Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
20 พ.ย. เวลา 11:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เรือโนอาห์เงินสด 11 ล้านล้านของ Warren Buffett
ทำไมพ่อมดแห่งโอมาฮาถึงขายหุ้นแล้วถือเงินสดในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัท
🛳️ ในพระคัมภีร์ไบเบิล ยุคหนึ่งพระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์บนโลกเต็มไปด้วยความชั่วร้าย จึงตัดสินพระทัยที่จะล้างโลกด้วยน้ำท่วม แต่เนื่องจากโนอาห์เป็นคนชอบธรรม พระองค์จึงสั่งให้เขาสร้างเรือขนาดมหึมาเพื่อช่วยชีวิตครอบครัวของเขาและสัตว์โลกจากน้ำท่วมครั้งใหญ่
เมื่อน้ำท่วมมาถึง เขาพาครอบครัวและสัตว์ทั้งหลายเข้าเรือ น้ำท่วมนานถึง 40 วัน 40 คืน ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตบนแผ่นดินเสียชีวิต เหลือเพียงผู้คนและสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในเรือเท่านั้นที่รอดชีวิต หลังจากน้ำลด พระเจ้าทรงให้สัญญากับโนอาห์ว่าจะไม่ทำลายโลกด้วยน้ำท่วมอีก โดยมีรุ้งกินน้ำเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญานี้
💰 ที่หยิบเอาเรื่องราวของเรือโนอาห์ที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลมาพูดเพราะช่วงที่ผ่านมามีประเด็นที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกเริ่มทยอยขายหุ้นและสะสมเงินสดในอัตราที่เยอะมากๆ จนเกิดการคาดเดาถึงเหตุผลต่างๆ นานาว่าเพราะอะไรกัน
มีการเปรียบเทียบว่ามันคล้ายกับว่าเขากำลังสร้างเรือโนอาห์ของตัวเอง ขนเอาเงินสดเอาไว้ในนั้นเพื่อรอเหตุการณ์อะไรสักอย่างรึเปล่า?
เยอะแค่ไหน?
💵 รายงานล่าสุดบอกว่า Berkshire Hathaway ของปู่ได้ถือเงินสด พันธบัตรรัฐบาล และสินทรัพย์สภาพคล่องอื่นๆ แตะระดับสูงสุดที่ 325,000 ล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 11 ล้านล้านบาท)
เงินสดของบริษัทในตอนนี้มีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าตลาดทั้งหมดของ Berkshire เมื่อสิบปีที่แล้วด้วยซ้ำ โดยคิดเป็นอย่างน้อย 27% ของสินทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า 1.15 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาส - ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในรอบหลายปี (ก่อนหน้านี้คือ 2004 ซึ่งตอนนั้นถืออยู่ราวๆ 25%)
🤔 เงิน 325,000 ล้านดอลลาร์เยอะขนาดไหน?
