19 พ.ย. เวลา 07:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

นโยบายทรัมป์รอบใหม่ โอกาสหรือหายนะสำหรับ SME ไทย ?

สสว. เปิดบทวิเคราะห์ “นโยบายทรัมป์รอบใหม่ โอกาสหรือหายนะสำหรับ SME ไทย” แนะควรปรับตัวตามกระแสโลก เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยนโยบายทรัมป์รอบใหม่ โอกาสหรือหายนะสำหรับ SME ไทยว่าเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง โลกอาจเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด โดยเฉพาะตลาดการค้าและธุรกิจ SME ไทย ที่ต้องจับตามองว่าจะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้อย่างไร ความร้อนแรงของนโยบายทรัมป์จะนำไปสู่ทิศทางไหน และ SME ไทยจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้หรือไม่ มาดูบทวิเคราะห์แต่ละประเด็นได้ดังนี้
ปณิตา ชินวัตร รอง ผอ.สสว.
1.สงครามการค้า 2.0 : ใครได้ ใครเสีย ?
เมื่อทรัมป์ประกาศเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60% และประเทศอื่น ๆ 10-20% ส่งผลให้ SME ไทยอาจมีโอกาสก้าวสู่ตลาดสหรัฐฯ ในฐานะผู้ทดแทนสินค้าจากจีนมากขึ้น แต่สิ่งที่น่ากังวลคือจีนจะหันมาลงทุนในไทย และใช้ฐานการผลิตที่นี่ส่งออกไปสหรัฐฯ อาจทำให้ SME ไทยต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะในระยะยาวหากสินค้าจีนไม่สามารถส่งไปสหรัฐฯ ได้ และหันมาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต สหรัฐฯอาจจับตาและอาจขึ้นภาษีสินค้าจากไทย หรือให้ไทยติด Black List ซึ่งจะทำให้ตลาดส่งออกของ SME ได้รับผลกระทบมหาศาล
สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของ SME ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567
SME ไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ 5,492.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 59.7% นับเป็นตลาดส่งออกสำคัญลำดับที่ 3 ของ SME รองจากจีน และอาเซียน คิดเป็นสัดส่วน 13.5% ของมูลค่าส่งออกรวมไปยังสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ อุปกรณ์โทรศัพท์และสมาร์ทโฟน โซล่าร์เซลล์ และอุปกรณ์โซล่าร์เซลล์ หม้อแปลงไฟฟ้า อุปกรณ์สำหรับเครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์
2.การเปลี่ยนแปลงในกระแสการลงทุน : สหรัฐดึงบริษัทกลับบ้าน ไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ ?
นโยบายดึงดูดการลงทุนกลับสู่สหรัฐฯ โดยใช้มาตรการจูงใจทางภาษี อาจทำให้บริษัทต่าง ๆ หันไปลงทุนในอเมริกาแทนลงทุนในไทย สิ่งนี้อาจลดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทย แต่เทคโนโลยีที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานและต้นทุนที่ต่ำของไทย ยังทำให้ไทยน่าสนใจในสายตานักลงทุนบางกลุ่ม ซึ่ง SME
ไทยควรจับกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ในระยะสั้นการย้ายฐานการผลิตขนาดใหญ่ของธุรกิจเทคโนโลยีจากเอเชียไปยังสหรัฐฯ ยังไม่น่าเกิดขึ้นง่าย ๆ เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ค่าแรงงาน ปัจจัยการผลิต และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวยกว่าในเอเชีย
3.ปัญหานโยบายสีเขียวกับภาคอุตสาหกรรมไทย : โอกาสและความท้าทายที่กำลังมา
การที่ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลง Paris Agreement และการชะลอร่างกฎหมาย Clean Competition Act ของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ SME ไทย โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ธุรกิจขนส่ง รวมถึงเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรได้รับอานิสงค์ ทั้งนี้ในอนาคตขึ้นอยู่กับกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปค และการเจรจาต่อรองระหว่างผู้ค้าน้ำมันโลก สำหรับมาตรการสีเขียว การที่สหรัฐฯ จะยกเลิกควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศของโลก
ในระยะสั้นอาจเป็นผลดีต่อ SME ไทย อาจชะลอการลงทุนในการปรับตัว เพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว แต่ในระยะยาวจะส่งผลเสียต่อการผลักดันเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของไทย อีกทั้งยังส่งผลต่อการค้าในบางตลาดหรือคู่ค้าที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น สภาพยุโรป และประเทศที่มุ่งเน้นมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสูง ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หากการเมืองสหรัฐเปลี่ยนขั้วอีกครั้งก็จะมีผลทำให้ SME ปรับตัวไม่ทันหากยังคงไม่เริ่มดำเนินการ
4.การเมืองโลกที่ร้อนแรง : ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อผู้ผลิต SME ไทย
การสนับสนุนอิสราเอลอย่างเด่นชัดของทรัมป์ อาจยกระดับความรุนแรงของการต่อสู้ในตะวันออกกลาง ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งตะวันออกกลางเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตน้ำมันดิบของโลก อาจทำให้เกิดการหยุดการผลิตน้ำมันดิบ ส่งผลต่อปริมาณและราคาน้ำมันดิบ ทำให้ต้นทุน SME ไทยในภาคการผลิตและขนส่งสูงขึ้นกระทบยอดขาย โดยเฉพาะในภาคการค้าและบริการ รวมทั้งเพิ่มแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไร
5.การท่องเที่ยวไทยกับโลก : ความกังวลและความไม่แน่นอน ไทยจะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมได้หรือไม่ ?
หากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและตะวันออกกลางขยายตัว นโยบายที่ค่อนข้างแข็งกร้าวของ ทรัมป์อาจกระทบความเชื่อมั่นในภาพของเศรษฐกิจโลก หากนำนโยบายดังกล่าวมาใช้หลังเข้ารับตําแหน่งตามที่ประกาศไว้ จะทำให้ผู้คนทั่วโลกระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต กระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งของโลกและของไทย
อย่างไรก็ตามไทยยังคงเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่น่าสนใจอันดับต้นของโลก คาดว่ายังทรงตัวจากนักท่องเที่ยวกลุ่มรายได้สูงและกลุ่มนักลงทุน รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวที่ช่วยพยุงรายได้จากภาคการท่องเที่ยวของไทย
บทวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นว่า SME ไทยต้องเตรียมพร้อมและติดตามกระแสโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างกลยุทธ์รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายสหรัฐฯ เพราะโอกาสและความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นพร้อมกัน หากปรับตัวได้เร็ว ธุรกิจไทยอาจเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสและเติบโตได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/236868
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา