19 พ.ย. เวลา 08:52 • ความคิดเห็น
คุณค่าของหนังสือไม่ได้มากขึ้นหรือลดลงเพียงเพราะมีคนเปิดอ่านมาแล้วกี่ครั้ง แต่มันอยู่ที่ใครจะเข้าใจความหมายในหนังสือเล่มนั้น และหาคุณค่าในหนังสือเล่มนั้นเจอ ถ้ายังไม่เจอคุณก็แค่ยังไม่ใช่เจ้าของเท่านั้นเอง บางคนแค่ถือจอง 1 , 3 ,5 ปีแล้ววางลง สุดท้ายเขาก็ยังไม่ใช่เจ้าของของมัน หนังสือเล่มนึงมีความหมายมากกว่าที่ทุกคนที่เปิดอ่านจะเข้าใจได้เหมือน ๆ กัน ไหนเนื้อหาด้านในยังจะอัพเดตอยู่เรื่อย ๆ อีก คุณอัพเดทไปพร้อมหนังสือรึจะนึกถึงแค่วันแรกที่เปิดขึ้นมาอ่าน ความสัมพันธ์ก็เหมือนกัน
คนเราเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอมากกว่าที่เราคิดนะ เราเองยังเปลี่ยนเลย ลองนึกภาพตัวเอง 5 ปีก่อน กับปัจจุบันสิ นิสัย ความคิดอ่านเหมือนเดิมไหม ที่เราทุกข์ ที่เราอิจฉา ที่เรารู้สึกไม่ดี เป็นเพราะเรายังไม่เข้าใจธรรมชาติของมันเราเลยทุกข์ใจ เรายังไม่เข้าใจว่าสิ่งใด ๆ ล้วนเปลี่ยนแปลงได้
ครั้งหนึ่งคนคนนี้เคยใช่ในทัศนะก่อน 5 ปีที่แล้ว ทั้งที่ 5 ปีนี้เราเปลี่ยนไปไหนต่อไหนแล้วเขาก็ยังคงอยู่ที่เดิม เรายึดมั่นในความคิดที่ว่าเขาคบกันเขาต้องรักกันมาก เขาต้องมีความสุขมากเพียงอย่างเดียว ซึ่งความจริงนั้น แม้ความสัมพันธ์ใด ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรักมันก็มีปัญหาในตัวเอง ถึงไม่ทะเลาะก็ยังมี โกรธ ปึ่ง งอน เป็นเรื่องธรรมชาติเลย นับประสากับคนสองคนมาคบกัน สนิทกัน มันจะดีอย่างเดียวตลอดรอดฝั่ง มันคงไม่ถึงวันที่ต้องจบลง
เราไม่จำเป็นต้องให้อภัยใคร ๆ ต้องรักต้องเกลียด หรือต้องเข้าใจ แต่เข้าใจว่าเขาคือปุถุชนธรรมดาเหมือน ๆ กันกับเรา มีความรู้สึก มีความต้องการเหมือนกันกับเรา ในอดีตสิ่งนั้นล้วนเกิดไปแล้ว แต่มันก็จบลงแล้วเช่นกัน เราถึงเป็นเรา เป็นเขาและอยู่หล่อหลอมกลายเป็นเราในทุกวันนี้
ซึ่งไม่ต้องห่วง คุณไม่ได้ผิดและไม่ได้เพิ่งคิดสิ่งนี้เป็นคนแรก คนเมื่อก่อนก็มองจันทร์ดวงเดียวกับเราไม่ว่าจะ 50 100 500 ปี ดวงจันทร์ก็ยังคงดวงเดิม แต่เห็นไหมคนที่อยู่มองจันทร์กลับเปลี่ยนไปแทนล้มหายตายจากกันไป สุดท้ายเรื่องความรู้สึกมีแค่ชนกลุ่มหนึ่ง มีแค่ตัวเราที่ให้ค่าอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง และมันก็ดับไปตามเวลา อยู่ที่เราจะรู้สึกตัวเร็วหรือช้าและจะให้เวลาของความทุกข์มาครองในจิตใจไปอีกนานเท่าไรกันนะ เท่านั้นเอง
สังขารร่างกาย ธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดที่ดีพร้อม ที่ perfect ยิ่งเราถลำลึกลงไปยิ่งเห็นแต่ defects มากมาย เราเปรียบเหมือนกระจกหลากรูปร่างมาต่อกัน ต่อแล้วก็แตก แตกแล้วก็ต่อใหม่ วนไปไม่จบสิ้น เราไม่ได้อยู่มาได้ในจุดที่ดีที่สุด perfect ที่สุด แต่เราอยู่มาได้ในจุดที่เหมาะสมกับมันในแต่ละช่วงเวลาเท่านั้นเอง
สุดท้ายก็หวนคืนสู่จุดเดิม เรา เขา คนที่เรารัก คนที่เราชัง ก็มีจุดเดียวกันในวาระหนึ่ง จงเข้าในว่าเราและเขาคือ human being ความรู้สึกไม่ใช่เรื่องผิด แต่ตรึกตรองสักนิดว่าสุดท้ายเราต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ เราจะทำไม่ดีใส่เขาอีกครั้งแล้วเราจะต่างอะไรกับสิ่งที่เขาจบมา คนเราจบเพื่อหาสิ่งใหม่ที่ดีขึ้น เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่จบเพื่อหาคนที่คิดแทนเขาหรือทำร้ายเขาดังเดิม
เรารักกันในวันที่ยังมอบความรักให้แก่กันได้ ถ้าเขารักคุณและคุณก็รักเขา มีความทรงจำใหม่ ๆ ที่ดีต่อเนื่องไป คุณเลือกได้ว่าจะให้เป็นไปหรือให้จบลง แล้วคนแบบไหนล่ะที่ดีพอและสมบูรณ์แบบไม่มีผิดพลาดเลยในความคิดของคุณ แล้วคุณล่ะสมบูรณ์แบบสำหรับผู้อื่นหรือยัง บางครั้งคนที่เราควรมองอาจไม่ใช่ใครอื่น แต่ลองมองลงไปในใจเราให้ลึก ๆ ถามใจตัวเองให้มาก
ความรู้สึกไม่ใช่เรื่องผิด แต่คิดแล้วเราได้อะไรมากกว่า เราเติบโตขึ้นจากสิ่งที่เราคิดไหม แต่ถ้าสุดท้ายเราตัดความคิดไม่ได้แทนที่ความสัมพันธ์จะทำให้เราดีขึ้น อยากเป็นคนที่ดีขึ้น แต่กลับแย่ลงเหนี่ยวรั้งความคิดจิตใจ การอยู่คนเดียวอย่างดีก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร และเราไม่ได้แพ้ในความรักอะไรทั้งนั้น เราชนะเพราะเรารักตัวเองถูกทางต่างหากค่ะ
โฆษณา