19 พ.ย. เวลา 01:54 • ดนตรี เพลง

เปิดมุมมองจิตใจกับ "Songs from the Big Chair" อัลบั้มที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดภายในสู่บทเพลงระดับตำนาน

"Songs from the Big Chair" ออกวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1985 และกลายเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่โดดเด่นที่สุดในทศวรรษนั้น พาวง "Tears for Fears" จากสหราชอาณาจักรสู่ความโด่งดังระดับโลก อัลบั้มนี้ถือเป็นพัฒนาการทั้งในด้านสไตล์และเนื้อหา หลังจากที่อัลบั้มแรก "The Hurting" เน้นไปที่การถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งและบาดลึกในจิตใจ อัลบั้มที่สองนี้ได้เพิ่มความซับซ้อนของดนตรี Pop-Rock โดยผสมผสานกับการใช้เสียง Synthesizer ที่สร้างบรรยากาศกว้างขวาง ราวกับเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวชีวิต
อัลบั้มนี้ตั้งชื่อตามมินิซีรีส์ "Sybil" ซึ่งกล่าวถึงผู้หญิงที่ต่อสู้กับภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดแยกตัว "Songs from the Big Chair" จึงเน้นสำรวจประเด็นเกี่ยวกับปัญหาทางจิตใจ ความคาดหวังในสังคม และการปลดปล่อยตนเอง ผ่านเพลงที่มีความลึกซึ้ง ทั้งในด้านเนื้อหาและดนตรี
ตัวอัลบั้มได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ฟัง เพราะนำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดนตรี Pop ที่เข้าถึงได้ง่ายกับเนื้อหาและปรัชญาที่ลึกซึ้ง ทำให้ Tears for Fears เป็นศิลปินที่มีอิทธิพลต่อวงการเพลงในระดับสากล
อัลบั้มเปิดตัวด้วยเพลง “Shout” ที่ให้ความรู้สึกปลดปล่อยอย่างรุนแรง เสียงร้องที่เต็มไปด้วยพลังของ "Roland Orzabal" ประกอบกับจังหวะที่เข้มข้น ทำให้เพลงนี้เหมือนเป็นการปลุกเร้าอารมณ์
ความหมายของเพลงนั้นเกี่ยวกับการกล้าแสดงออก และเรียกร้องให้ผู้ฟังกล้าที่จะเผชิญและปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกกดไว้ เนื้อเพลงที่ร้องว่า "Shout, shout, let it all out" กลายเป็นการเรียกร้องให้ผู้ฟังปลดปล่อยตนเองและแสดงความกล้าหาญ เพลงนี้จึงกลายเป็นเพลงที่ทรงพลังที่สุดในอัลบั้ม ด้วยความเป็น "Anthem" ที่สามารถปลุกพลังให้กับผู้ฟังได้อย่างยอดเยี่ยม
เพลงที่เป็นที่จดจำมากที่สุดเพลงหนึ่งของวงอย่าง “Everybody Wants to Rule the World” เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ขัดแย้ง มีจังหวะเบาๆ ที่ราบรื่น แต่แฝงด้วยการสะท้อนถึงอำนาจ ความทะเยอทะยาน และการครอบงำในสังคม เพลงนี้สื่อถึงความขัดแย้งในตัวเองที่เกิดจากการแสวงหาอำนาจ พลัง และความสำเร็จ เนื้อเพลงและดนตรีที่ราบรื่นแสดงถึงความละเอียดอ่อนและซับซ้อนของเพลง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่โด่งดังที่สุดในยุค 80s ที่ฟังแล้วรู้สึกถึงบรรยากาศที่นุ่มนวลแต่ท้าทาย
เพลงฮิตอีกเพลงอย่าง "Head Over Heels" เป็นเพลงที่ถ่ายทอดความซับซ้อนของความหลงใหลในรักและความเปราะบางของความรู้สึก โดยเริ่มด้วยทำนองเปียโนที่ให้ความรู้สึกลึกลับ ซึ่งค่อยๆ สร้างความอลังการผ่านเสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยพลัง
เพลงนี้ผสมผสานความลึกซึ้งของอารมณ์และเสน่ห์ของ Pop ที่สามารถดึงดูดผู้ฟังได้ดี และสะท้อนถึงความสูงสุดและความเจ็บปวดของความรัก เสียงดนตรีที่สลับซับซ้อนของ Synthesizer, กีตาร์ และกลอง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ดีที่สุดที่บอกเล่าความซับซ้อนของความรู้สึกในความรักได้อย่างลึกซึ้ง
Curt Smith และ Roland Orzabal สองศิลปินดูโอ้ แห่ง Tears for Fears
อีกเพลงที่อาจไม่ถูกพูดถึงมากนักอย่าง "The Working Hour" นั้นโดดเด่นด้วยโทนเสียงที่ครุ่นคิด พูดถึงความกดดันในสังคม ความไม่พอใจในชีวิต และการค้นหาตัวตน
เสียง Saxophone ที่เปิดเพลงสร้างบรรยากาศของความเศร้าหมอง และเมื่อเพลงเริ่มเข้าจังหวะ ก็ทำให้ผู้ฟังได้สะท้อนถึงความคาดหวังในสังคมและความรู้สึกของการติดอยู่ในกรอบด้วยเนื้อเพลงอย่าง “This is the working hour / We are paid by those who learn by our mistakes” เสียงดนตรีที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังและการร้องที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของ Orzabal ทำให้เพลงนี้เป็นบทเพลงที่สะท้อนถึงการต่อสู้เพื่อความหมายของชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม
และสุดท้าย "Mothers Talk" ที่นำเสนอการใช้จังหวะที่แปลกใหม่และเสียง Synthesizer ที่สร้างความรู้สึกตื่นเต้น เนื้อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากภัยคุกคามของสงครามนิวเคลียร์และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โลกในยุค 80s ซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกไม่มั่นคงและหวาดกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง เสียงร้องของ Orzabal ในเพลงนี้แฝงด้วยความกังวลและเสียงดนตรีที่ซับซ้อน เต็มไปด้วยพลังทำให้เพลงนี้สะท้อนถึงธีมด้านมืดของอัลบั้ม และแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Tears for Fears ในการสร้างดนตรีที่สะท้อนอารมณ์และปัญหาของสังคมในขณะนั้น
"Songs from the Big Chair" ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จด้านยอดขาย แต่ยังเป็นผลงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่ยืนยันถึงความสำเร็จของ Tears for Fears ซึ่งสร้างดนตรีที่เข้าถึงได้ง่ายแต่ก็มีเนื้อหาที่ลึกซึ้ง พร้อมสะท้อนจิตวิทยาของมนุษย์ ปัญหาสังคม และการปลดปล่อยตัวเอง ทำให้อัลบั้มนี้มีคุณค่าอย่างยั่งยืน ความซับซ้อนในการผลิตและการเรียบเรียงเพลงที่มีการใช้เสียงกว้างขวางและนุ่มนวล สะท้อนถึงความทะเยอทะยานและความใส่ใจในรายละเอียดของผู้สร้าง
อัลบั้มนี้ยังได้ส่งอิทธิพลต่อศิลปินมากมายในยุคต่อ ๆ มา และกลายเป็นผลงานคลาสสิก ที่ฟังครั้งใดก็ยังสัมผัสได้ถึงความลึกซึ้ง ความรู้สึกท้าทายทั้งในเรื่องการเผชิญอารมณ์ ความทะเยอทะยาน ความรักและความสูญเสีย พร้อมกับสร้างตำแหน่งให้กับตัวเองในประวัติศาสตร์ดนตรียุค 80s ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Cr. AllMusic
Everybody Wants To Rule The World
---
โฆษณา