศของสงครามหนึ่งปีก็ว่าได้และในสงครามครั้งนี้
ฝ่ายสหพันธ์โลกสูญเสียกำลังพลไปถึง 3,700,000 นาย หน่วยโมบิลสูทจำนวน 30 หน่วย ส่วนด้านจักรวรรดซีออน “พันเอกการ์ม่า ซาบี้” (Garma Zabi) บุตรชายคนสุดท้องของตระกูลซาบี้ได้เสียชีวิตลงที่นี่ ทำให้ฝ่ายจักรวรรดซีออนสูญเสียกำลังใจในการทำสงครามอย่างมาก เหตุนี้เองทำให้ “กิเรน ซาบี้” ได้ประกาศการงานศพของน้องชายที่ถุกถ่ายทอดสดไปทั่วโลกว่าจะตอบโต้ฝ่ายสหพันธ์โลกให้ถึงที่สุด
สมรภูมิจาโบร (Battle of Jaburo)
สงครามบนภาคพื้นโลก กองกำลังซีออนจากฐานในแคลิฟอร์เนีย ที่นำโดย “พันเอกชาร์ อัสนาเบิ้ล” ที่ได้บุกเข้าตีโรงงานผลิตอาวุธและโมบิลสูทของฝ่ายสหพันธ์โลก โดยร่วมมือกับหน่วยรบพิเศษสะเทินน้ำทสะเทินบก แมดอังกลา พร้อมโมบิลสูทที่ทำการรบในน้ำได้บุกเข้าโจมตี อาทิ MSM-03 ก๊อก ที่เป็นหุ่นมีกรงเล็บแหลมคม พร้อมอาวุธบีม
ในส่วนหน่วยแมดอังเกลอ เป็นหน่วยสอดแนมลอบเร้นใช้โมบิลสูท MSM-04 อักไก ที่ออกแบบมาให้ตรวจจับได้ยาก มีอาวุธ คือ ปืนลำแสง กรงเล็บและกระเปาะยิงมิสไซล์ และหุ่นรบหัวหน้าหน่วย MSM-07 Z'Gok สก็อก เป็นโมบิลสูทที่สามารถใช้ในน้ำได้ มีการออกแบบที่เน้นความคล่องตัวในน้ำ มีขาเล็กๆ ที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
อาวุธหลักคือปืนลำแสงที่แขน และกรงเล็บแหลมคม ที่ใช้กระซวกพุงหุ่นจิมจนทะลุ ขับโดยชาร์ อัสนาเบิล และได้เข้าปะทะกับ “กันดั้ม” ที่บังคับโดย “อามุโร่ เรย์” เอสไพล๊อตของฝ่ายสหพันธฺโลก ประจำยานไวท์เบส
ในสงครามนี้ฝ่ายกองกำลังซีออนล้มเหลงลงอย่างสิ้นเชิง โดยภายหลังจากที่สงครามใหญ่บนภาคพื้นโลกล้มเหลวและพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายจักรวรรดิซีออนเริ่มเสียขวัญลงไปมาก อีกทั้งฝ่ายสหพันธ์โลกได้เริ่มตีโต้อย่างหนักทั้งในทวีปอเมริกา รวมไปถึงทวีปแอฟริกา จนต้องหลบหนีไปยังอวกาศ แต่กองกำลังซีออนส่วนหนึ่งยังคงต่อสู้ต่อไปในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- สมรภูมิโซโลมอน (Battle of Solomon)
ป้อมปราการอวกาศของทางฝ่ายจักรวรรดิซีออนที่สร้างจากดาวเคราะห์น้อย ถือเป็นฐานที่มั่นทางทหารที่สำคัญทางอวกาศอย่างมาก ทางฝ่ายสหพันธ์โลกได้ตัดสินใจยกกองกำลังเข้าบุกตีอย่างหนัก ก่อนที่กิเรน ซาบี้จะสั่งให้ใช้อาวุธมหาประลัยอย่างโคโลนี่เลเซอร์ “โซล่าห์ ซิสเต็ม” (Solar System) หรือ “โซล่าห์ เรย์” (SolarRay) ยิงใส่กองกำลังฝ่ายสหพันธ์โลก ซึ่งรวมถึงฝ่ายเดียวกัน