เอามูลค่าตลาดของบริษัทอย่าง Starbucks + Ford + Twitter + The New York Times + Target + Zoom ยังได้แค่ประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้นเอง
⭐ [ #แล้วทำไมต้องถือเงินสด/สินทรัพย์เทียบเท่าเงินสดเยอะขนาดนี้? ]
เหตุผลสำคัญอย่างแรกเลยที่คงมองข้ามไม่ได้คือการขาดแคลนสิ่งที่น่าลงทุน บัฟเฟตต์เป็นนักลงทุนแบบเน้นมูลค่าที่เชี่ยวชาญในการหาหุ้นราคาถูก ซึ่งหาได้ยากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ลอว์เรนซ์ คันนิงแฮม (Lawrence Cunningham) ผู้อำนวยการศูนย์ Weinberg Center on Corporate Governance แห่งมหาวิทยาลัย Delaware และผู้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับบัฟเฟตต์และ Berkshire กล่าวกับ Business Insider ว่า "ผมได้ยินการคาดเดาทุกรูปแบบ ตั้งแต่การสะสมทุนเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤต ไปจนถึงการวางแผนจ่ายเงินปันผลก้อนใหญ่”
"ทั้งสองอย่างดูเป็นไปได้ยาก" เขากล่าว "สาเหตุที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดของการสะสมเงินสดที่ Berkshire คือการขาดโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ"
คันนิงแฮมอธิบายว่าการที่ตลาดหุ้นพุ่งสูงถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่าธุรกิจเอกชนก็เพิ่มสูงขึ้น ธุรกิจที่ Berkshire เป็นเจ้าของอย่าง Geico และ See's Candies ก็ใช้เงินได้จำกัด และหุ้น Class A ของ Berkshire ก็พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 700,000 ดอลลาร์ต่อหุ้น
มูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดที่ 58.13 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อไม่กี่วันก่อน คิดเป็น 198.1% ของ GDP สหรัฐฯ ในไตรมาสที่แล้ว ตามข้อมูลของ Wilshire Indexes
📊 ตัวเลขนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "ดัชนีบัฟเฟตต์" (Buffett Indicator) เครื่องมือวัดมูลค่าตลาดหุ้นที่บัฟเฟตต์ให้ความเชื่อถือ โดยคำนวณจาก: มูลค่าตลาดหุ้นรวมของประเทศ ÷ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) × 100
ยกตัวอย่างเช่น:
* ถ้าตลาดหุ้นมีมูลค่ารวม 20 ล้านล้านดอลลาร์
* และ GDP ของประเทศอยู่ที่ 10 ล้านล้านดอลลาร์
* ดัชนีบัฟเฟตต์จะเท่ากับ 200%
การแปลความหมาย:
* ถ้าดัชนีต่ำกว่า 90% = ตลาดหุ้นอาจมีราคาถูกเกินไป (Undervalued)
* ถ้าดัชนีอยู่ระหว่าง 90-115% = ตลาดหุ้นมีราคาสมเหตุสมผล (Fair Valued)
* ถ้าดัชนีสูงกว่า 115% = ตลาดหุ้นอาจมีราคาแพงเกินไป (Overvalued)
* ถ้าดัชนีเข้าใกล้ 200% = บัฟเฟตต์เตือนว่าเป็น "การเล่นกับไฟ" เพราะตลาดร้อนแรงเกินไป
🔥 ปัจจุบันดัชนีนี้อยู่ที่ประมาณ 198% ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นว่าตลาดหุ้นอาจมีมูลค่าสูงเกินจริงมาก และอาจเกิดการปรับฐานในอนาคต
พอล ดีทริช (Paul Dietrich) หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนที่ B. Riley Wealth Management บอกกับ Business Insider ว่าระดับ Wilshire 5000 ที่สูงขึ้นทำให้ "ตลาดหุ้นนี้มีมูลค่าสูงเกินจริงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ - สูงกว่าช่วงสูงสุดของฟองสบู่เทคโนโลยีในปี 2001-2002 ด้วยซ้ำ"
🎯 [ #เตรียมการ ]
จึงไม่น่าแปลกใจที่บัฟเฟตต์ไม่ได้ซื้อหุ้น Berkshire คืนเลยในไตรมาสที่แล้ว หลังจากใช้เงิน 20,000 ล้านดอลลาร์ซื้อหุ้นคืนระหว่างต้นปี 2022 ถึง 30 มิถุนายน 2024 - น่าจะเป็นเพราะเขาและทีมไม่เห็นว่าหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสมกับมูลค่าที่ควรซื้ออีกต่อไป
📉 นอกจากนั้นยังได้ลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นลง ขายหุ้นมูลค่า 133,000 ล้านดอลลาร์ในเก้าเดือนแรกของปีนี้ และซื้อเพียง 6,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
อีกประเด็นหนึ่งที่อาจจะมีความเป็นไปได้คือการคาดการณ์เรื่องการขึ้นของภาษีกำไรจากการขายหุ้นที่อาจจะขึ้น นอกจากนั้นแล้วตอนนี้ผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลที่เขาถืออยู่ก็มากกว่าเมื่อสามปีก่อนตอนที่อัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์มาก (ณ วันที่ 30 กันยายน Berkshire ถือครองพันธบัตรมูลค่า 288,000 ล้านดอลลาร์ - มากกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ซะอีก)
👔 คำอธิบายอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกยกขึ้นมาพูดคือเรื่องของการจัดระเบียบพอร์ตการลงทุนและกันเงินสดไว้เพื่อเตรียมให้ เกร็ก เอเบล (Greg Abel) ว่าที่ซีอีโอคนต่อไปของ Berkshire Hathaway ด้วย
เดวิด คาส (David Kass) ศาสตราจารย์ด้านการเงินที่มหาวิทยาลัย Maryland ผู้ติดตามผลงานของบัฟเฟตต์มาเกือบ 40 ปี แนะนำว่าบัฟเฟตต์อาจกำลัง "เตรียมการสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่เอเบลและเปิดโอกาสให้เขาตัดสินใจว่าจะลงทุนเงินเหล่านั้นอย่างไร”
แต่ถึงยังไงก็ตาม เราไม่มีทางรู้จริงๆ หรอกว่าการเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ของนักลงทุนวัย 94 ปีคนนี้คืออะไร ทำไมถึงต้องสร้างเรือโนอาห์ที่แบกเงินสดอยู่กว่า 325,000 ล้านดอลลาร์กันแน่
⚠️ บางทีคำอธิบายที่ดีที่สุด อาจจะเป็นคำอธิบายที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยก็ได้ อย่างดีทริชที่ยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้วบัฟเฟตต์อาจจะแค่กำลังเก็บเงินสดไว้เพราะเห็นพายุที่กำลังจะเกิดขึ้นก็ได้
"เขามีประวัติการขายหุ้นออกจากตลาดเมื่อดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่กลับหัว และดัชนีบัฟเฟตต์อันโด่งดังของเขากำลังส่งสัญญาณว่ากำลังจะเกิดตลาดขาลงหรือภาวะถดถอย" ดีทริชอธิบาย
บัฟเฟตต์อาจใช้เงินสดของเขาเพื่อซื้อ Apple และหุ้นอื่นๆ ที่เขาขายไปกลับคืนมาในราคาที่ถูกลงมากก็ได้ "หลังจากที่ตลาดหุ้นที่พุ่งสูงเกินจริงในปัจจุบันกลับลงมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง”
🎯 อย่าลืมว่าบัฟเฟตต์คือคนที่พูดประโยคสุดคลาสสิกที่บอกว่า “จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ” เพราะฉะนั้นเวลาที่เขาถอยออกจากตลาด เทขายหุ้นในช่วงที่ทุกคนต้องการซื้อ เราอาจจะต้องคอยระวังเอาไว้เช่นเดียวกัน
การต่อเรือเตรียมเงินสดไว้ก่อนสักหน่อยก็คงดีไม่น้อย หากเมื่อน้ำท่วมมาถึงจริง อย่างน้อยก็ยังจะมีโอกาสได้เห็นรุ้งกินน้ำหลังพายุฝนและน้ำเหือดแห้งลงไปแล้ว
อ้างอิง :
https://ca.finance.yahoo.com/.../warren-buffett-building
...
https://www.businessinsider.com/warren-buffett-berkshire
...
https://companiesmarketcap.com/.../berkshir.../cash-on-hand/
https://www.forbes.com/.../crucial-conclusions-from.../
https://www.finnomena.com/park-kathawut/buffett-indicator/
https://sherwood.news/.../berkshire-hathaway-selling
...
#aomMONEY #MakeRichGeneration #การเงินส่วนบุคคล #personalfinance #แนวทางการลงทุน #WarrenBuffett #วอร์เรนบัฟเฟตต์ #BuffettIndicator
9 บันทึก
16
10
9
16
10
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย