เก็บมาเล่า: เผาทิ้งทุพพจนะ

(ขออนุญาตนำเสนอตามต้นฉบับ)
คุณประชา แสงทองสุข อดีตอุบาสกที่เลื่อมใสศรัทธาสำนักทุพพจนะ เมื่อหลายปีก่อน
(ขออภัย.! ไม่อาจใช้คำว่า "สำนักพุทธวจนะ" ได้ เพราะคำว่า "พุทธวจนะ" เป็นถ้อยคำบริสุทธิ์สูงส่ง ไม่เหมาะที่จะนำเอามาใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะในทางพาณิชย์ค้าขาย)
เข้า-ออก ไป-มา ฟังธรรม-สนทนาธรรมอยู่เนืองๆ
ภายหลัง คุณประชาเริ่มเห็นผิดสังเกตมีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่ ๓ ในทางรุกราน ตำหนิติเตียนอยู่บ่อยๆ ซึ่งมิใช่ลักษณะของสัตบุรุษ รู้สึกเป็นไปในทางบาปอกุศลที่น่ากลัว จึงก้าวกลับออกมา และไม่ไปสำนักนั้นอีกเลย
ระหว่างไปๆ มาๆ เข้าออกสำนักนั้น อยู่ในช่วงหลายปีก่อน คุณประชาก็ได้อุดหนุนหนังสือที่ใช้คำว่า "พุทธวจน" กำกับทุกเล่ม หมดเงินไปหลายร้อยบาท และยังให้ปัจจัยส่วนเพิ่ม คือทำบุญถวายความบำรุงวัดไปอีกด้วย คาดว่าไม่น้อย
ครั้นออกมาแล้ว คุณประชาก็มาศึกษาธรรมะพระอภิธรรม จึงรู้ว่าข้อความในหนังสือเล่มนั้นๆ ทำการปรับแปลสำนวนใหม่ เห็นความผิดพลาดคลาดเคลื่อนอยู่
แสดงให้เห็นว่า ทีมงานผู้ช่วยกันปรับแปลซึ่งเป็นฆราวาสเหล่านั้นขาดความรู้ในเรื่ององค์ธรรม เช่นที่เห็นแปลไปเป็นอื่น คือ "สมชีวิตา" เดิมท่านแปลว่า "ความมีชีวิตหรือดำรงชีวิตอย่างพอเหมาะสมพอดี" ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า "มัตตัญญุตา : ความรู้จักประมาณพอเหมาะ" ก็ปรับแปลใหม่เป็น "ความมีชีวิตสม่ำเสมอ" ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตไปอย่างไร ชวนให้เข้าใจไขว้เขว และบางเล่มก็ตั้งชื่อง่ายๆ เช่น "มรรค วิธีที่ ง่าย ละนันทิจิตหลุดพ้น" (ไม่อ่านตัวหนังสือเล็กๆ ก็พลอยอ่านออกเสียงว่า "มักง่าย") คุณประชาบอกว่า ออกทะเลไปไกล
สำหรับข้าพเจ้ามองว่า การแปลพุทธวจนะเพื่อนำไปสู่อนุตรธรรมระดับ "วิมุตติ หลุดพ้น" กันง่ายๆ อย่างนี้ คือพูดกันง่ายๆ เอากันง่ายๆ ถือว่าทำอันตรายต่ออริยมรรคอริยผลที่พระพุทธเจ้ากว่าจะตรัสรู้บำเพ็ญบารมีมายาวนานไม่รู้กี่กัปกี่กัลป์กี่อสงไขย เรียกว่า ทำให้ตื้นเขิน มองเจตนาก็พอรู้ได้ว่า ต้องการให้ผู้คนชอบใจ ดึงเข้าสู่ความสนใจของตนเอง เพื่อเพิ่มปริมาณมวลชนเท่านั้น
คุณประชาไม่สบายใจที่จะอ่านหนังสือหลายเล่มที่วางเรียงซ้อนกันภายในห้องของตน ซึ่งกินพื้นที่อยู่ต่อไปอีก(ซื้อมานานแล้ว จนฝุ่นจับหนาต้องปัดฝุ่นออกก่อนถ่ายภาพ) ครั้นจะนำไปมอบให้ใครคนอื่นก็เกรงว่าจะไปสร้างความเข้าใจผิดมหันต์ จึงไม่รู้จะทำโดยประการใด
เมื่อสนทนากันในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าก็เลยให้คำแนะนำไปว่า "คุณประชาควรทำพิธีขอขมาพระรัตนตรัย และทำการเผาหนังสือเหล่านั้นทิ้งเสีย โดยเจตนาเผาถ้อยคำที่แปลผิดทำอันตรายต่อพระสัทธรรม มิได้เผาพุทธวจนะที่เป็นพระสัทธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นคำบาลี"
คุณประชายินดีทำตามคำแนะนำนั้น "เผาทิ้งทุพพจนะ" ทั้งหมด ช่วงมีเวลาตอนเย็นมืดค่ำ แล้วจึงได้ส่งภาพเผาหนังสือทิ้งไม่เหลือซาก พร้อมคำขอขมาพระรัตนตรัยมาให้ข้าพเจ้าทราบ
ข้าพเจ้าขออนุญาตนำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อให้อยู่ในวิจารณญาณของท่านสาธุชนชาวพุทธทั้งหลาย
คุณประชาได้ส่งข้อความมาว่า ดังนี้
— (เนื้อความ) —
คำขอขมาพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายก็ดี หรือวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดงดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
ในครั้งนี้ข้าพระพุทธเจ้าจะต้องเผาทิ้งทำลายตำราของพุทธวจนซึ่งสอนให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งพุทธพจน์ที่ถูกต้องของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้คงสืบต่อไป
กราบนมัสการครับพระอาจารย์
ตามคำแนะนำของพระอาจารย์ ผมจัดการเผาตำราของพุทธวจนทิ้งทั้งหมด โดยขอขมาต่อพระรัตนตรัยเพื่อทำลายเอกสารที่มีพระบาลีอันเป็นภาษาที่พระพุทธเจ้าใช้
ผมเห็นว่า เป็นวิธีที่มีประโยชน์หากต้องการจะทิ้งสิ่งใดที่ไม่ใช้ประโยชน์แล้ว ก็ให้ขอขมาก่อนที่จะนำไปทิ้งครับ.
#ชีวิตสำคัญที่เป้าหมาย วิธีคิด และการกระทำ
โฆษณา