19 พ.ย. เวลา 05:05 • ธุรกิจ

10 แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดก่อนวางมือ ที่เจ้าของธุรกิจครอบครัว ต้องลงมือทำตั้งแต่วันนี้

การส่งต่อธุรกิจครอบครัวให้กับรุ่นต่อไป ถือเป็นก้าวสำคัญที่ต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบ เพื่อให้ธุรกิจยังคงเติบโตและยั่งยืน การวางแผนการสืบทอดธุรกิจครอบครัว เพื่อส่งต่อกิจการ จึงไม่ใช่เพียงการโอนถ่ายความเป็นเจ้าของ แต่เป็นการส่งมอบความไว้วางใจ วัฒนธรรม และคุณค่าที่สั่งสมมายาวนาน รวมถึงการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และค่านิยมของครอบครัวด้วย ดังนั้น การเตรียมตัวล่วงหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงของความขัดแย้งภายในครอบครัว และทำให้การเปลี่ยนผ่าน (Transition) เป็นไปอย่างราบรื่น
ทั้งนี้ การวางแผนอย่างรอบคอบ จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวสามารถเติบโตและยั่งยืนต่อไปได้ แม้หลังจากที่ผู้ก่อตั้งได้วางมือไปแล้ว บทความนี้ ขอนำเสนอ 10 แนวทางปฏิบัติที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจครอบครัวสามารถเตรียมตัวสำหรับการสืบทอดธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนทางการเงิน การพัฒนาทายาท การสร้างเอกสารสำคัญ หรือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ดังต่อไปนี้
1. จัดทำแผนสืบทอดธุรกิจที่ชัดเจน
การวางแผนสืบทอดธุรกิจ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความละเอียดรอบคอบ เริ่มต้นจากการประเมินความพร้อมของธุรกิจและทายาทที่จะเข้ามารับช่วงต่อ ผู้นำองค์กรต้องกำหนดคุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้สืบทอด พร้อมทั้งวางแผนการพัฒนาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าทายาทจะมีความพร้อมในการรับมอบธุรกิจ
การกำหนดระยะเวลาและขั้นตอนการส่งมอบที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ ควรมีการแบ่งช่วงการถ่ายโอนอำนาจเป็นระยะ ๆ เริ่มจากการให้ทายาทเข้ามาเรียนรู้งาน การมอบหมายความรับผิดชอบที่สำคัญ และการถ่ายโอนอำนาจการตัดสินใจตามลำดับ พร้อมทั้งมีการติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
2. สร้างระบบการบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพ
การปรับเปลี่ยนจากธุรกิจครอบครัวแบบดั้งเดิมสู่การบริหารจัดการแบบมืออาชีพเป็นก้าวสำคัญ ต้องเริ่มจากการจัดทำโครงสร้างองค์กรที่ชัดเจน กำหนดบทบาทหน้าที่และสายการบังคับบัญชา พร้อมทั้งพัฒนาระบบการทำงานที่เป็นมาตรฐาน มีการกำหนดนโยบาย ระเบียบปฏิบัติ และคู่มือการทำงานที่ชัดเจน
การแยกการบริหารธุรกิจออกจากเรื่องครอบครัวเป็นสิ่งจำเป็น ต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารที่มีความเป็นมืออาชีพ มีระบบการประเมินผลงานที่เป็นธรรม และมีการตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและเหตุผลทางธุรกิจ มากกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว
3. พัฒนาทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
การสร้างทีมผู้บริหารที่มีความสามารถ เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในระยะยาว ธุรกิจครอบครัวควรเปิดกว้างในการสรรหาผู้บริหารมืออาชีพจากภายนอกที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเสริมจุดแข็งและเติมเต็มส่วนที่ขาด พร้อมทั้งสร้างทีมที่ปรึกษาที่มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจ
นอกจากนี้ การพัฒนาบุคลากรภายในให้มีศักยภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ต้องมีการวางแผนพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งการฝึกอบรม และให้โอกาสในการเรียนรู้และเติบโตในสายงาน เพื่อสร้างผู้นำรุ่นใหม่จากภายในองค์กร
4. จัดการด้านการเงินและภาษีอย่างรอบคอบ
การวางแผนภาษีและการเงินในการส่งมอบธุรกิจ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและการเงินเพื่อวางแผนการโอนกิจการที่มีประสิทธิภาพทางภาษี พร้อมทั้งจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อลดภาระภาษีและค่าใช้จ่ายในการโอนกิจการ
การจัดสรรสินทรัพย์ระหว่างสมาชิกครอบครัวต้องทำอย่างยุติธรรมและโปร่งใส ควรมีการวางแผนการจัดสรรผลประโยชน์และการสร้างความมั่นคงทางการเงินสำหรับผู้เกษียณ รวมถึงการจัดตั้งกองทุนครอบครัวเพื่อบริหารสินทรัพย์ในระยะยาว
5. สร้างธรรมนูญครอบครัว
ธรรมนูญครอบครัวเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดกติกาและแนวทางการบริหารธุรกิจครอบครัว ต้องมีการร่วมกันกำหนดกฎเกณฑ์การเข้าทำงานในธุรกิจที่ชัดเจน เช่น คุณสมบัติขั้นต่ำ ประสบการณ์ที่ต้องมี และเส้นทางการเติบโตในองค์กร เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สร้างความชัดเจนในการบริหารจัดการธุรกิจและทรัพย์สินชัดเจนและโปร่งใส
นอกจากนี้ ธรรมนูญครอบครัวควรครอบคลุมถึงแนวทางการแก้ไขความขัดแย้ง นโยบายการจ่ายผลตอบแทน และการกำหนดบทบาทของสมาชิกครอบครัวในธุรกิจ โดยต้องมีการทบทวนและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
**อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิก :
‘ธรรมนูญครอบครัว’ สำคัญอย่างไร?
6. พัฒนาทายาทอย่างรอบด้าน
การเตรียมความพร้อมทายาทต้องเริ่มตั้งแต่เยาว์วัย โดยส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาที่เหมาะสมและมีโอกาสสร้างประสบการณ์การทำงานจากภายนอกองค์กร เพื่อเปิดมุมมองและเรียนรู้วิธีการทำงานที่หลากหลาย รวมถึงการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจของตนเอง
การสร้างโอกาสการเรียนรู้ในธุรกิจ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรวางแผนให้ทายาทได้หมุนเวียนเรียนรู้งานในแต่ละแผนก เพื่อให้เข้าใจการดำเนินงานในทุกมิติ พร้อมทั้งปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่ดีงาม เพื่อให้สามารถสืบทอดและพัฒนาธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน
**อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม คลิก :
4 เคล็ดลับการส่งต่อกิจการ ให้การเปลี่ยนผ่าน ‘ธุรกิจครอบครัว’ ราบรื่น-ยั่งยืน
7. ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ทันสมัย
การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการเป็นสิ่งจำเป็นในยุคดิจิทัล ธุรกิจครอบครัวต้องลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ทั้งระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ
การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานต้องทำอย่างต่อเนื่อง มีการทบทวนและปรับปรุงกระบวนการทำงาน การนำเครื่องมือและเทคนิคการบริหารสมัยใหม่มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน
8. สร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ
การสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจต้องมองไปข้างหน้าและเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ การขยายช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่
การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ ต้องมีการพัฒนาจุดแข็งและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
9. เตรียมแผนรองรับภาวะฉุกเฉิน
การจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงและแผนรองรับภาวะฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็น ต้องมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงรอบด้าน ทั้งความเสี่ยงทางธุรกิจ การเงิน การปฏิบัติงาน และความเสี่ยงด้านบุคลากร พร้อมทั้งกำหนดแผนรองรับและมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
การกำหนดผู้รับผิดชอบและขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีฉุกเฉินต้องชัดเจน มีการซักซ้อมแผนอย่างสม่ำเสมอ และมีระบบสำรองข้อมูลสำคัญที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้แม้ในสถานการณ์ไม่ปกติ
10. สร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจในธุรกิจครอบครัว
การถ่ายทอดประวัติและความสำเร็จของธุรกิจครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้กับคนรุ่นต่อไป ควรมีการบันทึกและเผยแพร่
การวางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวที่ดี ต้องเริ่มต้นแต่เนิ่นๆ และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ก่อตั้ง ทายาท และทีมผู้บริหาร การปฏิบัติตามแนวทางข้างต้นจะช่วยให้การส่งมอบธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ สร้างความมั่นคงให้กับทั้งครอบครัวและธุรกิจในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การสืบทอดธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่น ๆ 10 แนวทางปฏิบัติที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ดีในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านธุรกิจ การสร้างแผนธุรกิจร่วมกัน การพัฒนาทายาท การสร้างเอกสารสำคัญ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการสืบทอดธุรกิจ การลงมือทำตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวของคุณเติบโตและยั่งยืนต่อไปได้อีกหลายชั่วอายุคน
โฆษณา