จนต้องสูญเสียกองกำลังรบไปเป็นจำนวนมาก ในศึกนี้จอมพลเรวินแห่งฝ่ายสหพันธ์โลกและ “นายพลโดเซิ่ล ซาบี้” ผู้นำแห่งจักรวรรดิซีออนได้เสียชีวิตลงในสงครามครั้งนี้ หลังจากนำโมบิลอาเมอร์ อย่างบิ๊กแซมเข้าต่อสู้กับกองยานของสหพันธ์โลก แล้วไปพลาดท่าให้กันดั้มของอามุโร เรย์
- สมรภูมิ อา บาว คู (Battle of A Baoa Qu)
เป็นสงครามชี้ขาดระหว่างฝ่ายสหพันธ์และจักรวรรดิซีออนที่เกิดขึ้นที่ป้อมปราการ “อา บาวอา คู” โดยหลัง การเข้าปฏิวัติยึดอำนาจภายในของจักรวรรดิซีออน ที่กิเรน ซาบี้ (Giren Zabi) ได้ก่อกบฎต่อ “เดกวิ้น ซาบี้” (Degwin Sodo Zabi) ผู้นำตระกูลซาบี้ผู้เป็นบิดา ในระหว่างที่กำลังทำการเจรจาของสงบศึกต่อฝ่ายสหพันธ์
โดยได้สั่งการให้โคโลนีเลเซอร์ยิงลำแสงทำลายกองยานของทั้ง 2 ฝ่าย และตั้งตนเป็นผู้นำซีออนคนต่อไป ก่อนจะเปิดศึกทางอวกาศกับฝ่ายสหพันธ์เต็มรูปแบบ
สมรภูมินี้เป็นการต่อสู้กันครั้งสุดท้ายในสงคราม 1 ปีระหว่างกันดัมของอามุโร และชาร์ ที่ได้โมบิลสูทรุ่นใหม่ MSN-02 Zeong ซีอองก์ มาพร้อมอาวุธไซคอมมิว โดยแขนทั้งสองข้างของซีอองก์สามารถแยกออกไปจากตัวได้โดยมีสายเคเบิลโยงไว้ ซึ่งนักบินที่เป็นนิวไทป์สามารถใช้พลังจิตควบคุมแขนผ่านระบบไซคอมมิวให้โจมตีศัตรูด้วยปืนมหาอนุภาคที่ติดอยู่กับนิ้วมือทั้งห้าได้
นอกจากที่มือทั้งสองแล้วซีอองก์ยังมีปืนมหาอนุภาคอยู่ที่ท้องและปากรวมสามกระบอก ซีอองก์ยังมีห้องควบคุมอยู่ที่ส่วนหัวซึ่งสามารถแยกออกมาและสู้ต่อได้เมื่อส่วนลำตัวถูกทำลาย ชาร์ได้ใช้ซีอองก์ในการต่อสู้กับกันดั้มของอามุโร่ เรย์ที่ปราการอวกาศอาบาวคูและถูกทำลายไปพร้อมกับกันดัม
ทว่าในระหว่างสงครามนั้น กิเลน ซาบี้ (Gihren Zabi) ได้ถูก “พลตรีกิซิเรีย ซาบี้” (Kycilia Zabi) ผู้เป็นน้องสาวทำการปฏิวัติซ้อนและฆ่าตาย อำนาจภายในจักรวรรดิซีออนเกิดความสันคลอนอย่างหนัก ในท้ายที่สุดชาร์ ที่รอดตายจากการสู่กับอามุโร่ ก็มาส่งคิริเซีย ไปหาน้องชายในปรโลก ยิงบาซูก้าอัดหัวกิซิเรีย ซาบี้จนตาย
เมื่อผู้นำสูงสุดคนสุดท้ายของซีออนตายในสงคราม แล้วทำให้ฝ่ายสหพันธ์ปิดฉากสงครามหนึ่งปีด้วยชัยชนะลงได้ในที่สุด....
เรียบเรียง : ดาวหางสีขาว สำนักข่าวทรัสต์นิวส์
#กันดั้ม #Gundam #Gundam0079 #สรุปเนื้อเรื่อง #OneYearWar #ชาร์อัสนาเบิล #อามุโรเรย์ #สำนักข่าวทรัสต์นิวส์ #Trustnews
โฆษณา